“นิพิฏฐ์” ชี้ ตร.ยัดข้อหาก่อการร้าย เกินจริง เชื่อ อัยการอาจสั่งไม่ฟ้อง แนะพันธมิตรฯให้ร้องขอความเป็นธรรมต่ออัยการ สอนมวยตำรวจเป็นคดีการเมือง อย่ามั่วยัดข้อหาอาญา
วันนี้ (17 ก.ค.) นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ส.ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ไม่ยอมรับข้อกล่าวหาผู้ก่อการร้าย ว่า ตนมองว่าข้อกล่าวหาดังกล่าวมีความรุนแรงเกินความเป็นจริง และการกระทำของกลุ่มพันธมิตรฯ ไม่ได้อยู่ในคำนิยามของคำว่า “ผู้ก่อการร้าย” แต่อย่างใด เพราะการก่อการร้ายจะต้องมีเจตนาทำให้เกิดความเสียหายร้ายแรงต่อประเทศชาติ แต่สิ่งที่กลุ่มพันธมิตรฯต้องการเรียกร้อง คือ ไม่ยอมรับรัฐบาลของ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ซึ่งเป็นสิทธิ์ที่กระทำได้ตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ เพียงแต่ผลของการกระทำไปกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศ ดังนั้น หากแกนนำพันธมิตรฯต่อสู้ตามขั้นตอนต่อไป อาจจะได้รับการลดข้อกล่าวหาลงเหลือเพียงเป็นผู้บุกรุก เหมือนกรณีที่แกนนำพันธมิตรฯเคยถูกตั้งข้อหาผู้ก่อกบฏ แต่สุดท้ายก็ต่อสู้จนสำเร็จมาแล้ว
นายนิพิฏฐ์ กล่าวว่า ตนไม่เห็นด้วยที่แกนนำพันธมิตรฯ ไม่ยอมรับฟังข้อกล่าวหาของพนักงานสอบสวน ซึ่งไม่เป็นประโยชน์ในการต่อสู้ แต่ควรจะไปพบกับพนักงานสอบสวน แล้วขอดูหลักฐานที่นำไปสู่ข้อกล่าวหา พร้อมทั้งต่อสู้ในประเด็น ว่า ไม่มีเจตนาก่อการร้ายเพียงแต่ต้องการกดดันรัฐบาลให้ลาออก จึงจำเป็นต้องใช้มาตรการเด็ดขาดในการบุกสนามบิน ซึ่งพนักงานสอบสวนจะพิจารณาว่าควรจะลดข้อกล่าวหาหรือไม่ หรือหากยังยืนยันว่าคนเหล่านี้กระทำผิดฐานก่อการร้าย เมื่อส่งสำนวนมายังอัยการ แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ สามารถไปร้องขอความเป็นธรรมต่ออัยการได้
“ผมมองว่า แนวทางนี้ยังมีประโยชน์มากกว่า เพราะอัยการจะเป็นตัวชี้ขาด ว่า ควรจะส่งสำนวนฟ้องหรือไม่ และมีแนวโน้มว่าอัยการอาจจะไม่สั่งฟ้องในข้อกล่าวหานี้ ซึ่งแนวทางต่อสู้คดียังมีอีกหลายขั้นตอน เพราะการกระทำของกลุ่มพันธมิตรฯเป็นการต่อสู้ทางการเมือง เอาไปยัดใส่คดีอาญาไม่ได้ แต่ที่เอาคนมาปราศรัยแล้วเดินทางกลับไม่ยอมเข้าไปพบพนักงานแบบนี้ยังไม่เคยมีมาก่อน ดังนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจอาจจะงง ไม่รู้จะทำอย่างไร และอาจทำให้สำนวนเดินต่อไปไม่ได้ อย่างไรก็ตาม การกระทำดังกล่าวอาจเป็นการเตือนสติให้กับทุกคนได้ฉุกคิด และหันมาให้ความสนใจต่อคดีนี้มากขึ้น ว่า ข้อเท็จจริงมันคืออะไร”