โฆษกส่วนตัวนายกฯ สวนกลับเพื่อไทยอย่าเร่งยุแยงให้แก้ รธน.เคารพประชามติ 14 ล้านเสียงเห็นชอบ รธน.ปี 50 ดักคอไข่แม้วเอะอะเรียกร้องแก้ รธน.หวังช่วยคนผิดให้พ้นโทษ ยืนยัน ปชป.ไม่เคยคิดแก้ รธน.เพื่อช่วย 13 ส.ส.
วันนี้ (20 ก.ค.) นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทย เรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีแสดงจุดยืนการแก้รัฐธรรมนูญว่า นายกฯ ได้แสดงท่าที่ชัดเจน และจริงใจกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาโดยตลอด ถ้านายกฯ ไม่จริงใจ คงไม่ริเริ่มให้นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร แต่งตั้งคณะกรรมการ 2 ชุด เพื่อสะสางปัญหาดังกล่าว และวันนี้ได้มีข้อสรุปของคณะกรรมการฯและได้ส่งมอบนายกฯ โดยเฉพาะประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ดังนั้น การที่พรรคเพื่อไทยจะมาเรียกร้องและบังคับให้นายกฯ ชี้ชัดว่าจะแก้มาตราไหนบ้างนั้น ส่วนตัวคิดว่านายกฯ ไม่ใช่คนที่เอาความคิดตัวเองเป็นใหญ่ ต้องรับฟังความเห็นของประชาชนและให้เกียรติเสียงประชามติ 14.7 ล้านเสียง ที่ให้ความไว้วางใจกับรัฐธรรมนูญฉบับปี 50 เพราะฉะนั้น ก่อนที่จะทำอะไรลงไปต้องคำนึงเสียงส่วนนี้ด้วย
นายเทพไทกล่าวว่า ทางออกที่ดีที่สุดเพื่อไม่ให้เกิดข้อครหา จะต้องนำไปสู่การทำประชามติ เพื่อสอบถาม โดยให้รัฐบาลเป็นเจ้าภาพ หรือมอบภารกิจให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ดำเนินการ แต่อย่างไรก็ตาม การทำประชามติต้องพิจารณาในรายละเอียดว่า ในประเด็นคำถามว่ามีเนื้อหาอย่างไร ไม่อยากให้คำถามเป็นลักษณะชี้นำ เพราะอาจก่อให้เกิดความเห็นที่ขัดแย้ง
“พรรคเพื่อไทยไม่จำเป็นต้องออกมาแสดงท่าที เรียกร้องให้นายกฯ แสดงจุดยืนเรื่องนี้ เพราะจุดยืนของนายกฯ ได้แสดงออกอย่างเปิดเผยและตรงไปตรงมาอยู่แล้ว” นายเทพไท กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากมีการโทษว่าการถือครองหุ้น ส.ส.เป็นเพราะรัฐธรรมนูญ ฉบับปี 50 นายเทพไทตอบว่า ไม่ควรโทษรัฐธรรมนูญ เพราะเป็นเรื่องของคน ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ ยังไม่โทษรัฐธรรมนูญ และยอมรับว่า ทำอะไรต้องรอบคอบ ตนเห็นมีเพียงบางฝ่ายเท่านั้นที่จะโทษรัฐธรรมนูญ เพื่อต้องการหาเหตุผลที่จะแก้ไข ทั้งนี้ จุดยืนของพรรคมีมาตลอดไม่ว่าอะไรที่เกิดขึ้นกับรัฐธรรมนูญชุดนี้ก็จะไม่โทษ เพราะถือเป็นกฎหมายและมีผลบังคับใช้แล้ว จะปฏิเสธว่าไม่รู้กฎหมายไม่ได้ หากทำผิดกฎหมายก็ต้องรับโทษ ไม่ควรแก้ไขเพื่อให้ตัวเองพ้นผิด ขณะเดียวกันถ้าเป็นพรรคการเมืองอื่นก็คงจะโพนทะนาว่า เป็นเรื่องใหญ่โตว่า เป็นจุดอ่อนของรัฐธรรมนูญฉบับนี้อีก แต่อย่างไรก็ตาม ผลที่เกิดขึ้นกับรัฐธรรมนูญจะกระทบกับนักการเมืองทั้งสิ้นไม่ได้กระทบกับประชาชน แต่นักการเมืองกับปลุกระดมประชาชนมาเป็นเครื่องมือกดดันให้แก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อสนองตัณหาของตัวเอง ดังนั้น อยากเรียกร้องให้นักการเมืองไทยยอมรับกติกาที่ชัดเจนอะไรที่เป็นความเห็นของคนส่วนใหญ่ในประเทศ
เมื่อถามว่า ประเมินหรือไม่ หาก กกต.มีมติให้ ส.ส.พรรคเพื่อไทย พ้นสภาพจากสมาชิกภาพ จากการถือครองหุ้นสัปทานของรัฐ และมีการเคลื่อนไหวให้แก้ไขรัฐธรรมนูญ นายเทพไทตอบว่า ต้องจับตามองว่าพรรคเพื่อไทยจะโอดครวญว่าอย่างไร ขณะนี้ กกต.ยังไม่มีมติออกมา ส.ส.พรรคเพื่อไทย ยังสร้างกระแสโดยโทษรัฐธรรมนูญ และก็จะโยนความผิดทุกอย่างให้รัฐธรรมนูญว่า ผิดไปหมด ถือเป็นการสร้างความชอบธรรมให้ตัวเองต้องการ
