นักการเมืองที่ความเชื่อถือติดลบลงทุกวัน คงต้องชี้ไปที่ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง
ล่าสุดกับการแสดงสปิริตชิงลาออกจาก ส.ส.ก่อนที่คดีขาดคุณสมบัติ ส.ส.เนื่องจากมีหุ้นต้องห้ามจะสะเด็ดน้ำ โดยไม่ยอมรอคำตอบสุดท้ายคำวินิจฉัยชี้ขาดจากศาลรัฐธรรมนูญ
คงคิดว่า เรื่องนี้น่าจะโกยคะแนนนิยมให้ได้บ้าง แต่ที่ไหนได้ ปฏิกิริยาต่อการเสียสละเก้าอี้ ส.ส.ครั้งนี้ สุเทพกลับได้รับก้อนอิฐ มีแต่ข้อครหานินทาตามมา
สังคมไม่เชื่อน้ำยาว่า เป็นการแสดงจริยธรรมจากสำนึก และด้วยความจริงใจ
ในท่ามกลางข้อครหาก็มีเป็นต้นว่า สุเทพหวัง ใช้จังหวะโอกาสที่มีอำนาจรัฐอยู่ในมือเปิดทางแจ้งเกิดให้แก่ลูกชายคนโต คือนายแทน เทือกสุบรรณ หรือน้องชายคนเล็กนายธานี เทือกสุบรรณ คนใดคนหนึ่งไม่อาก็หลานจะได้ลงในนามประชาธิปัตย์แน่ และน่าเชื่อว่าจะชนะไม่ยาก เนื่องจากพื้นที่สุราษฎร์ฯ ปชป.ส่งเสาไฟฟ้าลงยังได้เลย ว่ากันถึงขนาดนั้น
ทั้งครั้งนี้ ฝ่ายรัฐบาลจะต้องทุ่มสุดตัวเพื่อกู้ชื่อให้ได้ หลังพ่ายหมดรูปแก่เพื่อไทยและทักษิณ ชินวัตรในการเลือกซ่อมที่ภาคอีสาน ถึงสองสนามติดๆ กันในสองสัปดาห์เมื่อเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา
เป็นเหตุให้รัฐบาลหน้าแตกแบบหมอไม่รับเย็บ ยิ่งนายเนวิน ชิดชอบกับภูมิใจไทยเจอเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่สกลนครยังนอนฝันร้ายสะดุ้งผวาจนถึงวันนี้ ทั้งๆ ที่โหมประโคมต้องการเอาฤกษ์ปักธงน้ำเงินในภาคอีสานแห่งแรกที่นั่น แต่ธงชัยต้องหักสะบั้น
มนต์หมอผีหรือจะสู้อิทธิฤทธิ์ปีศาจหน้าเหลี่ยม
เพราะฉะนั้น ถ้าจะกู้หน้ารัฐบาลได้ ก็ต้องเลือกซ่อมที่พื้นที่ภาคใต้ แต่อย่างไรก็ตาม งานนี้ “ทักษิณ” ก็คงไม่ปัญญานิ่มที่จะส่งคนของ “เพื่อไทย” ให้ไปตายเป็นแน่ เมื่อมองไปข้างหน้า“สุเทพ” ส่งใครลงก็ต้องได้แน่ แต่เลือกตั้งจะกร่อยเพราะไม่มีคู่แข่งที่สมศักดิ์ศรีลงชิงชัย ถึงจะชนะได้คนของตนเองเข้ามาเป็น ส.ส.ก็จะขาดความสง่างาม หนีไม่พ้นที่จะถูกติฉินว่าไม่เป็นประชาธิปไตย
คิดทำอะไรก็ถูกจับได้ไล่ทันไปเสียหมด ไม่ใช่เพราะ “สุเทพ” ดวงซวย แต่น่าจะเป็นเพราะขาดความจริงใจมากกว่า สมัยนี้คิดจะขยับเขยื้อนกลยุทธ์อะไร หากมีวาระซ่อนเร้นแอบแฝงก็อย่าหวังจะให้คนหลงเชื่อได้ง่าย ยิ่งเกมตื้นๆแบบนี้มันแค่เอา “กุ้งฝอยตกปลากะพง” มีหรือใครจะคิดไม่ทัน
ก่อนหน้านี้ ภารกิจหน้าที่ในฐานะรองนายกฯฝ่ายความมั่นคง ได้พิสูจน์ความสามารถของ “สุเทพ” จากเหตุการณ์ต่างๆ มาแล้วหลายครั้ง สรุปว่าสอบตก
ปัญหาเล็กก็แก้ไม่ได้ เรื่องใหญ่ก็ขยายวงกว้างออกไปเรื่อยๆ อย่างไม่มีจุดที่จะหยุดได้แล้วในตอนนี้ เช่นปัญหา “ทักษิณป่วนชาติ” ที่วันนี้กำเริบเสิบสานหนักข้อขึ้นอีกได้ ก็เพราะความไม่เอาอ่าวในฝีมือการทำงานของ “รองนายกฯ สุเทพ” ส่วนหนึ่ง
มาถึง คดีลอบสังหาร สนธิ ลิ้มทองกุล เป็นอีกครั้งที่ได้พิสูจน์ฝีมือและตัวตนของ “สุเทพ”
หลังจากมีความคืบหน้าของคดีที่เป็นภารหน้าที่ที่ฝ่ายการเมืองต้องตัดสินว่า จะยืนอยู่ข้างฝ่ายธรรม หรือจะเข้ากับกลุ่มอำนาจมืด ก็มีแต่นายกรัฐมนตรีอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะคนเดียวที่แสดงจุดยืนในเรื่องนี้ชัดเจน ว่าเขาเลือกข้างประชาชน ต้องการอำนวยความเป็นธรรมให้กับนายสนธิ
ต้องยกเครดิตให้นายกฯ อภิสิทธิ์ในเรื่องนี้ เหตุเพราะคดีลอบสังหารสนธิคืบหน้ามาจนถึงพนักงานสอบสวนของ พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รอง ผบ.ตร. ขอหมายจับ 2 ผู้ต้องหา ทั้งๆที่กว่าจะมาถึงจุดนี้ได้ การทำคดีต้องบุกฝ่าทะลวงอุปสรรคทั้งตอใหญ่ตอเล็ก และแหวกวงล้อมไส้ศึกมาได้อย่างลำบากแสนสาหัส หาก “อภิสิทธิ์” ไม่กล้าออกมาชนมีหรือที่ตำรวจทีมสอบสวนเพียงหยิบมือเดียวจะกล้าเดินหน้า
แต่สำหรับ “สุเทพ” กำลังทำตัวขวางกระแสความจริง และกำลังน่าสงสัยว่าเขาคิดจะทำอะไรอยู่ในคดีนี้
จนหวั่นว่าคดีที่จะราบรื่นไปได้ ก็ต้องเจอ “ตอดำใหญ่” ออกมาขวางในวันนี้ อาจส่งผลให้คดีต้องสะดุดไปอีกครั้ง
“สุเทพ” คงลืมว่า เขามีภารกิจหน้าที่ดูแลความมั่นคง และยังได้รับมอบหมายจากนายกรัฐมนตรีให้ดูแลสำนักงานตำรวจ ย่อมเป็นหน้าที่และมีอำนาจตามกฎหมายอยู่ในมือที่จะเข้าไปช่วยสะสางคลี่คลายคดียิงนายสนธิให้ทีมสอบสวนของ พล.ต.อ.ธานีทำงานให้สำเร็จได้โดยเร็ว เพื่อจะได้ตีแผ่ความจริงออกมา ให้รู้กันว่า ใครคือจอมบงการที่ออกคำสั่งฆ่านายสนธิ
เพราะตอนนี้สำนวนการสอบสวนก็สามารถระบุถึงทีมยิงได้แล้ว ซึ่งมีตัว พ.อ.(ส) จากหน่วยรบพิเศษเป็นหัวหน้าชุด ที่มีหลักฐานแวดล้อมอื่นๆที่ชี้ชัดว่ารับคำสั่งจากใครมาสังหารนายสนธิ นอกจากหลักฐานการโทรศัพท์ติดต่อในทีมฆ่าและข้ามไปถึงคนสั่งฆ่า!
หากคนดูแลความมั่งคงอย่าง “สุเทพ” ออกแอ็กชันที่จะอำนวยความเป็นธรรมให้แก่คดีสนธิอย่างแข็งขัน รับรองว่าขบวนการสุนัขลอบกัดทั้งชุดหนีไม่รอดสักคน ทั้งคนยิงและคนสั่งการเพราะพยานหลักฐานทุกด้านมัดแน่น
ในทางตรงข้าม เมื่อ “สุเทพ” ไม่เอาด้วยเสียคน คอยแต่ออกมาพูดและแสดงท่าทีที่แทงกั๊กกับทีมสอบสวน ทั้งยังแสดงออกมาในเชิงให้การ “อุ้ม” คนบางคนไม่ให้พ้นจากการเป็นขวากหนามของการทำคดีนี้ จนคนในพรรคเดียวกันมองว่าเลขาฯของพรรคทำตัวเป็น “ม้ารับใช้”ของสองพี่น้องที่พัวพันคดีลอบสังหารสนธิไปแล้ว
คนผิดก็เลยได้ใจ ย่ามใจว่า ไม่มีใครที่จะไปทำอะไรเขาได้ แม้แต่คนมีอำนาจอยู่ในมือแท้ๆที่พร้อมชี้เป็นชี้ตายไปตามความจริง ก็ยังศิโรราบให้กับกลุ่มพวกเขา
คดีสนธิที่ทำท่าจะเดินหน้าไปถึงขั้นใกล้ปิดฉาก โดยจับคนผิดมาลงโทษตามกฎหมายบ้านเมือง เวลานี้ก็คง “ติดทางตัน” เพราะเหตุฝ่ายการเมืองอยู่ใต้อำนาจครอบงำของโจร
เห็นใจ “นายกฯ อภิสิทธิ์” ออกมาหนุนการทำงานของทีม พล.ต.อ.ธานี สู้กับบรรดาตอและพวกหนอนบ่อนไส้ในคดีนี้ หวังจะขุดรากถอนโคนให้สิ้นซาก แต่ก็ไม่ได้รับการสนองตอบอย่างที่ควรจะได้จากคนข้างตัว ล่าสุดอยากจะปลด “หัวตอคนสีกากี” ใจจะขาด ก็ทำไม่ได้เพราะข่าวบอกว่ามีคนบางคนกระโดดเข้ามาห้ามไว้
หรือว่า “สุเทพ” จะปฏิเสธ!
