ส.ส.เสื้อแดงทำให้ไทยเอียนสภาสุดๆ แต่เราลืมไปว่า (1) ระบบเลือกตั้งของเราใช้ไม่ได้ และ (2) ระบบพรรคการเมืองของเราใช้ไม่ได้
นี่เป็นปัญหาโครงสร้างที่ผลิตสภาจกเปรตและส.ส.สารเลว
จนบัดนี้ เรามีพรรคการเมืองแค่ครึ่งพรรค คือ พรรคประชาธิปัตย์ที่เป็นแก๊งเลือกตั้งครึ่งหนึ่ง นอกจากนั้น เป็นแก๊งเลือกตั้งหมด
ผมเห็นว่ารัฐธรรมนูญฉบับ 2540 และ 2550 แย่โลซกทั้งคู่ แต่ไม่มีความจำเป็นใดๆจะต้องรีบแก้ อาจารย์สัญญาอยู่จนครบเทอมใต้ธรรมนูญของจอมพลถนอม อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เคยเห็นว่า “การปฏิรูปการเมืองเป็นภารกิจที่ยิ่งใหญ่กว่าร่างรัฐธรรมนูญ ฯลฯ หลายๆเรื่อง รัฐบาลสามารถดำเนินการได้เลย โดยไม่ต้องรอรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ฯลฯ ทำไมไม่รีบทำเสียแต่วันนี้ เรื่องการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพผู้ประกอบอาชีพสื่อ เรื่องของการปรับปรุงกฎหมายทุจริตคอร์รัปชัน การหามาตรการการคุ้มครองข้าราชการที่ปฏิบัติหน้าที่อย่างเที่ยงธรรม ไม่จำนนต่อการใช้อำนาจไม่ถูกต้องของนักการเมือง ฯลฯ “สิ่งเหล่านี้ สามารถทำได้เลย ไม่ต้องรอรัฐธรรมนูญ” ผมเติมว่า “ที่แก้สนองตัณหาทักษิณ”
เร็วๆ นี้ ผมไปเยี่ยมผู้นำมุสลิมที่ไม่สู้ลงรอยกับรัฐบาล 3 จังหวัด ระหว่างนั่งรถจากหาดใหญ่ไปยะลา ครูอ้วน เจียรบุตร ผู้นำครูภาคใต้ถามผมเรื่องการเลือกตั้งกับพรรคการเมือง ดังนี้
ถาม ให้สมัคร ส.ส.ได้โดยไม่ต้องสังกัดพรรคดีอย่างไร
ตอบ ไม่มีประเทศเจริญที่ไหนบังคับให้ ส.ส.สังกัดพรรค เพราะทำลายเสรีภาพที่สำคัญที่สุด คือเสรีภาพทางการเมือง แต่ประเทศเหล่านั้นล้วนแต่มีระบบพรรคการเมืองที่เข้มแข็ง มีส.ส.อิสระไม่กี่คน การย้ายพรรคมีน้อยมาก หลายๆ ปีจะมีสักคน ในกรณีของผู้นำที่คิดตรงกันข้ามกับพรรค หรือ ส.ส.ของเขตที่เสียหายจากการตัดสินใจของพรรคอย่างรุนแรง ข้อดี ของการสมัครอิสระ ก็คือ การเปิดทางให้บุคคลอัจฉริยะให้ภูมิภาค หรือเสียงส่วนน้อยที่สำคัญ เป็นเอกลักษณ์หรือประเด็นที่พรรคใหญ่ไม่สนใจ
ถาม ระบบพรรคจะอ่อนแอ
ตอบ กฎหมาย หรือ กกต.ไม่สามารถเขียนหรือสั่งให้ระบบพรรคเข้มแข็งได้ มีวิธีอื่นๆ ทางตรงทางอ้อมสารพัดที่ได้ผล พรรคต้องสร้างขึ้นมาจาก (1) ระบบสังคมที่มีส่วนร่วม ส่งเสริมกลุ่มต่างๆ ให้รวมตัวเป็นองค์กรที่เข้มแข็ง (2) จากระบบการศึกษาที่สอนให้รู้จักคิดรู้จักสามัคคีรับผิดชอบมีพลังกลุ่ม และมีทักษะที่จำเป็น เช่น รู้และฝึกวิธีประชุมสภามาตั้งแต่เด็ก ประชุมสภาและครม.ไทยไม่มีมาตรฐานของ Parliament Procedures เลย (3) จากระบบเศรษฐกิจที่พอเพียง ที่คนไม่ตกเป็นทาสของลัทธิตามน้ำ ตามอย่าง และตามพึ่ง
(4) การส่งเสริมพรรคด้วยวิธีการเลือกตั้งที่ง่าย เหมาะสม แน่นอนและมีความเป็นตัวแทนเพียงพอในการเลือกตัวแทนพรรค การเลือกตั้งทั่วไป การเลือกตั้งซ้ำ ครั้งที่ 2 ฯลฯ ซึ่งมีอยู่หลายวิธี และ (5) การสนับสนุนพรรคที่แยบคาย และยุติธรรม ลงโทษการย้ายพรรคด้วยการปรับ การตัดสิทธิเลือกหนึ่งสมัย การพ้นตำแหน่งหรือกรรมาธิการ การลงโทษทางสังคมและการเมืองอื่นๆ บ้านเราไม่เคยทดสอบวิธีเหล่านี้เลย เพราะผู้นำ นักการเมือง นักวิชาการ แม้อภิสิทธิ์ ก็เชื่อเป็นศาสนาเสียแล้วว่าการบังคับพรรคและการเป็นสมาชิกอย่างน้อย 90 วันจะทำให้ระบบพรรคเข้มแข็ง
ถาม อภิสิทธิ์ว่า “สภาจะกลายเป็นตลาดส.ส.” เดี๋ยวส.ส.จะขายตัวอย่างมโหฬาร
ตอบ ใครว่า ส.ส.สังกัดพรรคไม่ขายตัว สมัยเสรีมนังคศิลา พรรคฝ่ายค้านที่ใหญ่ที่สุดมีพรรคผี คือ ส.ส.กลุ่มใหญ่แอบไปสนับสนุนรัฐบาล การขายตัวอีกอย่างหนึ่งคือขายโหวตในการยกมือทุกอย่าง ส.ส.ที่จอมพลถนอมทนไม่ได้ต้องปฏิวัติ คือ ส.ส.พรรคสหประชาไทยของตนเอง เดี๋ยวนี้มีกี่พรรคที่ไม่ต้องจ่ายเงินซื้อโหวต ส.ส.ไม่มีเลย เราไม่มีสถิติยืนยันว่าส.ส.อิสระจะขายตัวมากหรือน้อยกว่า เพราะเราไม่เคยมี ส.ส.อิสระบ่อยและนานพอ
ถาม การห้ามไม่ให้ ส.ส.เป็นรัฐมนตรี จะช่วยหรือไม่
ตอบ ดูเผินๆ น่าจะ แต่ระยะยาวไม่เกิดผลดี เพราะฐานระดมการมีส่วนร่วมของประชาชนจะเล็กลง และการแข่งกันสร้างผู้นำให้แก่ประเทศจะจำกัดมากขึ้น ผู้นำจะมาจากอาชีพไหนก็ตาม สมควรมีชั่วโมงบินในสภาผู้แทนฯ ก่อน แต่ผู้แทนเป็นสัญลักษณ์แห่งความไว้วางใจ ไม่ใช่สัญลักษณ์ของความสามารถ ความสามารถเกิดขึ้นเมื่อมีระยะเวลา และขบวนการให้ผู้แทนหลายๆ คนแข่งกันเป็นผู้นำ จึงจะได้ผู้นำที่มาจากความไว้วางใจของประชาชน และเข้าใจปัญหาของประชาชนดี เป็นผู้ที่มีภาวะผู้นำเพราะได้พิสูจน์แล้วในพรรค การร่วมงานกับสภาจะดี สามารถใช้ข้าราชการประจำซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความ สามารถได้ดีขึ้น การแยกฝ่ายบริหารน่าจะประสบปัญหาเดียวกับจอมพลถนอม หรือนายกฯลากตั้งคนอื่นๆ คือรัฐบาลคุม ส.ส.ไม่ได้กับความห่างเหินราษฎร
ถาม สภาผู้แทนในฝันเป็นอย่างไร
ตอบ สภาในฝันจะต้องประกอบด้วย ส.ส.ในฝัน และพรรคการเมืองในฝันอย่างน้อย 1 พรรค ควรจะมี 1 หรือ 2 สภา กว่า 90% ในโลกมี 2 สภา เพื่อเอาไว้เสริม ตรวจสอบ และป้องกันความเสียหายของสภาล่าง ประชาธิปัตย์ต้องพัฒนาตนเองเป็นพรรค เลิกพะวงแต่ที่นั่งและการร่วมรัฐบาลทุกลมหายใจ พรรคการเมืองใหญ่อาจเกิดได้ 3 พรรค เพราะเส้นแบ่งของผลประโยชน์หรืออุดมการณ์กับความตื่นตัวของประชาชนชัดเจนขึ้น ส.ส.อิสระและพรรคเล็กซึ่งเป็นตัวแทนคนกลุ่มน้อยหรือนโยบายเฉพาะ เช่น โลกร้อนหรือการปลีกตัวออกจากทุนนิยมสุดโต่ง ฯลฯ มีขนาดราวๆ 5% ของสภาทั้งหมด ผู้สมัคร ส.ส.ต้องคัดเลือกมาจากสาขาพรรคในเขตเลือกตั้งตามขั้นตอนประชาธิปไตย ต้องผ่านการทดสอบทำหน้าที่หลักคือการประชุมตาม Parliament Procedures เป็น และสามารถทำหน้าที่หลักของสภา คือ การจัดตั้งรัฐบาล การควบคุมรัฐบาลและงบประมาณ การออกกฎหมาย การสร้างสันติภาพและก่อสงคราม ได้อย่างมีสมรรถภาพ ไม่ตกอยู่ใต้อามิสสินจ้าง
ถาม สภาผู้แทนในฝันจะได้มาอย่างไร
ตอบ ต้องปฏิรูปการเมืองเป็นราชประชาสมาสัย คือการมีส่วนร่วมอย่างถูกต้องตามครรลองประชาธิปไตยและทศพิธราชธรรมระหว่างพระมหากษัตริย์กับปวงชนชาวไทย ใช้หลักนี้กำกับสัญลักษณ์ โครงสร้าง องค์ประกอบ และพฤติกรรมของระบบการเมือง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสภาผู้แทนราษฎร
เริ่มเสียตั้งแต่วันนี้ โดยไม่ต้องคอยร่างรัฐธรรมนูญใหม่เลย
นี่เป็นปัญหาโครงสร้างที่ผลิตสภาจกเปรตและส.ส.สารเลว
จนบัดนี้ เรามีพรรคการเมืองแค่ครึ่งพรรค คือ พรรคประชาธิปัตย์ที่เป็นแก๊งเลือกตั้งครึ่งหนึ่ง นอกจากนั้น เป็นแก๊งเลือกตั้งหมด
ผมเห็นว่ารัฐธรรมนูญฉบับ 2540 และ 2550 แย่โลซกทั้งคู่ แต่ไม่มีความจำเป็นใดๆจะต้องรีบแก้ อาจารย์สัญญาอยู่จนครบเทอมใต้ธรรมนูญของจอมพลถนอม อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เคยเห็นว่า “การปฏิรูปการเมืองเป็นภารกิจที่ยิ่งใหญ่กว่าร่างรัฐธรรมนูญ ฯลฯ หลายๆเรื่อง รัฐบาลสามารถดำเนินการได้เลย โดยไม่ต้องรอรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ฯลฯ ทำไมไม่รีบทำเสียแต่วันนี้ เรื่องการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพผู้ประกอบอาชีพสื่อ เรื่องของการปรับปรุงกฎหมายทุจริตคอร์รัปชัน การหามาตรการการคุ้มครองข้าราชการที่ปฏิบัติหน้าที่อย่างเที่ยงธรรม ไม่จำนนต่อการใช้อำนาจไม่ถูกต้องของนักการเมือง ฯลฯ “สิ่งเหล่านี้ สามารถทำได้เลย ไม่ต้องรอรัฐธรรมนูญ” ผมเติมว่า “ที่แก้สนองตัณหาทักษิณ”
เร็วๆ นี้ ผมไปเยี่ยมผู้นำมุสลิมที่ไม่สู้ลงรอยกับรัฐบาล 3 จังหวัด ระหว่างนั่งรถจากหาดใหญ่ไปยะลา ครูอ้วน เจียรบุตร ผู้นำครูภาคใต้ถามผมเรื่องการเลือกตั้งกับพรรคการเมือง ดังนี้
ถาม ให้สมัคร ส.ส.ได้โดยไม่ต้องสังกัดพรรคดีอย่างไร
ตอบ ไม่มีประเทศเจริญที่ไหนบังคับให้ ส.ส.สังกัดพรรค เพราะทำลายเสรีภาพที่สำคัญที่สุด คือเสรีภาพทางการเมือง แต่ประเทศเหล่านั้นล้วนแต่มีระบบพรรคการเมืองที่เข้มแข็ง มีส.ส.อิสระไม่กี่คน การย้ายพรรคมีน้อยมาก หลายๆ ปีจะมีสักคน ในกรณีของผู้นำที่คิดตรงกันข้ามกับพรรค หรือ ส.ส.ของเขตที่เสียหายจากการตัดสินใจของพรรคอย่างรุนแรง ข้อดี ของการสมัครอิสระ ก็คือ การเปิดทางให้บุคคลอัจฉริยะให้ภูมิภาค หรือเสียงส่วนน้อยที่สำคัญ เป็นเอกลักษณ์หรือประเด็นที่พรรคใหญ่ไม่สนใจ
ถาม ระบบพรรคจะอ่อนแอ
ตอบ กฎหมาย หรือ กกต.ไม่สามารถเขียนหรือสั่งให้ระบบพรรคเข้มแข็งได้ มีวิธีอื่นๆ ทางตรงทางอ้อมสารพัดที่ได้ผล พรรคต้องสร้างขึ้นมาจาก (1) ระบบสังคมที่มีส่วนร่วม ส่งเสริมกลุ่มต่างๆ ให้รวมตัวเป็นองค์กรที่เข้มแข็ง (2) จากระบบการศึกษาที่สอนให้รู้จักคิดรู้จักสามัคคีรับผิดชอบมีพลังกลุ่ม และมีทักษะที่จำเป็น เช่น รู้และฝึกวิธีประชุมสภามาตั้งแต่เด็ก ประชุมสภาและครม.ไทยไม่มีมาตรฐานของ Parliament Procedures เลย (3) จากระบบเศรษฐกิจที่พอเพียง ที่คนไม่ตกเป็นทาสของลัทธิตามน้ำ ตามอย่าง และตามพึ่ง
(4) การส่งเสริมพรรคด้วยวิธีการเลือกตั้งที่ง่าย เหมาะสม แน่นอนและมีความเป็นตัวแทนเพียงพอในการเลือกตัวแทนพรรค การเลือกตั้งทั่วไป การเลือกตั้งซ้ำ ครั้งที่ 2 ฯลฯ ซึ่งมีอยู่หลายวิธี และ (5) การสนับสนุนพรรคที่แยบคาย และยุติธรรม ลงโทษการย้ายพรรคด้วยการปรับ การตัดสิทธิเลือกหนึ่งสมัย การพ้นตำแหน่งหรือกรรมาธิการ การลงโทษทางสังคมและการเมืองอื่นๆ บ้านเราไม่เคยทดสอบวิธีเหล่านี้เลย เพราะผู้นำ นักการเมือง นักวิชาการ แม้อภิสิทธิ์ ก็เชื่อเป็นศาสนาเสียแล้วว่าการบังคับพรรคและการเป็นสมาชิกอย่างน้อย 90 วันจะทำให้ระบบพรรคเข้มแข็ง
ถาม อภิสิทธิ์ว่า “สภาจะกลายเป็นตลาดส.ส.” เดี๋ยวส.ส.จะขายตัวอย่างมโหฬาร
ตอบ ใครว่า ส.ส.สังกัดพรรคไม่ขายตัว สมัยเสรีมนังคศิลา พรรคฝ่ายค้านที่ใหญ่ที่สุดมีพรรคผี คือ ส.ส.กลุ่มใหญ่แอบไปสนับสนุนรัฐบาล การขายตัวอีกอย่างหนึ่งคือขายโหวตในการยกมือทุกอย่าง ส.ส.ที่จอมพลถนอมทนไม่ได้ต้องปฏิวัติ คือ ส.ส.พรรคสหประชาไทยของตนเอง เดี๋ยวนี้มีกี่พรรคที่ไม่ต้องจ่ายเงินซื้อโหวต ส.ส.ไม่มีเลย เราไม่มีสถิติยืนยันว่าส.ส.อิสระจะขายตัวมากหรือน้อยกว่า เพราะเราไม่เคยมี ส.ส.อิสระบ่อยและนานพอ
ถาม การห้ามไม่ให้ ส.ส.เป็นรัฐมนตรี จะช่วยหรือไม่
ตอบ ดูเผินๆ น่าจะ แต่ระยะยาวไม่เกิดผลดี เพราะฐานระดมการมีส่วนร่วมของประชาชนจะเล็กลง และการแข่งกันสร้างผู้นำให้แก่ประเทศจะจำกัดมากขึ้น ผู้นำจะมาจากอาชีพไหนก็ตาม สมควรมีชั่วโมงบินในสภาผู้แทนฯ ก่อน แต่ผู้แทนเป็นสัญลักษณ์แห่งความไว้วางใจ ไม่ใช่สัญลักษณ์ของความสามารถ ความสามารถเกิดขึ้นเมื่อมีระยะเวลา และขบวนการให้ผู้แทนหลายๆ คนแข่งกันเป็นผู้นำ จึงจะได้ผู้นำที่มาจากความไว้วางใจของประชาชน และเข้าใจปัญหาของประชาชนดี เป็นผู้ที่มีภาวะผู้นำเพราะได้พิสูจน์แล้วในพรรค การร่วมงานกับสภาจะดี สามารถใช้ข้าราชการประจำซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความ สามารถได้ดีขึ้น การแยกฝ่ายบริหารน่าจะประสบปัญหาเดียวกับจอมพลถนอม หรือนายกฯลากตั้งคนอื่นๆ คือรัฐบาลคุม ส.ส.ไม่ได้กับความห่างเหินราษฎร
ถาม สภาผู้แทนในฝันเป็นอย่างไร
ตอบ สภาในฝันจะต้องประกอบด้วย ส.ส.ในฝัน และพรรคการเมืองในฝันอย่างน้อย 1 พรรค ควรจะมี 1 หรือ 2 สภา กว่า 90% ในโลกมี 2 สภา เพื่อเอาไว้เสริม ตรวจสอบ และป้องกันความเสียหายของสภาล่าง ประชาธิปัตย์ต้องพัฒนาตนเองเป็นพรรค เลิกพะวงแต่ที่นั่งและการร่วมรัฐบาลทุกลมหายใจ พรรคการเมืองใหญ่อาจเกิดได้ 3 พรรค เพราะเส้นแบ่งของผลประโยชน์หรืออุดมการณ์กับความตื่นตัวของประชาชนชัดเจนขึ้น ส.ส.อิสระและพรรคเล็กซึ่งเป็นตัวแทนคนกลุ่มน้อยหรือนโยบายเฉพาะ เช่น โลกร้อนหรือการปลีกตัวออกจากทุนนิยมสุดโต่ง ฯลฯ มีขนาดราวๆ 5% ของสภาทั้งหมด ผู้สมัคร ส.ส.ต้องคัดเลือกมาจากสาขาพรรคในเขตเลือกตั้งตามขั้นตอนประชาธิปไตย ต้องผ่านการทดสอบทำหน้าที่หลักคือการประชุมตาม Parliament Procedures เป็น และสามารถทำหน้าที่หลักของสภา คือ การจัดตั้งรัฐบาล การควบคุมรัฐบาลและงบประมาณ การออกกฎหมาย การสร้างสันติภาพและก่อสงคราม ได้อย่างมีสมรรถภาพ ไม่ตกอยู่ใต้อามิสสินจ้าง
ถาม สภาผู้แทนในฝันจะได้มาอย่างไร
ตอบ ต้องปฏิรูปการเมืองเป็นราชประชาสมาสัย คือการมีส่วนร่วมอย่างถูกต้องตามครรลองประชาธิปไตยและทศพิธราชธรรมระหว่างพระมหากษัตริย์กับปวงชนชาวไทย ใช้หลักนี้กำกับสัญลักษณ์ โครงสร้าง องค์ประกอบ และพฤติกรรมของระบบการเมือง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสภาผู้แทนราษฎร
เริ่มเสียตั้งแต่วันนี้ โดยไม่ต้องคอยร่างรัฐธรรมนูญใหม่เลย