รองนายกฯ ด้านความมั่นคง ยืนยัน “กษิต” ยังทำหน้าที่ต่อไปได้ ระบุไม่ได้มี 2 มาตรฐานและไม่ถือเป็นการดิสเครดิตพรรคการเมืองใหม่ ชี้การออก พ.ร.บ.ความมั่นคง จ.ภูเก็ต ไม่กระทบการท่องเที่ยว
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ให้สัมภาษณ์
วันนี้ (9 ก.ค.) นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง ปฏิเสธที่จะพูดถึงกรณี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เคลื่อนไหวอยู่ในประเทศฟิจิ โดยกล่าวเพียงว่าขณะนี้ตนไม่สนใจเรื่อง พ.ต.ท.ทักษิณ
ส่วนกรณีที่นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ถูกเจ้าพนักงานสอบส่วนตั้งข้อหาการก่อการร้ายจากการปิดท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ นายสุเทพกล่าวว่า เรื่องของนายกษิตได้ดำเนินการตั้งข้อกล่าวหามาตั้งแต่ก่อนที่รัฐบาลจะเข้ามาแล้ว และเจ้าหน้าที่เขาพยายามดำเนินการมาตลอดโดยไม่มีการถ่วงเวลาจากรัฐบาลนี้เลย และไม่มีการแทรกแซงกระบวนการยุติธรรมแต่อย่างใดเลย ปล่อยให้ทุกอย่างว่าไปตามกระบวนการทางกฎหมาย
ผู้สื่อข่าวถามว่า ข้อหาก่อการร้ายจะทำให้สถานการณ์ตึงเครียดหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า เป็นความรับผิดชอบของตำรวจที่ทำคดีซึ่งยังมีอีกหลายขั้นตอน โดยเฉพาะในขั้นตอนอัยการซึ่งยังไม่แน่ว่าอัยการจะเห็นด้วยกับตำรวจทุกอย่างหรือไม่ เมื่อถามว่าจุดยืนของพรรคประชาธิปัตย์ต่อกรณีของนายกษิตเป็นอย่างไร นายสุเทพกล่าวว่า จุดยืนของเราคือเคารพกฎหมาย ทุกอย่างว่าไปตามกระบวนการของกฎหมาย เมื่อถามว่ากรณีของคุณกษิต ถือว่าเข้าข่ายกฎ 9 ข้อของนายกฯ หรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า “ไม่ครับ คุณกษิตไม่ได้ทำอะไรที่เป็นความผิดในตำแหน่งหน้าที่ เรื่องที่เกิดขึ้นเกิดมาก่อนที่คุณกษิตจะเข้ามาเป็นรัฐมนตรีในรัฐบาลนี้” นายสุเทพ กล่าว
เมื่อถามว่าอาจจะไม่ดีในสายตาต่างชาติที่รัฐบาลนี้ตั้งคนที่มีปัญหาเข้ามาเป็นรัฐมนตรี รองนายกฯ กล่าวว่า อย่าเพิ่งไปคิดว่ามีปัญหา เป็นแค่ข้อหาและต้องพิสูจน์กัน แต่เราก็แสดงให้เห็นแล้วว่าเราเคารพกฎหมาย แต่ผู้ที่ถูกกล่าวหายังถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่ เมื่อถามว่า รมว.ต่างประเทศ ต้องเกี่ยวเนื่องกับต่างชาติด้วย จะกระทบต่อความเชื่อมั่นหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า ไม่กระทบ เมื่อถามว่าข้อกล่าวหาว่าเป็นผู้ก่อการร้าย ถือว่ายังเหมาะสมที่จะเป็น รมว.ต่างประเทศในการเข้าร่วมประชุมอาเซียนอยู่หรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า เป็นเรื่องที่ยังทำหน้าที่ได้ปกติ ไม่มีปัญหาอะไร
เมื่อถามว่าคิดว่ายังสามารถอุ้มนายกษิตไปได้อีกนานแค่ไหน ไม่ใช่เรื่องอุ้มหรือไม่อุ้ม แต่เป็นเรื่องข้อเท็จจริง เมื่อถามว่าเป็นเรื่องของหน้าตาของรัฐบาลและประเทศ รองนายกฯ กล่าวว่า “คุณกษิตก็หน้าตาดี ไม่เห็นเป็นไร เขาก็ทำหน้าที่ของเขาได้ดี เราต้องตั้งหลัก ถ้าเราว่ากันไปเป็นกระแสก็เหนื่อย”
เมื่อถามว่ากรณี นายวิฑูรย์ นามบุตร เบากว่านี้เยังลาออก นายสุเทพกล่าวว่า นายวิฑูรย์เกิดเรื่องช่วงที่เข้ามาทำหน้าที่แล้ว เมื่อถามว่าจะทำให้ถูกมองหรือไม่ว่าพรรคประชาธิปัตย์เลือกปฏิบัติและใช้ 2 มาตรฐาน นายสุเทพกล่าวว่า ถ้า 2 มาตรฐานแสดงว่าตนต้องเข้าไปแทรกแซงการทำงานของตำรวจแล้ว หรือย้ายนายตำรวจที่ทำคดีนี้แล้ว เมื่อถามว่าที่ไม่แทรกแซงเป็นเพราะมีนัยยะในการดิสเครดิตพรรคการเมืองใหม่ของพันธมิตรฯ หรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่าพอไม่แทรกแซงก็หาว่าไปดิสเครดิตพรรคการเมืองใหม่ ยืนยันว่าเราก็ต้องเดินของเราให้ตรง ใครว่าอย่างไรก็ไม่ต้องไปวอกแวก ตนไม่เคยสนใจที่จะไปทำลายเครดิตของพรรคการเมืองใหม่อย่างใด ใครกล่าวหาอย่างนั้นก็เป็นบาปกับตัวเองก็แล้วกัน
เมื่อถามว่าเป็นเพราะเกรงใจพันธมิตรฯ อยู่หรือไม่ จึงไม่กล้าดำเนินการต่อนายกษิต อย่างที่สังคมต้องการ นายสุเทพกล่าวว่า นายกษิตก็ถูกกล่าวหาแล้ว จะหาว่าไม่กล้าทำอะไรอีกได้อย่างไร เมื่อถามว่าจะเป็นการทำลายขวัญและกำลังใจเจ้าหน้าที่หรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่เขาทำไปตามหน้าที่ ทำไปตามความรับผิดชอบของตัวเอง ส่วนที่จะมีการฟ้องกลับเหน้าที่นั้นก็ถือว่าถูกต้องแล้ว หากมีการตั้งข้อหาเกินเหตุ แล้วเขาฟ้องกลับ ก็ลองเป็นจำเลยดูบ้างจะเป็นอย่างไร
นายสุเทพยังกล่าวกรณีการรักษาความปลอดภัยในช่วงการประชุมอาเซียนที่ภูเก็ตว่า จะมีการออกประกาศตาม พ.ร.บ.ความมั่นคง และที่ต้องประกาศก็เพื่อที่จะให้ประชาชนทั่วไปได้ทราบว่าพื้นที่ที่เราจะจัดการประชุม รมต.อาเซียนวันที่ 16-23 กรกฎาคม เราห้ามไม่ให้ทำอะไรบ้าง เช่นไม่สามารถชุมนุมในบริเวณหรือโดยรอบโรงแรมที่จะมีการประชุมไม่ได้ โดยจะไม่กระทบหรือทำให้ประชาชนเดือดร้อน
ผู้สื่อข่าวถามว่า ผู้ประกอบการในพื้นที่ภูเก็ตไม่เห็นด้วยกับการออก พ.ร.บ.ความมั่นคงเพราะเกรงกระทบการท่องเที่ยว นายสุเทพกล่าวว่า คงไม่ใช่อย่างนั้น เพราะที่ จ.ภูเก็ต ได้มีการประชุมกันทุกฝ่ายแล้ว ล้วนได้รับการสนับสนุนทั้งสิ้น และต่างก็เห็นว่าครั้งนี้เป็นโอกาสที่เราจะได้กู้หน้าตาของประเทศในเรื่องของการจัดประชุมนานาชาติ และคนภูเก็ตทุกระดับพร้อมจะเป็นเจ้าภาพแทนคนไทยทั้งประเทศ จึงคาดว่าการประชุมครั้งนี้ที่ภูเก็ตน่าจะเรียบร้อย ยืนยันไม่กระทบกับการท่องเที่ยว ไม่ทำให้บรรยากาศการท่องเที่ยวเสียหายแน่ และได้พยายามประกาศล่วงหน้ามาแล้ว ทั้งนี้จะมีการประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคงเฉพาะที่ จ.ภูเก็ต เพียงจังหวัดเดียว โดยเป็นความพยายามที่จะทำให้ประชาชนรู้สึกน้อยที่สุด ไม่อยากให้กังวลใจ ส่วนจะเริ่มเมื่อไหร่นั้นต้องแล้วแต่ที่ประชุม ครม.วันนี้