“สุริยะใส” ชำแหละแผนเสื้อแดงถวายฎีกา ช่วย “แม้ว” ที่แท้แค่ใบปลิวหลอกโจมตีสถาบัน หวังบีบบังคับให้ต้องพระราชทานอภัยโทษ ยืนยันชัดเจตนาหมิ่นฯ-ก้าวล่วง ให้ระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาท แถมกล่าวหาศาล และกระบวนการยุติธรรม เข้าข่ายหมิ่นศาลชัดแจ้ง ซ้ำร้ายหลอกชาวบ้านมาเป็นแฟนคลับรายการ 3 เกลอเท่านั้น
วันที่ 3 ก.ค.นายสุริยะใส กตะศิลา เลขาธิการพรรคการเมืองใหม่ (กมม.) ให้ความเห็นต่อกรณีที่แกนนำคนเสื้อแดงกำลังล่ารายชื่อประชาชน 1 ล้านชื่อ เพื่อยื่นถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษ ให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่อยู่ระหว่างหลบหนีคดี และคำพิพากษาจำคุกไปอยู่ต่างประเทศ ว่า ในหนังสือถวายฎีกานั้น มีทั้งเจตนาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพและก้าวล่วงระคายเคืองเบื้องพระยุคลละบาทอย่างชัดแจ้ง เช่น ในหนังสือฎีกาข้อ 1.ระบุว่า ...การยึดอำนาจทางการเมืองเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549 เพราะนั่นเป็นการทำลายระบอบการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ให้กลายเป็นระบอบเผด็จการทหารที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข... ถือเป็นการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพดึงฟ้าลงต่ำ และหลอกโจมตีพระเจ้าอยู่หัวไปในที เพราะถ้าจะโจมตีการรัฐประหารก็ต้องพุ่งเป้าไปที่คณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ หรือ คมช.
นอกจากนี้ ในหนังสือฎีกา ข้อ 2.ยังกล่าวหาศาลและกระบวนการยุติธรรมว่าเลือกปฏิบัติหรือ 2 มาตรฐาน ซึ่งหมายถึงการทำหน้าที่ของศาลฎีกาแผนกคดีอาญานักการเมืองกรณีที่ดินรัชดา ซึ่งกรณีเป็นการหมิ่นศาลอย่างชัดแจ้ง
ที่สำคัญในหนังสือฎีกา ข้อ 4.ที่ระบุว่า ...ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ผู้ทรงทศพิธราชธรรม มีสายพระเนตรยาวไกล คงจะไม่ปล่อยปละละเลยพสกนิกรให้จมอยู่กับความระทมทุกข์เป็นเวลายาวนานเกินไป... ถือว่ามีเจตนาก้าวล่วง กดดันพระเจ้าอยู่หัว เสมือนบีบบังคบให้ต้องมีพระบรมราชวินิจฉัยอภัยโทษ ถ้าไม่วินิจฉัยบ้านเมืองก็จะไม่มีทางสงบสุข ไม่สมานฉันท์
“ถ้าอ่านอย่างละเอียดของหนังสือฎีกาทั้งฉบับ แล้วผู้ดำเนินการไม่หวังผลจากพระบรมราชวินิจฉัยอย่างที่พยายามแสดงออก แต่ลึกๆ เนื้อหาระหว่างบรรทัดหรือเจตนาทั้งหมดเป็นเพียงใบปลิวหลอกโจมตีสถาบันพระมหากษัตริย์ และสถาบันศาลมากกว่า
“เป็นการลงทุนยิงปืนครั้งเดียวได้นก 2 ตัว เพราะแกนนำ นปช.ทราบดีว่า ฎีกาไปก็ไม่มีผล ซ้ำร้ายยังป่าวประกาศหลอกชาวบ้านให้สำเนาบัตรประชาชนมา เพื่อใช้ในการนี้โดยไม่ให้เขียนระบุในสำเนาว่า ใช้ในกรณีฎีกา เพราะต้องการเอาชื่อชาวบ้านมาเป็นสมาชิกแฟนคลับรายการความจริงวันนี้เท่านั้นเอง” นายสุริยะใส กล่าว