ปชป.แก้ข้อกล่าวหาเขี่ย “กษิต” พ้นพรรค ลั่นเชื่อมั่นเจ้าตัวไม่ผิด

“เทพไท” ปัดรัฐบาล-พรรคไม่มีเอี่ยวตั้งข้อหาร้ายแรง “กษิต” หวังจัดฉากไล่พ้นพรรคแลกประโยชน์ผู้นำเขมร ยืนยันเชื่อมั่นในความถูกต้องของเจ้าตัวที่พร้อมพิสูจน์ข้อกล่าวหาในศาล เชื่อเหตุ “ทักษิณ” เบรกสมุนจัดงานแซยิด เหตุกระแสสังคมไม่เห็นด้วย พร้อมเหน็บไม่มีจุดยืนเสี้ยมสั่งลูกน้องดำเนินการหวังป่วนชาติ

วันนี้ (9 ก.ค.) ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี สั่งกลุ่มชมรมคนรักแท็กซี่ให้ยกเลิกการจัดงานแซยิดที่ท้องสนามหลวงว่า คงเห็นว่ามีคนไม่เห็นด้วยเพิ่มขึ้น เพราะจะเสียหายต่อสถาบัน จึงได้ส่งสัญญาณให้ถอย แต่ พ.ต.ท.ทักษิณ ควรจะพิจารณาส่งสัญญาณให้กลุ่มคนเสื้อแดงทบทวนการเคลื่อนไหวในแนวทางอื่นด้วย เช่น การล่าชื่อถวายฎีกา และการชุมนุมใหญ่เพื่อไล่รัฐบาลรอบ 2 เพราะถือว่าไม่เหมาะสมเช่นกันและแกนนำเหล่านี้คงไม่รับผิดชอบต่อเหตุการณ์เกิดขึ้น ตนอยากถามไปยัง พ.ต.ท.ทักษิณ ว่ามีจุดยืนต่อความเคลื่อนไหวของ นปช.อย่างไร เพราะความเคลื่อนไหวหลายอย่างเกิดความไม่เห็นด้วยกับแกนนำนปช.ส่วนต่างๆ เช่น การจัดงานแซยิดทาง 3 เกลอหัวกลมไม่เห็นด้วย ขณะที่การล่าชื่อถวายฎีกาก็มี นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย นพ.เหวง โตจิราการ และ นายสุรชัย แซ่ด่าน แกนนำ นปช.ก็ไม่เห็นด้วย นอกจากนี้ การที่พรรคเพื่อไทยกดดันให้นายกษิต ภิรมย์ รมว.การต่างประเทศ ลาออก ก็มี 3 เกลอหัวกลมออกมาบอกว่าอยากให้เป็นรมว.การต่างประเทศ ต่อ ตนจึงอยากถามว่า นปช.มีจุดยืนอย่างไร เพราะไม่อยากให้เกิดการตีสองหน้า และวันนี้ก็เลยไปเป็นการตีสิบหน้าแล้ว

นายเทพไทกล่าวว่า ล่าสุดพรรคเพื่อไทยมีมติให้จัดงานแซยิดให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ในวัดทั่วประเทศ จากเดิมที่เตรียมจัดที่สนามหลวง จึงอยากตั้งข้อสังเกตว่า พรรคเพื่อไทยรู้เห็นเป็นใจกับการจัดงานแซยิดที่สนามหลวงของกลุ่มคนรักแท็กซี่มาตลอดใช่หรือไม่ ส่วนการที่กลุ่มคนเสื้อแดงประกาศชุมนุมใหญ่ ซึ่งดำเนินการตามแผนตากสิน 2 ตนคิดว่า จะเป็นฝันร้ายของคนในชาติอีกรอบหนึ่ง ที่ขณะนี้ยังหาผู้ที่รับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นไม่ได้ อย่างไรก็ตาม การชุมนุมสามารถทำได้ แต่ควรคำนึงถึงความรับผิดชอบด้วย เพราะตนไม่อยากให้เกิดความรุนแรงขึ้นอีกรอบหนึ่ง

โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวอีกว่า ขณะนี้นายกษิตได้ทำหน้าที่ รมว.ต่างประเทศที่ประเทศออสเตรเลีย และประเทศนิวซีแลนด์ ซึ่งถือว่าเป็นการทำหน้าที่สมบูรณ์แบบ โดยเฉพาะการกล่าวสุนทรพจน์ต่อนักธุรกิจต่างชาติ ได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างดี และเข้าใจดีในสถานการณ์การเมืองไทย มีแต่พรรคเพื่อไทยเท่านั้นที่ไม่พยายามไม่เข้าใจ โดยเฉพาะทีมโฆษกของพรรคเพื่อไทยที่พยายามเคลื่อนไหวสร้างภาพรายวัน เพื่อให้สอดคล้องกับบุคลิกของตัวเองก่อนที่จะมาเป็นโฆษกพรรค การที่มีการนำภาพวีซีดีมายื่นให้กับนายกฯ และนายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อให้เกิดข่าวรายวันเท่านั้น และถือเป็นข้อมูลเก่าที่พรรคเคยเห็นมาแล้ว เป็นเรื่องที่นายกษิตชี้ว่ามีเจตนาที่จะให้เรื่องนี้ไปถึงศาล เพื่อให้มีการพิสูจน์ในศาล ดังนั้น จุดยืนของพรรคประชาธิปัตย์จึงชัดเจนว่าถ้าเรื่องเข้าสู่กระบวนการพิจารณาของศาล พรรคจะมีการพิจารณาอย่างแน่นอน

นายเทพไทกล่าวต่อว่า พรรคพร้อมน้อมรับคำวิจารณ์ในเรื่องนี้ โดยเฉพาะเรื่องที่ระบุว่าถ้า รมว.การต่างประเทศ ไม่ได้รับความเป็นธรรมในการตั้งข้อกล่าวหาของตำรวจแล้วประชาชนจะได้รับความเป็นธรรมหรือ ตนอยากชี้แจงว่าการตั้งข้อกล่าวหาเป็นเพียงกระบวนการยุติธรรมเริ่มต้นยังไม่ข้อสรุป ข้อยุติคือคำตัดสินของศาล เว้นแต่บางคนที่ไม่ยอมรับคำตัดสินของศาล พยายามกระเสือกกระสนให้ลิ่วล้อตัวเองล่าชื่อขอพระราชทานอภัยโทษ

นายเทพไทกล่าวถึงกรณีที่มี ส.ว.วิเคราะห์การตั้งข้อกล่าวหา รมว.การต่างประเทศ มีนัยเงื่อนงำบางอย่าง ซึ่งทำให้พรรคประชาธิปัตย์เสียหายว่า ตนไม่อยากให้การวิเคราะห์โดยการใช้จินตนาการปราศจากข้อเท็จจริง ทำให้พรรคประชาธิปัตย์เสียหายได้ การตั้งข้อกล่าวหาของนายกษิต เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ตำรวจ รัฐบาล และพรรคประชาธิปัตย์ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องไม่มีวาระซ่อนเร้น ไม่ต้องการจัดฉากเพื่อเอา นายกษิต ออกจากตำแหน่ง เพื่อให้ตรงกับการตั้งข้อกล่าวหาแลกเปลี่ยนผลประโยชน์กับผู้นำกัมพูชา ยืนยันว่า พรรคประชาธิปัตย์ยังเชื่อมั่นในความถูกต้องของนายกษิต จึงไม่มีเหตุผลใดที่จะไปกลั่นแกล้งตามที่หลายคนได้วิเคราะห์

นายเทพไทกล่าวถึงกรณีที่นายจาตุรนต์โจมตีนายกฯ ว่าพูดเรื่องสมานฉันท์แต่กลับให้โฆษกส่วนตัวออกมาระรานชาวบ้านรายวันว่า นายกฯ มุ่งมั่นให้เกิดความสมานฉันท์ และเมื่อมีข้อสรุปจากคณะกรรมการ 2 ชุดที่สภาแต่งตั้ง และส่งถึงนายกฯ เชื่อว่านายกฯ จะนำข้อสรุปดังกล่าวมาเป็นแนวทางในการปฏิบัติ นายจาตุรนต์ออกมาบิดเบือนกล่าวหารัฐบาลหลายครั้ง ถ้าต้องการความสมานฉันท์จริง นายจาตุรนต์จะต้องปิดปากตัวเอง ลิ่วล้อ และสมุนของตัวเอง แต่วันนี้กลับยังเดินสายปลุกระดมบิดเบือนข้อเท็จจริง