นักโทษหนีคดีโกงชาติ 2 แสนล้าน เดินหน้าสร้างราคาให้ตัวเอง ฝันเฟื่องเปิดทีวี 100 ช่อง ครอบคลุมทั่วโลก อ้างเอาไว้ขายของโอทอปถ่ายทำชีวิตคนจนเอาไปขอบริจาคคนมีเงิน และติวเด็กนักเรียน อ้อนสาวกขอให้มีโอกาสได้กลับมารับใช้บ้านเมือง
หลังจากจัดการให้บรรดาคนใกล้ชิดจัดงานทำบุญวันเกิดตามวัดต่างๆ ในแต่ละภูมิภาคพร้อมกันแล้ว เมื่อเวลาประมาณ 20.30 น.วันที่ 26 ก.ค. พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จำเลยและนักโทษคดีทุจริตที่หลบหนีไปอยู่ต่างประเทศ ได้ส่งสัญญาณวิดีโอลิงก์ผ่านสถานีโทรทัศน์พิเพิลทีวีของกลุ่มคนเสื้อแดง และแพร่ภาพไปยัง 3 เวทีหลักที่จัดงานวันเกิดให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ทั้งที่ภัตตาคารมังกรหลวง ย่านบางนา วัดอุทัยธาราม ย่านบางกะปิ และ อ.อาจสามารถ จ.ร้อยเอ็ด
พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า ขออนุโมทนากับทุกคนที่มาทำบุญให้กับตนเองในวันนี้ และขอให้ผลบุญครั้งนี้ทำให้ได้มีโอกาสกลับไปรับใช้พี่น้อง เพื่อเป็นการตอบแทนบุญคุณทุกคน ถ้าได้กลับจริงได้รับพระเมตตาจริง ก็พร้อมรับใช้พี่น้องและรับใช้สถาบันอย่างเต็มที่
พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวถึงบิ๊กเซอร์ไพรส์ที่มีการสร้างกระแสข่าวไปก่อนหน้านี้และอ้างว่านายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีคงคิดไม่ถึงว่า สิ่งที่อยากทำที่สุดตอนนี้ คือ การทำทีวีประมาณ 100 ช่อง เพื่อออกอากาศไปทั่วโลก โดยจะมีช่องสำคัญที่ทำเพื่อคนไทย 3 เรื่อง คือใช้สำหรับขายสินค้าโอทอปผ่านทีวีไปทั่วโลก ให้นักธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ที่ไม่มีกำลังไปทำการตลาดสามารถมาใช้บริการได้ เรื่องที่ 2 ใช้สำหรับทำเรียลิตี้การแก้ไขปัญหาคนจนโดยจะถ่ายทำชีวิตคนจนในไทยและไปขอบริจาคจากคนมีเงินทั่วโลก และเรื่องที่ 3 จะใช้ในการศึกษา โดยหาครูที่เก่งๆ มาติวนักเรียนไทยผ่านโทรทัศน์
พ.ต.ท.ทักษิณ อ้างว่า ครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่คนที่เป็นอดีตนายกฯ ได้รับความเมตตาจากชาวบ้านธรรมดาที่รวมพลังกัน เพื่อให้ได้รับความเป็นธรรม ซึ่งถือว่าตนเป็นคนมีบุญ ถึงแม้จะมีกรรมต้องชดใช้ รู้สึกซาบซึ้ง และถือเป็นบุญคุณยิ่งใหญ่ที่ต้องหาทางตอบแทนให้ได้
นักโทษหนีคดีกล่าวอีกว่า มีคนถามว่าจะยอมแพ้หรือไม่ ขอบอกว่าน้ำใจที่พี่น้องให้ถือว่าใหญ่โตมโหฬารที่หาไม่ได้อีกแล้วในชีวิตของคนคนหนึ่ง ดังนั้น ต้องต่อสู้เพื่อเรียกร้องความยุติธรรม ให้มีโอกาสรับใช้พี่น้องเพื่อตอบแทนบุญคุณ ถึงแม้ว่าจะมีโอกาสได้ทำธุรกิจมากมายในต่างประเทศ สำหรับในต่างประเทศช่องทางมีอีกมาก แต่ประเทศไทยมัวแต่ทะเลาะกัน อยากให้ประเทศไทยกลับสู่ภาวะปรองดองโดยเร็ว ไม่ต้องทะเลาะกัน ควรเป็นสีธงไตรรงค์ ธงชาติไทยเหมือนกัน
จากนั้นกลุ่มคนเสื้อแดงได้ร่วมกันร้องเพลงแฮปปี้เบิร์ธเดย์อวยพรวันเกิดให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ขณะที่ พ.ต.ท.ทักษิณได้เป่าเค้กวันเกิดไปพร้อมๆ กับกลุ่มคนเสื้อแดง จากนั้นเป็นการจุดพลุเฉลิมฉลอง ที่ภัตตาคารมังกรหลวง โดยที่เวทีแห่งนี้ มีนายจิรายุ ห่วงทรัพย์ เป็นพิธีกร ขณะที่นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ น้องสาว พ.ต.ท.ทักษิณสลับกันขึ้นกล่าวกล่าวขอบคุณกลุ่มคนเสื้อแดงที่มาร่วมงาน
นางเยาวภากล่าวว่า ขอขอบคุณพี่น้องเสื้อแดงที่มีหัวใจรักประชาธิปไตย และออกมาต่อสู้เพื่อพ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งในช่วงบ่ายวันนี้ พ.ต.ท.ทักษิณได้โทรศัพท์มาสอบถามว่าคนมาร่วมงานมากหรือไม่ ได้แกล้งตอบไปว่าคนน้อย ทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณเสียงอ่อนลงไป แต่เมื่อบอกความจริงว่าคนมาร่วมงานจำนวนมาก ทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณดีใจและขอให้ช่วยถ่ายรูปและวิดีโอส่งไปให้ เพื่อนำไปจัดนิทรรศการที่นครดูไบ
รายงานข่าวแจ้งว่า การจัดงานวันเกิด พ.ต.ท.ทักษิณครั้งนี้ถือเป็นอีเวนต์ใหญ่ครั้งแรก นับตั้งแต่ พ.ต.ท.ทักษิณใช้วิดีโอลิงก์ปลุกปั่นคนเสื้อแดงให้ออกมาชุมนุมขับไล่ประธานองคมนตรีและรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนั้นภาพลักษณ์ของคนเสื้อแดงและ พ.ต.ท.ทักษิณถูกทำลายลงอย่างย่อยยับ เมื่อคนเสื้อแดงใช้ความรุนแรงก่อการจลาจลล้มการประชุมอาเซียนที่พัทยา รุมทุบรถนายกฯ ที่กระทรวงมหาดไทย ปิดถนนสายสำคัญหลายสายในกรุงเทพฯ ยึดรถเมล์ไปเผาทำลายกว่า 50 คัน นำรถแก๊สไปข่มขู่ประชาชนที่แฟลตดินแดง ยิงมัสยิดที่ถนนเพชรบุรีซอย 5 และซอย 7 รวมถึงยิงชาวบ้านนางเลิ้งเสียชีวิต 2 คน ทำให้แกนนำคนเสื้อแดงถูกจับกุมดำเนินคดีและ พ.ต.ท.ทักษิณถูกหมายจับในข้อหายุยงปลุกปั่นด้วย
ทั้งนี้ พ.ต.ท.ทักษิณยังคงมีคดีทุจริตที่ก่อขึ้นระหว่างดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีประมาณ 17 คดี ที่คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ได้ชี้มูลความผิดไว้แล้ว คิดเป็นมูลค่าความเสียหายรวมประมาณ 2 แสนล้านบาท โดยมีคดีที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองตัดสินไปแล้วคือคดีซื้อขายที่ดินย่านถนนรัชดาภิเษก ซึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณต้องรับโทษจำคุก 2 ปี แต่ พ.ต.ท.ทักษิณได้หลบหนีออกต่างประเทศไปก่อน และพยายามชักใยให้กลุ่มคนในเครือข่ายทั้งในนามพรรคเพื่อไทยและกลุ่มคนเสื้อแดงดำเนินการทุกวิถีทางให้เขาพ้นจากความผิดให้ได้ โดยมีกิจกรรมที่ดำเนินการอยู่ในขณะนี้คือการล่ารายชื่อประชาชน 1 ล้านคนเพื่อยื่นถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งผิดทั้งประเพณีปฏิบัติ และเป็นการกดดันพระราชอำนาจไปด้วย