“บัญญัติ” ยอมรับ ปชช.ไม่ไว้ใจรัฐบาล แนะใช้บทเรียนช่วง 6 เดือน ปรับปรุงตัวเอง เน้นพีอาร์ จับเข่าหารือก่อนคลอดโครงการใหญ่ที่สังคมยอมรับได้ รอเก็บผลผลิตจากโครงการต่างๆ ที่ทุ่มลงไปในพื้นที่ ขณะเดียวกัน เชื่อเสื้อแดงไม่หยุดเคลื่อนไหวไล่ รบ.แน่ มั่นใจปัญหาที่เผชิญอยู่ ยังไม่ถึงขั้นต้องยุบสภากลางคัน
วันนี้ (8 ก.ค.) นายบัญญัติ บรรทัดฐาน กรรมการที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการทำงานของรัฐบาลในรอบ 6 เดือน ที่ผ่านมา ท่ามกลางกระแสความขัดแย้ง ว่า พรรคร่วมรัฐบาลคงต่างมานั่งวิเคราะห์กัน ว่า งานที่ยังมีปัญหากันนั้นเป็นเพราะอะไร ยังหารือในระหว่างกันเองในโครงการหลักๆ น้อยไปหรือไม่ โดยเฉพาะโครงการที่อยู่ในความสนใจของประชาชน เมื่อมีการนำเสนออย่างเป็นทางการก็มักจะได้รับการวิพากษ์วิจารณ์การโต้แย้งคัดค้าน ซึ่งเมื่อพรรคร่วมรัฐบาลสรุปปัญหาได้เช่นนี้ ต่อไปเวลามีโครงการอะไรเสนอก็จะได้หารือกันก่อนว่าโครงการนี้ประชาชนคิดอย่างไร และตนคิดว่า รัฐบาลนี้จำเป็นต้องให้ความสำคัญกับสิ่งนี้มากเป็นพิเศษ เพราะในช่วงเวลาที่ผ่านมาไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าประชาชนไม่ไว้ใจนักการเมือง
ขณะเดียวกัน จะต้องทำความเข้าใจกับประชาชนถึงปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นจากภายนอก เพื่อให้ประชาชนเข้าใจ พร้อมๆ กับการให้ความหวังว่า ผ่านขั้นตอนจากนี้ไปกี่เดือนที่งบประมาณ ซึ่งรัฐบาลเสนอจะเป็นผลต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพราะที่ผ่านมาต้องยอมรับว่า การประชาสัมพันธ์ยังน้อยไป ดังนั้น เชื่อว่า หากทำความเข้าใจได้ทั้งประชาชน และพรรคร่วมรัฐบาล ก็ไม่น่าจะมีปัญหา และไม่น่าจะมีผลให้เกิดเหตุการณ์ขัดแย้งจนถึงขั้นต้องยุบสภากลางคัน
“6 เดือน ในการทำงานระหว่างพรรคร่วมด้วยกัน ก็เห็นแล้วว่าอะไรเป็นปัญหาหรือไม่เป็นปัญหา และปัญหาความรู้สึกของประชาชนเกิดขึ้นจากอะไร และแม้จะยังคงมีปัญหามากมาย แต่ถ้าฝ่ายการเมือง โดยเฉพาะรัฐบาลยืนอยู่บนจุดเหล่านี้ให้แข็งแรง และเอาประสบการณ์ บทเรียนที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมา ประคับประคองทิศทางการเมืองให้เดินไปข้างหน้าได้ มีความชัดเจนมากขึ้น ประชาชนรู้สาเหตุ ประชาชนรู้อนาคต ผมคิดว่ารัฐบาลน่าจะพอเดินหน้าต่อไปได้” นายบัญญัติ กล่าว
นายบัญญัติ ยอมรับว่า การทำงานในการพิจารณาโครงการต่างๆ ของพรรคร่วมรัฐบาลมีปัญหาพอสมควร แต่ถือเป็นบทเรียนที่ทำให้รู้สึกว่าการทำงานร่วมกันต่อไปนี้จะต้องมีความรัดกุมมากขึ้น และในการนำเสนอแนวคิดเรื่องต่างๆ ก็น่าที่จะหารือกันเพื่อประเมินกระแสสังคมว่าเห็นด้วยหรือไม่ ตรงไหนยังมีจุดอ่อนอยู่และแก้ไขจุดอ่อนนั้น ซึ่งหากพรรคร่วมรัฐบาลย้อนกลับมาดูตามความเป็นจริงกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์ยับยั้งโครงการของพรรคร่วมรัฐบาลนั้น เป็นเพราะกระแสสังคมเริ่มปฏิเสธต่อต้าน วิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรงก่อน ซึ่งถือเป็นภารกิจของรัฐบาลทั้งคณะที่ต้องทบทวน เพราะหากฝืนเดินไปข้างหน้า ก็เท่ากับปฏิเสธกระแสสังคม
นายบัญญัติ กล่าวว่า กลุ่มที่เคลื่อนไหวคงยังไม่หยุดกันง่ายๆ แต่เชื่อว่าไม่ว่าจะเป็นพรรคการเมือง หรือกลุ่มการเมืองก็ต้องระมัดระวังความรู้สึกของประชาชนที่มีต่อความเคลื่อนไหว เพราะฉะนั้นถ้ารัฐบาลสร้างความเข้าใจในหมู่ประชาชน ทำให้มีความรู้สึกว่า การแสดงออกของประชาชนต่อการเคลื่อนไหวทางการเมือง และต่อกิจกรรมทางการเมืองจะมีผลเป็นอันมากในการประคับประคองสถานการณ์ทางการเมือง
เมื่อถามว่า ม็อบเสื้อแดงที่นัดจะกลับมารวมตัวกันในช่วงวันเกิด พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะส่งผลให้มีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองหรือไม่ นายบัญญัติ กล่าวว่า ยังไม่คิดว่าจะทำได้ขนาดนั้น แต่สิ่งสำคัญคือ ประชาชนต้องรู้เท่าทัน และช่วยกันแสดงออก ว่า การเคลื่อนไหวบางอย่างเป็นการเคลื่อนไหวด้วยความสุจริตใจบนพื้นฐานของสิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญหรือไม่ หรือมีวาระซ้อนเร้นทำเพื่อใคร ซึ่งคิดว่าถ้าประชาชนเข้าใจสิ่งนี้ และกล้าแสดงออก จะช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้นแน่นอน