xs
xsm
sm
md
lg

ครม.อนุมัติกม.ความมั่นคงส่งทหารคุมพื้นที่ภูเก็ต14วัน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายศุภชัย ใจสมุทร รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงหลังการประชุม ครม. วานนี้ (9 ก.ค.) ว่า ที่ประชุมได้เห็นชอบในการออกข้อกำหนดตามความใน มาตรา 18 แห่ง พ.ร.บ.รักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ.2551 เพิ่มเติมอีก 5 ข้อ เพื่อให้สามารถป้องกัน ควบคุมและแก้ไขเหตุการณ์ในพื้นที่ปรากฎเหตุการณ์อันกระทบต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ใน จ.ภูเก็ต ระหว่างวันที่ 10-24 ก.ค.2552 ซึ่งอยู่ในช่วงการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน การประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนกับรัฐมนตรีต่างประเทศคู่เจรจา และการประชุมอาเซียนว่าด้วย ความร่วมมือด้านการเมืองและความมั่นคงในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ที่จะมีขึ้นระหว่าง วันที่ 17-23 ก.ค. เป็นไปด้วยความเรียบร้อย โดยให้กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร(กอ.รมน.) เป็นผู้รับผิดชอบ
นายศภุชัย กล่าวว่า ข้อกำหนดดังกล่าว ประกอบด้วย 1.ให้เจ้าหน้าที่ของรัฐ ที่เกี่ยวข้องปฎิบัติการหรืองดเว้นการปฎิบัติการอย่างหนึ่งอย่างใดเพื่อช่วยเหลือ หรือสนับสนุนการดำเนินการในอำนาจหน้าที่ของ กอ.รมน.และพนักงานเจ้าหน้าที่ ของกอ.รมน. 2.ห้ามบุคคลใดเข้าหรือต้องออกจากบริเวณพื้นที่ อาคาร หรือสถานที่ ที่เกี่ยวข้องกับการปฎิบัติหน้าที่ของ กอ.รมน.และภายในระยะเวลาการปฎิบัติหน้าที่ ของ กอ.รมน. เว้นแต่เป็นบุคคลที่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ หรือเป็นบุคคลที่มีประกาศของบุคคลดังกล่าวว่าเป็นบุคคลที่ได้รับการยกเว้น
3.ห้ามนำอาวุธ ออกนอกเคหสถาน 4.ห้ามการใช้เส้นทางคมนาคมหรือการใช้ ยานพาหนะหรือต้องปฎิบัติตามเงื่อนไขการใช้เส้นทางคมนาคมหรือการใช้ยานพาหนะ ตามที่ ผอ.รมน.หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายจะเป็นผู้ประกาศ
และ 5.ให้บุคคลปฎิบัติ หรืองดเว้นการปฎิบัติอย่างใดอันเกี่ยวกับเครื่องมือ หรืออุปกรณ์ อิเล็กทรอนิกส์ ประเภทลักษณะการใช้หรือภายในเขตบริเวณพื้นที่ที่ ผอ.รมน.หรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย จาก ผอ.รมน.ประกาศกำหนดเพื่อป้องกันอันตราย ที่จะเกิดแก่ชีวิต ร่างกาย หรือทรัพย์สินของประชาชน
ทั้งนี้ให้ผอ.รมน. หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายจากผอ.รมน.จะกำหนดเงื่อนไขเวลา ในการปฎิบัติตามข้อกำหนดหรือเงื่อนไขในการปฎิบัติงานของพนักงาน เจ้าหน้าที่ ตามที่เห็นสมควร เพื่อมิให้มีการปฎิบัติที่ก่อให้เกิดความเดือดร้อนแก่ประชาชนเกินสมควรแก่เหตุ
ต่อมาเวลา 17.00 น. วันเดียวกัน มีการประชุมคณะกรรมการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) โดยมีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ร่วมกับผู้บัญชาการทุกเหล่าทัพ
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมนาน 1 ชม.ว่า ที่ประชุมได้รับทราบการเตรียมความพร้อมในการรักษาความปลอดภัย ในการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนที่จ.ภูเก็ต ระหว่างวันที่ 17-23 ก.ค.นี้ ซึ่งจะมีการใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงในระหว่างวันที่ 10-24 ก.ค. เพื่อให้เกิดความเรียบร้อย ทั้งนี้กำลังที่ใช้รักษาความปลอดภัยจะใช้ในพื้นที่เป็นหลัก และจะมีส่วนสนับสนุนทั้งกองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศ และตำรวจ
อย่างไรก็ตามทางหน่วยข่าวก็มีการรายงานเรื่องความเคลื่อนไหวของกลุ่มที่จะเข้ามาดำเนินการในระหว่างการประชุม แต่เราก็พยามดำเนินการให้เป็นไป ด้วยความเรียบร้อย อยากให้ทุกคนคนมองว่าเป็นหน้าตาของประเทศ เพราะประเทศเราเสียหายมาเยอะแล้ว
ผมก็ต้องประสานกับทุกฝ่าย ทั้งกลุ่มเสื้อแดง หรือเอ็นจีโอทั้งในและต่างประเทศ ไม่ให้มาชุมนุมในระหว่าง 5 วันที่มีการประชุม ในพื้นที่จ.ภูเก็ตจะต้องไม่มีการชุมนุมใดๆ เกิดขึ้นอย่างเด็ดขาด เราจะไม่มีการกันพื้นที่ให้ชุมนุมกัน ไม่ว่าจะมาปิดถนน หรือส่งตัวแทนมายื่นหนังสือ แม้จะชุมนุมอย่างสงบก็ไม่ได้ ส่วนการดูแลผู้นำทั้ง 28 ประเทศที่เข้าร่วมประชุม นั้นก็จะใช้หลักตามมาตรฐานสากล
ผู้สื่อข่าวถามว่ามั่นใจว่าจะไม่มีเหตุการณ์ซ้ำรอยเหมือนที่พัทยา พล.อ.ประวิตร กล่าวอย่างมีอารมณ์ว่า ผมดูแลอยู่ คุณมั่นใจหรือเปล่าเมื่อถามย้ำว่า เหตุการณ์ที่พัทยายังเกิดขึ้นได้ พล.อ. ประวิตร ย้อนว่า คุณต้องพูดให้ดี เพราะคราวที่แล้วผมไม่ได้ดูแล
ส่วนที่กลุ่มคนเสื้อแดงจะนำประเด็นการขับไล่ นายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ มาเป็นเงื่อนไขในการชุมนุนมนั้น พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไม่เกี่ยวกับเรื่องความมั่นคง
พล.ท. คณิต สาพิทักษ์ แม่ทัพภาคที่ 1 กล่าวว่า กำลังพลที่ไปปฏิบัติมากพอให้เกิดความปลอดภัย ซึ่งเป็นหน่วยเดิม สนธิกำลังทุกกองพล โดยการดูแลรักษาความปลอดภัยใน จ.ภูเก็ตต้องทำงานแบบ 3 มิติ คือ 1.ดูแลเรื่องการก่อการร้าย 2.ดูแลความปลอดภัย และ3.ดูแลความสงบ ซึ่งต้องดูให้ครอบคลุมทั้งมิติทางบก อากาศ และทางน้ำ
ที่กองทัพต้องใช้หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษมาร่วมปฏิบัติการเพราะเกรงว่าผู้ก่อการร้ายในจังหวัดชายแ ดังนั้น ท่าเรือและเรือเช่าทั้งหมด รวมถึงเจตสกี ภาคประชาชนใน จ.ภูเก็ต จะเข้าไปดูแล ซึ่งการดูแลรักษาความปลอดภัยเราทำเต็มที่ ขณะนี้ในพื้นที่อยู่ในฤดูท่องเที่ยว แต่ห้องพักยังไม่เต็ม หากเราไม่สามารถ แก้ภาพพจน์นี้ได้ ยิ่งเกิดผลเสีย เพราะขนาดพัทยาสถานการณ์ยังไม่ดีขึ้น
กำลังโหลดความคิดเห็น