xs
xsm
sm
md
lg

“ใส” ถามหาจุดยืน “มาร์ค” แทรกแซง-ลอยตัว ทีมสืบคดียิง “สนธิ”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี
“สุริยะใส” จี้ “มาร์ค” อย่าโดดเดี่ยวทีมสอบสวนคดียิง “สนธิ” ชี้ให้ชัด “แทรกแซง-ลอยตัว” เชื่อ “ธานี” มาถูกทาง ติง “ประวิตร” อย่าชี้นำรูปคดี แนะให้ความร่วมมือกับพนักงานสอบสวน ย้ำ ศาลไม่รับฟ้องคดี “ไชยวัฒน์” ไม่กระทบกับพันธมิตรฯ ยันแนวปฏิบัติต่างกัน

วันนี้ (15 ก.ค.) นายสุริยะใส กตะศิลา เลขาธิการพรรคการเมืองใหม่ (ก.ม.ม.) กล่าวว่า ตนคิดว่า การออกหมายจับนายนายทหาร และนายตำรวจในราชการของชุดสืบสวนสอบสวนที่มี พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รอง ผบ.ตร.เป็นหัวหน้าทีมนั้น เชื่อว่า เป็นการสืบสวนสอบสวนที่เดินมาถูกทางแล้ว เพราะ คุณสนธิ ลิ้มทองกุล และแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ก็มีสมมติฐานและตั้งข้อสังเกตไว้ก่อนหน้านี้ ว่า เป็นปฏิบัติการณ์ของคนมีสี ซึ่งปัญหาใหญ่ที่น่าเป็นห่วงในขณะนี้ ก็คือ รัฐบาลจะสนับสนุน และให้ความร่วมมือกับชุดสอบสวนได้อย่างไรว่าเรื่องนี้จะไม่ใช่มวยล้มต้มคนดู โดยเฉพาะการเปิดโปงของ พล.ต.อ.ธานี ที่ระบุอย่างตรงไปตรงมาว่า มีไส้ศึก และมีขบวนการของผู้มีอำนาจบางกลุ่มพยายามขัดขวางและข่มขู่ชุดสอบสวนตลอดเวลา และท่าทีของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม รวมทั้งนายกรัฐมนตรี ที่ออกมาบอกว่าจะไม่เป็นมวยล้มนั้น ต้องดูที่พฤติกรรมด้วยว่าให้ความร่วมมือกับทีมสอบสวนมากน้อยแค่ไหน เพราะยังไม่ทันไรก็มีหนอนบ่อนไส้ปล่อยข่าวเรื่องหมายจับเพื่อให้ผู้ต้องหาหลบหนีเสียแล้ว

เลขาธิการพรรค ก.ม.ม.กล่าวอีกว่า การออกมาพูดทำนองว่า เรื่องนี้เป็นส่วนบุคคลอย่าโยงนายทหารระดับสูงนั้น เท่ากับเป็นการพูดตัดบทและส่งสัญญาณปรามไปยังทีมสอบสวนได้โดยตรงเช่นกัน อาจจะกดดันทางอ้อมให้ทีมสอบสวนทำงานลำบากที่จะสาวถึงตัวผู้บงการ ซึ่งเรื่องนี้ผู้บังคับบัญชาทั้งส่วนตำรวจและทหารต้องพิจารณาข้อเท็จจริงของพยานหลักฐาน และดูกันยาวๆ ไม่ใช่ชิงตัดบทเพราะเท่ากับเป็นการชี้นำรูปคดี

“ผมคิดว่าคดีลอบสังหาร คุณสนธิ ลิ้มทองกุล จะเป็นบทพิสูจน์หลักนิติรัฐและหลักนิติธรรมที่ท่านนายกฯ ชอบย้ำไว้ตลอดเวลา การพูดว่าไม่แทรกแซงการทำงานของพนักงานสอบสวนในบางคดีมันอาจดูดี โดยเฉพาะคดีออกหมายเรียกก่อร้ายกับแกนนำพันธมิตรฯ แต่ในขณะเดียวกันก็ปล่อยให้พนักงานสอบสวนในคดีลอบสังหารคุณสนธิ เผชิญกับการแทรกแซงและคุกคามจากอำนาจรัฐแบบนี้ จะทำให้เส้นแบ่งระหว่างการไม่แทรกแซงกับการลอยตัวจากปัญหามันเบาบางหรือกลายเป็นเรื่องเดียวกันได้ การเลือกไม่ใช้อำนาจ และปล่อยให้อำนาจนอกรีตทำงานก็อาจจะถือว่าเป็นการรู้เห็นเป็นใจได้เช่นกัน ฉะนั้น นายกรัฐมนตรีจะต้องไม่โดดเดี่ยวการทำงานของชุดสอบสวนอย่างเด็ดขาด” นายสุริยะใส กล่าว

ส่วนกรณีที่ศาลไม่รับฟ้อง นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ แกนนำสมัชชาประชาชนแห่งประเทศไทย และคณะที่ยื่นฟ้องนายกฯ กรณีข้อหาก่อการร้ายนั้น จะไม่กระทบกับการดำเนินการต่อสู้เพื่อความเป็นธรรมในคดีของแกนนำพันธมิตรฯ ในรายอื่นๆ เพราะ นายไชยวัฒน์ ถือแนวปฏิบัติอีกแบบหนึ่ง ซึ่งเป็นส่วนของสมัชชาฯ และเป็นคนละแนวปฏิบัติกับส่วนของพันธมิตรฯ ซึ่งที่ประชุมของแกนนำพันธมิตรฯ เห็นว่า ขั้นตอนทางศาลจะเป็นขั้นตอนสุดท้าย ทั้งนี้ ในวันพรุ่งนี้(16 ก.ค.) แกนนำพันธมิตรฯที่ถูกออกหมายเรียกทั้งหมดจะไปที่สโมสรตำรวจ แต่เราจะมอบหมายให้ทีมทนายเข้าพบพนักงานสอบสวน เพื่อยื่นเรื่องขอความเป็นธรรมไปถึงพนักงานสอบสวน ผบ.ตร.และนายกรัฐมนตรีที่ รับผิดชอบ สตช.ให้ทบทวนการออกหมายเรียก ซึ่งเป็นข้อกล่าวหาเท็จ หลังจากนั้น เราจะรอคำตอบสักระยะก่อนพิจารณายื่นฟ้องศาล อาจจะไม่ใช่ศาลเดียว ซึ่งถ้าจำเป็นต้องยื่นฟ้องต่อศาลจะรวมเอา พล.ต.ท.วุฒิ พัวเวส หัวหน้าพนักงานสอบสวนและคณะไปด้วยอย่างแน่นอน
กำลังโหลดความคิดเห็น