นางสดศรี สัตยธรรม กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านกิจการพรรคการเมือง กล่าวถึงการเลือกตั้งซ่อม เขต 1 จ. ศรีสะเกษว่า มีเรื่องร้องเรียน 5 เรื่อง เป็นเรื่องใส่ร้ายกันเท่านั้น ถือว่าไม่รุนแรงเท่าการเลือกตั้งซ่อมที่ จ.สกลนคร ทั้งนี้ยอมรับว่ามีผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งน้อย
ส่วนการที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร โฟนอิน ขอให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่จ.ศรีสะเกษ ช่วยลงคะแนนให้ ชนะการเลือกตั้งเพื่อให้พากลับประเทศ จะถือเป็นการจูงใจหรือไม่ ก็อยู่ที่ความคิดของประชาชนว่าคิดอย่างไรกับคนที่พูด ไม่ใช่ว่าจะต้องเชื่อไปหมด และการเลือกตั้งประชาชนจะเป็นผู้ตัดสินใจเอง อย่าดูถูกประชาชน ตนเชื่อว่าประชาชนไม่สามารถจูงใจได้ทุกอย่าง แล้วการหาเสียงก็สามารถทำได้ และก็ไม่ได้ขัดกฎหมายตลอดเวลา แต่เมื่อมีผู้ร้องเข้ามา เราต้องนำเข้าสู่การพิจารณา ซึ่งเรื่องการโฟนอิน ก็มีผู้ร้องเข้ามาแล้ว
สำหรับผลคะแนนอย่างเป็นทางการในการเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ ผู้ที่ได้รับคะแนนเป็นอันดับ 1 คือ นายสุรชาติ ชาญประดิษฐ์ ผู้สมัครพรรคเพื่อไทยได้ 124,327 คะแนน อันดับ 2 คือนางสกุลทิพย์ อังคสกุลเกียรติ ผู้สมัครพรรคชาติไทยพัฒนาได้ 76,435 คะแนน มีผู้มาใช้สิทธิ 61.80% บัตรเสีย 1.38% บัตรไม่ประสงค์ลงคะแนน 3.29%
**อยากเลือกตั้งเร็วต้องลดขัดแย้ง
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงผลการเลือกตั้งซ่อม ที่พรรคเพื่อไทยชนะทั้งที่จ.สกลนคร และจ.ศรีสะเกษ จะทำให้เสื้อแดงฮึกเหิมหรือไม่ว่า แล้วแต่จะวิเคราะห์ และคิดว่าผลการเลือกตั้งไม่ได้แตกต่างจากที่คาดหมาย เพราะอีสานเป็นฐานสนับสนุนของพรรคเพื่อไทยอยู่แล้ว เมื่อถามว่า มีการวิเคราะห์ว่า คนอีสานยังต้องการ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อยู่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า คิดว่าการสนับสนุนก็ยังมีอยู่ ไม่แปลกอะไร การเลือกตั้งซ่อมที่ผ่านมา เขาก็โหมมาก ก็ธรรมดา
เมื่อถามว่าจนถึงเวลานี้รัฐบาลยังไม่ลงพื้นที่ ทำความเข้าใจกับชาวบ้าน ไม่ว่าจะเป็นภาคเหนือและอีสานเลย เพราะอะไร นายกฯ กล่าวว่า ที่จริงได้มีการทำความเข้าใจกันพอสมควร และความเข้าใจของคนจำนวนมากก็ดี เมื่อถามว่านายกฯกลัวอะไร นายกฯ กล่าวย้อนกลับว่า ไม่ได้กลัว แต่ไม่ต้องการเป็นเงื่อนไข และอยากบอกว่า จริงๆ แล้ว หากยังมีความพยายามใช้ความรุนแรงทำให้เกิดภาพความขัดแย้งในพื้นที่ต่างๆ มันก็เลือกตั้งไม่ได้ แต่ถ้าเปิดให้ทุกคนสามารถเข้าได้ทุกพื้นที่ เป็นเงื่อนไขหนึ่งที่ทำให้การเลือกตั้งเร็วขึ้น
ด้านนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงผลการเลือกตั้งซ่อมที่ จ.ศรีสะเกษ ว่า เป็นธรรมดาของการเลือกตั้งที่ต้องมีแพ้ มีชนะ ไม่มีผลอะไรต่อรัฐบาล
ผู้สื่อข่าวถามว่าดูเหมือนกระแสของประชาชนภาคอีสานยังรัก พ.ต.ท.ทักษิณอยู่ นายสุเทพ กล่าวว่า ยังมีอีกนาน ยังมีเลือกตั้งอีกเยอะ
**เลือกซ่อมแค่แข่งกันรักทักษิณ
นายสุริยะใส กตะศิลา เลขาธิการพรรคการเมืองใหม่ กล่าวว่า ชัยชนะเลือกตั้งซ่อมของพรรคเพื่อไทย เป็นภาพสะท้อนความไร้ประสิทธิภาพของรัฐบาลในการช่วงชิงมวลชน เนื่องจากพรรคประชาธิปัตย์ แกนนำรัฐบาลถอดใจจากภาคอีสานไปนานแล้ว เพราะไปคิดว่าไม่มีทางเพิ่มคะแนนนิยมได้ แม้กระทั่งภาคเหนือบางพื้นที่ จึงปล่อยให้พรรคภูมิใจไทย เป็นหัวหอกแทน ซึ่งเป็นวิธีคิดที่ผิด เพราะเป็นยุทธศาสตร์ที่บริหารความนิยม และหวังผลเลือกตั้ง มากกว่ามุ่งสร้างการยอมรับจากคนอีสานด้วยผลงานที่เป็นรูปธรรม
หากพรรคประชาธิปัตย์ไม่ทบทวนยุทธศาสตร์ของพรรคในภาคอีสาน และภาคเหนือ ทั้งๆ ที่ตัวเองเป็นรัฐบาลและมีอำนาจรัฐในมือ จะสูญเสียที่นั่งในภาคอีสาน และภาคเหนือจนหมด ประการสำคัญความรู้สึกของประชาชนทั้งสองภาค จะโหยหาระบอบทักษิณ มากขึ้นกว่าเดิม
"เอาเข้าจริงๆ การเลือกตั้งที่จ.สกลนคร และศรีสะเกษ กลายเป็นการแข่งกันเองของกลุ่มคนรักทักษิณ ไม่ใช่การแข่งขันกันจริงอย่างที่คิด เพราะเครือข่ายหัวคะแนน เป็นกลุ่มคนในเครือข่ายเดียวกัน บางพื้นที่เอาข้าวของไปแจกชาวบ้านยังเป็นลักษณะถ้อยทีถ้อยอาศัย ขอแบ่งปันคะแนนกันเป็นเหมือนจัดฉากเลือกตั้งเท่านั้นเอง"
ดังนั้น ผลการเลือกตั้งซ่อม ทั้ง2 จังหวัด จึงไม่ใช่ดัชนีชี้วัดความนิยมในตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ได้อย่างร้อยเปอร์เซ็นต์ เพราะผู้สมัครพรรคคู่แข่งของพรรคเพื่อไทย ไม่ได้หาเสียงโดยชูความล้มเหลว และพฤติกรรมการคอร์รัปชั่นของระบอบทักษิณ และการทำงานของพรรคเพื่อไทยแต่อย่างใด ที่สำคัญคนที่ไม่เอาระบอบทักษิณในพื้นที่เลือกตั้ง ไม่รู้จะลงคะแนนให้ผู้สมัครพรรคใด เพราะผู้สมัครทั้งหมดเป็นกลุ่มคนในเครือข่ายระบอบทักษิณพูด ง่ายๆ ผู้สมัครต่างก็หาเสียงทำนองแข่งกันรักทักษิณทั้งนั้น
นายวัชระ กรรณิการ์ โฆษกพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวว่า การพ่ายแพ้ครั้งนี้ เป็นเพราะการโฟนอินของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่มาบอกว่า ผลเลือกตั้งที่ จ.สกลนคร ทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณ มาจ่อรออยู่ที่ชายแดนแล้ว หากชาวศรีสะเกษ เทคะแนนให้อีก ก็จะได้กลับมาเป็นนายกฯเพื่อปลดหนี้ให้ ซึ่งเรื่องนี้มีผลต่อการตัดสินใจของประชาชน รวมทั้งมีการกล่าวหาว่า ผู้สมัครของพรรคชาติไทยพัฒนา เป็นคนของ นายเนวิน ชิดชอบ และยังมีใบปลิวโจมตี 3 ครั้ง คือ โจมตีพรรค นายเนวิน และรัฐบาล ซึ่งก็มีผลต่อการตัดสินใจเช่นกัน
**พท.รอส.ส.ไหลกลับ
พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย รองประธานสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะแกนนำพรรคเพื่อไทยกล่าวว่า หลังจากพรรคชนะการเลือกตั้งซ่อม ก็มี ส.ส.หลายคนที่เคยตีจากพรรค ติดต่อขอกลับเข้ามาสังกัดพรรคเพื่อไทยอีกครั้ง ซึ่งทางพรรคยินดี และเปิดกว้างให้กับ ส.ส.เหล่านี้ ยกเว้น ส.ส.ที่ลาออกในช่วงที่มีการสลับขั้วทางการเมือง ซึ่งผู้ใหญ่ของพรรคยืนยันชัดเจนว่าจะไม่รับเข้าพรรคอย่างแน่นอน
พ.อ.อภิวันท์ กล่าวด้วยว่า ขณะนี้พรรคยังไม่มีแนวคิดในการเปลี่ยนตัวหัวหน้าพรรค เพราะเชื่อว่าพรรคประชาธิปัตย์ยังเป็นรัฐบาลได้อีกนาน และการเลือกตั้งจะยังไม่เกิดขึ้นในเร็ววันนี้ ส่วนรายชื่อ แคนดิเดตหัวหน้าพรรค ที่ปรากฏมาก่อนหน้านี้ อาทิ พล.ต.มนูญกฤต รูปขจร หรือคนอื่นๆ รวมทั้งตนด้วยนั้น เป็นเพียงข่าวลือ ส่วนกระแสข่าวการจับมือระหว่างพรรคเพื่อไทยและพรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาลนั้น ก็เป็นไปไม่ได้ในขณะนี้ ยกเว้นพรรคประชาธิปัตย์จะปรับแนวคิด และนโยบายให้ตรงกับพรรคเพื่อไทย ซึ่งก็มีโอกาสเป็นจริงได้ หลังการเลือกตั้งครั้งต่อไป
ด้านนายจุมพฎ บุญใหญ่ ส.ส.สกลนคร พรรคเพื่อไทย ยืนยันว่าจะไม่ย้ายกลับไปร่วมงานกับพรรคเพื่อไทย แม้พรรคเพื่อไทยจะชนะการเลือกตั้งซ่อมที่สกลนคร และศรีสะเกษ และกระแสของพ.ต.ท.ทักษิณ จะยังคงมีอยู่ในพื้นที่ เพราะได้ตัดสินใจแน่วแน่ที่จะร่วมงานกับพรรคภูมิใจไทยแล้ว
"ผมเป็นส.ส.ในพรรคเพื่อไทย หากเป็นได้เพียงส.ส.อย่างเดียว แต่ไม่มีบทบาทอะไร ก็อย่าเป็นดีกว่า" นายจุมพฎกล่าว
ส่วนการที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร โฟนอิน ขอให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่จ.ศรีสะเกษ ช่วยลงคะแนนให้ ชนะการเลือกตั้งเพื่อให้พากลับประเทศ จะถือเป็นการจูงใจหรือไม่ ก็อยู่ที่ความคิดของประชาชนว่าคิดอย่างไรกับคนที่พูด ไม่ใช่ว่าจะต้องเชื่อไปหมด และการเลือกตั้งประชาชนจะเป็นผู้ตัดสินใจเอง อย่าดูถูกประชาชน ตนเชื่อว่าประชาชนไม่สามารถจูงใจได้ทุกอย่าง แล้วการหาเสียงก็สามารถทำได้ และก็ไม่ได้ขัดกฎหมายตลอดเวลา แต่เมื่อมีผู้ร้องเข้ามา เราต้องนำเข้าสู่การพิจารณา ซึ่งเรื่องการโฟนอิน ก็มีผู้ร้องเข้ามาแล้ว
สำหรับผลคะแนนอย่างเป็นทางการในการเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ ผู้ที่ได้รับคะแนนเป็นอันดับ 1 คือ นายสุรชาติ ชาญประดิษฐ์ ผู้สมัครพรรคเพื่อไทยได้ 124,327 คะแนน อันดับ 2 คือนางสกุลทิพย์ อังคสกุลเกียรติ ผู้สมัครพรรคชาติไทยพัฒนาได้ 76,435 คะแนน มีผู้มาใช้สิทธิ 61.80% บัตรเสีย 1.38% บัตรไม่ประสงค์ลงคะแนน 3.29%
**อยากเลือกตั้งเร็วต้องลดขัดแย้ง
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงผลการเลือกตั้งซ่อม ที่พรรคเพื่อไทยชนะทั้งที่จ.สกลนคร และจ.ศรีสะเกษ จะทำให้เสื้อแดงฮึกเหิมหรือไม่ว่า แล้วแต่จะวิเคราะห์ และคิดว่าผลการเลือกตั้งไม่ได้แตกต่างจากที่คาดหมาย เพราะอีสานเป็นฐานสนับสนุนของพรรคเพื่อไทยอยู่แล้ว เมื่อถามว่า มีการวิเคราะห์ว่า คนอีสานยังต้องการ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อยู่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า คิดว่าการสนับสนุนก็ยังมีอยู่ ไม่แปลกอะไร การเลือกตั้งซ่อมที่ผ่านมา เขาก็โหมมาก ก็ธรรมดา
เมื่อถามว่าจนถึงเวลานี้รัฐบาลยังไม่ลงพื้นที่ ทำความเข้าใจกับชาวบ้าน ไม่ว่าจะเป็นภาคเหนือและอีสานเลย เพราะอะไร นายกฯ กล่าวว่า ที่จริงได้มีการทำความเข้าใจกันพอสมควร และความเข้าใจของคนจำนวนมากก็ดี เมื่อถามว่านายกฯกลัวอะไร นายกฯ กล่าวย้อนกลับว่า ไม่ได้กลัว แต่ไม่ต้องการเป็นเงื่อนไข และอยากบอกว่า จริงๆ แล้ว หากยังมีความพยายามใช้ความรุนแรงทำให้เกิดภาพความขัดแย้งในพื้นที่ต่างๆ มันก็เลือกตั้งไม่ได้ แต่ถ้าเปิดให้ทุกคนสามารถเข้าได้ทุกพื้นที่ เป็นเงื่อนไขหนึ่งที่ทำให้การเลือกตั้งเร็วขึ้น
ด้านนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงผลการเลือกตั้งซ่อมที่ จ.ศรีสะเกษ ว่า เป็นธรรมดาของการเลือกตั้งที่ต้องมีแพ้ มีชนะ ไม่มีผลอะไรต่อรัฐบาล
ผู้สื่อข่าวถามว่าดูเหมือนกระแสของประชาชนภาคอีสานยังรัก พ.ต.ท.ทักษิณอยู่ นายสุเทพ กล่าวว่า ยังมีอีกนาน ยังมีเลือกตั้งอีกเยอะ
**เลือกซ่อมแค่แข่งกันรักทักษิณ
นายสุริยะใส กตะศิลา เลขาธิการพรรคการเมืองใหม่ กล่าวว่า ชัยชนะเลือกตั้งซ่อมของพรรคเพื่อไทย เป็นภาพสะท้อนความไร้ประสิทธิภาพของรัฐบาลในการช่วงชิงมวลชน เนื่องจากพรรคประชาธิปัตย์ แกนนำรัฐบาลถอดใจจากภาคอีสานไปนานแล้ว เพราะไปคิดว่าไม่มีทางเพิ่มคะแนนนิยมได้ แม้กระทั่งภาคเหนือบางพื้นที่ จึงปล่อยให้พรรคภูมิใจไทย เป็นหัวหอกแทน ซึ่งเป็นวิธีคิดที่ผิด เพราะเป็นยุทธศาสตร์ที่บริหารความนิยม และหวังผลเลือกตั้ง มากกว่ามุ่งสร้างการยอมรับจากคนอีสานด้วยผลงานที่เป็นรูปธรรม
หากพรรคประชาธิปัตย์ไม่ทบทวนยุทธศาสตร์ของพรรคในภาคอีสาน และภาคเหนือ ทั้งๆ ที่ตัวเองเป็นรัฐบาลและมีอำนาจรัฐในมือ จะสูญเสียที่นั่งในภาคอีสาน และภาคเหนือจนหมด ประการสำคัญความรู้สึกของประชาชนทั้งสองภาค จะโหยหาระบอบทักษิณ มากขึ้นกว่าเดิม
"เอาเข้าจริงๆ การเลือกตั้งที่จ.สกลนคร และศรีสะเกษ กลายเป็นการแข่งกันเองของกลุ่มคนรักทักษิณ ไม่ใช่การแข่งขันกันจริงอย่างที่คิด เพราะเครือข่ายหัวคะแนน เป็นกลุ่มคนในเครือข่ายเดียวกัน บางพื้นที่เอาข้าวของไปแจกชาวบ้านยังเป็นลักษณะถ้อยทีถ้อยอาศัย ขอแบ่งปันคะแนนกันเป็นเหมือนจัดฉากเลือกตั้งเท่านั้นเอง"
ดังนั้น ผลการเลือกตั้งซ่อม ทั้ง2 จังหวัด จึงไม่ใช่ดัชนีชี้วัดความนิยมในตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ได้อย่างร้อยเปอร์เซ็นต์ เพราะผู้สมัครพรรคคู่แข่งของพรรคเพื่อไทย ไม่ได้หาเสียงโดยชูความล้มเหลว และพฤติกรรมการคอร์รัปชั่นของระบอบทักษิณ และการทำงานของพรรคเพื่อไทยแต่อย่างใด ที่สำคัญคนที่ไม่เอาระบอบทักษิณในพื้นที่เลือกตั้ง ไม่รู้จะลงคะแนนให้ผู้สมัครพรรคใด เพราะผู้สมัครทั้งหมดเป็นกลุ่มคนในเครือข่ายระบอบทักษิณพูด ง่ายๆ ผู้สมัครต่างก็หาเสียงทำนองแข่งกันรักทักษิณทั้งนั้น
นายวัชระ กรรณิการ์ โฆษกพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวว่า การพ่ายแพ้ครั้งนี้ เป็นเพราะการโฟนอินของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่มาบอกว่า ผลเลือกตั้งที่ จ.สกลนคร ทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณ มาจ่อรออยู่ที่ชายแดนแล้ว หากชาวศรีสะเกษ เทคะแนนให้อีก ก็จะได้กลับมาเป็นนายกฯเพื่อปลดหนี้ให้ ซึ่งเรื่องนี้มีผลต่อการตัดสินใจของประชาชน รวมทั้งมีการกล่าวหาว่า ผู้สมัครของพรรคชาติไทยพัฒนา เป็นคนของ นายเนวิน ชิดชอบ และยังมีใบปลิวโจมตี 3 ครั้ง คือ โจมตีพรรค นายเนวิน และรัฐบาล ซึ่งก็มีผลต่อการตัดสินใจเช่นกัน
**พท.รอส.ส.ไหลกลับ
พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย รองประธานสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะแกนนำพรรคเพื่อไทยกล่าวว่า หลังจากพรรคชนะการเลือกตั้งซ่อม ก็มี ส.ส.หลายคนที่เคยตีจากพรรค ติดต่อขอกลับเข้ามาสังกัดพรรคเพื่อไทยอีกครั้ง ซึ่งทางพรรคยินดี และเปิดกว้างให้กับ ส.ส.เหล่านี้ ยกเว้น ส.ส.ที่ลาออกในช่วงที่มีการสลับขั้วทางการเมือง ซึ่งผู้ใหญ่ของพรรคยืนยันชัดเจนว่าจะไม่รับเข้าพรรคอย่างแน่นอน
พ.อ.อภิวันท์ กล่าวด้วยว่า ขณะนี้พรรคยังไม่มีแนวคิดในการเปลี่ยนตัวหัวหน้าพรรค เพราะเชื่อว่าพรรคประชาธิปัตย์ยังเป็นรัฐบาลได้อีกนาน และการเลือกตั้งจะยังไม่เกิดขึ้นในเร็ววันนี้ ส่วนรายชื่อ แคนดิเดตหัวหน้าพรรค ที่ปรากฏมาก่อนหน้านี้ อาทิ พล.ต.มนูญกฤต รูปขจร หรือคนอื่นๆ รวมทั้งตนด้วยนั้น เป็นเพียงข่าวลือ ส่วนกระแสข่าวการจับมือระหว่างพรรคเพื่อไทยและพรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาลนั้น ก็เป็นไปไม่ได้ในขณะนี้ ยกเว้นพรรคประชาธิปัตย์จะปรับแนวคิด และนโยบายให้ตรงกับพรรคเพื่อไทย ซึ่งก็มีโอกาสเป็นจริงได้ หลังการเลือกตั้งครั้งต่อไป
ด้านนายจุมพฎ บุญใหญ่ ส.ส.สกลนคร พรรคเพื่อไทย ยืนยันว่าจะไม่ย้ายกลับไปร่วมงานกับพรรคเพื่อไทย แม้พรรคเพื่อไทยจะชนะการเลือกตั้งซ่อมที่สกลนคร และศรีสะเกษ และกระแสของพ.ต.ท.ทักษิณ จะยังคงมีอยู่ในพื้นที่ เพราะได้ตัดสินใจแน่วแน่ที่จะร่วมงานกับพรรคภูมิใจไทยแล้ว
"ผมเป็นส.ส.ในพรรคเพื่อไทย หากเป็นได้เพียงส.ส.อย่างเดียว แต่ไม่มีบทบาทอะไร ก็อย่าเป็นดีกว่า" นายจุมพฎกล่าว