“เลขาธิการพรรคการเมืองใหม่” ชี้ผลเลือกตั้งซ่อม 2 เขต สะท้อนรัฐบาลแพ้งานมวลชนแถบอีสาน เชื่อเลือกซ่อมแค่จัดฉากแข่งกันรักทักษิณของเครือข่ายคนกันเอง เหตุพรรคประชาธิปัตย์เมินคนอีสาน เตือนอย่าอาศัยช่วงน้ำขึ้นฉวยโอกาสถวายฎีกาอภัยโทษ “พ่อแม้ว” ชี้หาเรื่องถูกยุบพรรค ทั้งที่ไม่เคยยอมมารับโทษ
วันนี้ (29 มิ.ย.) นายสุริยะใส กตะศิลา เลขาธิการพรรคการเมืองใหม่ (ก.ม.ม.) กล่าวถึงการเลือกตั้งซ่อมในจังหวัดสกลนคร และศรีสะเกษ ที่ผลการเลือกตั้ง ส.ส.จากพรรคเพื่อไทยได้รับเลือกเข้ามาว่า ผลการเลือกตั้งซ่อมทั้งสองเขตสะท้อนความไร้ประสิทธิภาพของรัฐบาลในการช่วงชิงมวลชน เนื่องจากพรรคประชาธิปัตย์เป็นแกนนำรัฐบาลถอดใจจากภาคอีสานไปนานแล้ว เพราะไปคิดว่าไม่มีทางเพิ่มคะแนนนิยมได้ในภาคอีสาน แม้กระทั่งภาคเหนือบางพื้นที่ จึงปล่อยให้พรรคภูมิใจไทยเป็นหัวหอกแทน ซึ่งเป็นวิธีคิดที่ผิด เพราะเป็นยุทธศาสตร์ที่บริหารความนิยมและหวังผลเลือกตั้งมากกว่ามุ่งสร้างการยอมรับจากคนอีสานด้วยผลงานที่เป็นรูปธรรม
นายสุริยะใสกล่าวอีกว่า หากพรรคประชาธิปัตย์ไม่ทบทวนยุทธศาสตร์ของพรรคในภาคอีสานและภาคเหนือทั้งๆ ที่ตัวเองเป็นรัฐบาลและมีอำนาจรัฐในมือจะสูญเสียที่นั่งในภาคอีสานและภาคเหนือจนหมด ประการสำคัญ ความรู้สึกของประชาชนทั้งสองภาคจะโหยหาระบอบทักษิณมากขึ้นกว่าเดิม
“เอาเข้าใจจริงๆ การเลือกตั้งที่จังหวัดสกลนคร และศรีสะเกษ จึงกลายเป็นการแข่งกันเองของกลุ่มคนรักทักษิณ ไม่ใช่การแข่งขันกันจริงอย่างที่คิด เพราะเครือข่ายหัวคะแนนเป็นกลุ่มคนในเครือข่ายเดียวกัน บางพื้นที่เอาข้าวของไปแจกชาวบ้านยังเป็นลักษณะถ้อยทีถ้อยอาศัยขอแบ่งปันคะแนนกันเป็นเหมือนจัดฉากเลือกตั้งเท่านั้นเอง ฉะนั้น ผลการเลือกตั้งทั้งสองจังหวัด จึงไม่ใช่ดัชนีชี้วัดความนิยมต่อตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรได้อย่างร้อยเปอร์เซ็นต์ เพราะผู้สมัครพรรคคู่แข่งของพรรคเพื่อไทยไม่ได้หาเสียงโดยชูความล้มเหลวและพฤติกรรมการคอร์รัปชันของระบอบทักษิณและการทำงานของพรรคเพื่อไทยแต่อย่างใด ที่สำคัญคนที่ไม่เอาระบอบทักษิณในพื้นที่เลือกตั้งไม่รู้จะลงคะแนนให้ผู้สมัครพรรคใด เพราะผู้สมัครทั้งหมดเป็นกลุ่มคนในเครือข่ายระบอบทักษิณพูดง่ายๆ ผู้สมัครต่างก็หาเสียงทำนองแข่งกันรักทักษิณทั้งนั้น” เลขาธิการพรรคการเมืองใหม่ระบุ
นอกจากนี้ เขายังระบุอีกว่า หากพรรคเพื่อไทยจะฉวยโอกาสใช้ผลการเลือกตั้ง 2 จังหวัด รุกคืบด้วยการกดดันก้าวล่วงพระราชอำนาจให้มีการพระราชทานอภัยโทษให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นั้น พรรคเพื่อไทยอาจตกม้าตายเอาง่ายๆ เพราะเป็นการประเมินงานมวลชนแบบเข้าข้างตัวเองมากเกินไป และอาจถึงขั้นถูกยุบพรรครอบที่ 3 เพราะเป็นพฤติกรรมที่เข้าข่ายล้มล้างรัฐธรรมนูญและระบบกฎหมายของประเทศ ทั้งที่รู้ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ยังไม่เคยมารับผิดหรือรับโทษแต่อย่างใด ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่ไม่ได้มีจุดหมายภายใต้รัฐธรรมนูญ วันนี้พรรคเพื่อไทยจะปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้เพราะคนของพรรคทั้ง ส.ส.และกรรมการบริหารพรรคก็เป็นแกนนำม็อบ นปช.