กองทัพซ้อมมาตรการ รปภ.รับมือ “ม็อบแดงถ่อย” ป่วนประชุมอาเซียนที่ภูเก็ต ลั่นพร้อมทุกสถานการณ์ หากมีการชุมนุมเตรียมสลายด้วยวิธีฉีดน้ำ แรงสุด “ยิงแก๊สน้ำตา” ยันใช้ประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคง ไม่กระทบชีวิตประชาชน ปัดตอบเงื่อนไขม็อบแดงป่วนเมืองจี้ “กษิต” ลาออก โบ้ยเป็นเรื่องการเมือง ทหารแค่ปฏิบัติตามหน้าที่
วันนี้ (9 ก.ค.) ที่กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ (ร.11 รอ.) พล.ท.คณิต สาพิทักษ์ แม่ทัพภาคที่ 1 ได้ทำการตรวจเยี่ยมการฝึกซ้อมมาตรการรักษาความปลอดภัยของกองทัพ เพื่อเตรียมพร้อมรับมือการจัดประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน และผู้นำประเทศอาเซียนและประเทศคู่เจรจา ที่จ.ภูเก็ต ซึ่งในวันนี้ได้มีการสาธิตการฝึกซ้อมของกองพันรักษาความปลอดภัยของ ร.11 รอ.จำนวน 3 กองร้อย และสนธิกำลังฝึกร่วมกับกองพลรบพิเศษที่ 1 ของหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ โดยเน้นทำความเข้าใจกำลังพลตามขั้นตอนสลายการชุมนุมจากเบาไปหาหนัก เช่น การขอความร่วมมือประชาชนอย่าชุมนุม การใช้แก๊สน้ำตาและการใช้รถฉีดน้ำ นอกจากนี้ยังมีการฝึกมาตรการรักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญของกองพลรบพิเศษที่ 1 สำหรับกำลังพลของกองทัพบกที่จะใช้ปฏิบัติหน้าที่ทั้งหมด 4 กองพล ได้แก่ กองพลที่ 1 รักษาพระองค์ กองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ กองพลทหารราบที่ 9 และกองพลรบพิเศษที่ 1
ทั้งนี้ พล.ท.คณิต กล่าวให้โอวาทกำลังพลว่า ขอชื่นชมผู้บังคับหน่วยและกำลังพลทั้งหมดที่มีความมุ่งมั่นตั้งใจปฏิบัติการรักษาความสงบ ทั้งการต่อต่านการก่อการร้ายทุกรูปแบบ แม้ไม่ใช่ภารกิจหลัก แต่เป็นภารกิจที่ฝ่ายบริหารสั่งการให้ปฏิบัติ ซึ่งกองทัพบกต้องมีความพร้อมในการปฏิบัติ ต้องเชื่อมั่นในตัวเอง ผู้บังคับบัญชา และผู้ใต้บังคับบัญชา ที่สำคัญต้องมีหัวใจเข้มแข็ง พร้อมปฏิบัติหน้าที่ทุกอย่าง โดยพิจารณาตัดสินใจจากการสั่งการของผู้บังคับบัญชา และทุกคนต้องมีความพร้อม มีไหวพริบ มีสติในการปฏิบัติตามกฎระเบียบ สำหรับที่สิ่งเหนือความคาดหมายเป็นหน้าที่ของผู้บังคับบัญชาและหัวหน้าชุดในการตัดสินใจแก้ปัญหา ซึ่งที่ผ่านมาบทเรียนทั้งหมดได้สั่งสมและต้องนำมาปรับปรุงแก้ไข
พล.ท.คณิต กล่าวให้สัมภาษณ์ภายหลังว่า จากการตรวจหน่วยรักษาความสงบ โดยเฉพาะในส่วนอุปกรณ์ ซึ่งทางกองทัพบกและหน่วยเกี่ยวข้องได้จัดหายุทโธปกรณ์ระดับสากลเข้ามาเตรียมพร้อมไว้ในหน่วย และในวันนี้ได้มีการสาธิตอุปกรณ์ดังกล่าว รวมถึงมีการพูดคุยกับกำลังพลให้มีความเข้าใจในการปฏิบัติหน้าที่ ทั้งนี้ แม้ไม่ใช่ภารกิจหลักของกองทัพ แต่เราต้องมีความพร้อมส่วนนี้ โดยในวันนี้เจ้าหน้าที่ทุกคนมีความเข้าใจการปฏิบัติหน้าที่และการใช้อุปกรณ์ ซึ่งจะไม่มุ่งหมายเอาชีวิต แต่ใช้เพื่อรักษาสถานการณ์เท่านั้น
สำหรับการประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงที่ จ.ภูเก็ต จะมีผลกระทบประชาชนหรือไม่ พล.ท.คณิต กล่าวว่า การประกาศใช้ พ.ร.บ.ดังกล่าวเพื่อให้เจ้าหน้าที่ที่เข้าไปปฏิบัติหน้าที่มีอำนาจตามกฎหมายในการปฏิบัติงาน ส่วนการเข้าไปก้าวก่ายสิทธิเสรีภาพประชาชนนั้นคงไม่มี แต่ถูกนำมาใช้รักษาความปลอดภัยในพื้นที่ และทำให้ต่างชาติเชื่อมั่นว่าสามารถรักษาความสงบได้ ส่วนเจตนารมณ์สำคัญของรัฐบาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และผู้บัญชาการทหารบก คือ ไม่ต้องการให้มีการเคลื่อนไหวในพื้นที่ ซึ่งภาคประชาชนโดยเฉพาะคนภูเก็ตและภาคใต้ ได้ออกมาแสดงความรับผิดชอบร่วมกันว่า การประชุมผู้นำอาเซียนและคู่เจรจาจะมีความเรียบร้อยในทุกพื้นที่ แม้จะเกิดการเคลื่อนไหวในพื้นที่บ้าง แต่ก็ได้มีการทำความเข้าใจ ซึ่งเชื่อว่าผู้ที่ต่อต้านคงมีบทเรียนจากในอดีต และเห็นถึงผลประโยชน์ของชาติเหนือสิ่งอื่นใด
เมื่อถามถึงเงื่อนไขการชุมนุมเรียกร้องให้นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศลาออกจากตำแหน่งจะกระทบหรือไม่ พล.ท.คณิต กล่าวว่า เป็นเรื่องการเมืองไม่ทราบ ส่วนที่เสื้อแดงจะชูประเด็นนี้มาต่อต้าน คงเป็นเงื่อนไขทางการเมืองอีกเช่นกัน โดยตนเป็นเพียงผู้ปฏิบัติหน้าที่ สำหรับเรื่องการปฏิบัติรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมจะเป็นผู้อำนวยการร่วมโดยมีหน่วยปฏิบัติ คือ กองทัพไทยมีทหารทุกเหล่าทัพ ตำรวจ และภาคประชาชน ซึ่งจากการลงพื้นที่ภาคประชาชนมีความร่วมมือสูงมาก เขากล่าวว่าการประชุมครั้งนี้ต้องสำเร็จ หากทำได้เท่ากับจะสามารถกู้ชื่อเสียงให้แก่ประเทศชาติได้
พล.ท.คณิต กล่าวต่อว่า สำหรับกำลังพลที่ไปปฏิบัติหน้าที่ครั้งนี้ ถือว่ามีจำนวนมากพอจะทำให้เกิดความปลอดภัย ซึ่งเป็นหน่วยเดิมที่สนธิกำลังกันทุกกองพล โดยการดูแลรักษาความปลอดภัยที่จ.ภูเก็ต ต้องทำงานแบบ 3 มิติ คือ 1.ดูแลเรื่องการก่อการร้าย 2.ดูแลความปลอดภัย และ3.ดูแลความสงบ ซึ่งต้องดูให้ครอบคลุมทั้งมิติทางบก อากาศ และทางน้ำ
เมื่อถามกรณีที่เกรงว่ากลุ่มผู้ก่อการร้ายในจังหวัดชายแดนภาคใต้จะมาก่อเหตุหรือไม่ พล.ท.คณิต กล่าวว่า ทางกองทัพบกต้องใช้หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษมาร่วมปฏิบัติการ ซึ่งหากกลุ่มก่อการร้ายภาคใต้จะเข้ามาก่อเหตุสามารถทำได้ 2 ทาง คือ บริเวณสะพานสารสิน และทางทะเล ดังนั้น ท่าเรือและเรือเช่าทั้งหมด รวมถึงเจ็ตสกี ภาคประชาชนใน จ.ภูเก็ต จะเข้าไปเป็นฝ่ายดูแล โดยการรักษาความปลอดภัยทางกองทัพจะทำเต็มที่