“เทพไท” เชื่อ ส.ส.อีสานไม่โดดเดี่ยว “มาร์ค” สะกิดเยี่ยมฐานเสียง

โฆษกนายกฯ เย้ยเพื่อไทยเพ้อเจ้อฝันรัฐบาลยุบสภา ยืนยันจะบริหารจนได้ใช้งบปี 53 เชื่อ “สุทัศน์” ไม่คิดตีจาก ปชป. ปิดช่องเปิดทางให้ภูมิใจไทยยึดครองพื้นที่ ระบุนายกพร้อมจะลงพื้นที่อีสานที่มีฐานเสียง ปชป.อยู่ด้วย

วันนี้ (3 ก.ค.) นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทยวิเคราะห์ว่า รัฐบาลจะยุบสภา ประมาณเดือน ต.ค. โดยอ้างสาเหตุมาจากการที่ กกต.จะชี้มูล ส.ส.ถือหุ้น ในบริษัทสัมปทานของรัฐ ในเดือน ก.ค.นี้ และการพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี 2553 ผ่านสภา ในเดือน ส.ค.นี้นั้นว่า ล้วนแล้วแต่เป็นการวิเคราะห์ ในลักษณะเพ้อเจ้อขาดข้อมูลที่เป็นจริง เพราะการที่กกต.ชี้มูลความผิด ส.ส.ถือหุ้นจะไม่กระทบต่อเสถียรภาพของรัฐบาล เพราะจำนวน ส.ส.ที่ถือหุ้นนั้นมีไม่มาก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ส.ส.ที่มีความผิดตามมาตรา 48 ที่ระบุว่า ผู้ถือหุ้นด้านกิจการสื่อสารจะต้องเป็นผู้เข้าไปบริหารกิจการดังกล่าว ในทำนองเดียวกับเจ้าของกิจการ หรือถือหุ้นในกิจการนั้น ดังนั้น การที่ ส.ส.ถือหุ้นคนละ 5 หุ้นหรือ 10 หุ้น ไม่มีผลต่อกิจการดังกล่าวตามมาตรานี้ จึงน่าจะทำให้ไม่มีความผิด

นายเทพไทกล่าวต่อว่า ส่วนการประเมินว่าจะยุบสภาเมื่อผ่านงบประมาณฯ 53 ไปแล้ว ก็เป็นการทำนายให้สอดคล้องกับการพยากรณ์อายุรัฐบาลของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่บอกว่าอายุรัฐบาลจะอยู่ไม่เกิน 3 เดือนเท่านั้น ขอยืนยันว่ารัฐบาลจะไม่ยุบสภาอย่างแน่นอน อย่างน้อยที่สุดก็จะต้องให้การใช้งบประมาณ 53 มีผลปฏิบัติออกมาเป็นรูปธรรมก่อน และจะต้องมีเงื่อนไขทางการเมืองที่ทำให้รัฐบาลเดินทางตันเท่านั้น

ส่วนการเตรียมการสรรหาตัวผู้สมัครของพรรคประชาธิปัตย์ หลังจากที่มีการประชุมคณะกรรมการคัดเลือกผู้สมัคร นายเทพไทกล่าวว่า เป็นธรรมดาของพรรคการเมืองทุกพรรค ที่ต้องมีการเตรียมพร้อมบุคคลกรทางการเมืองตลอดเวลา ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับการกระแสการยุบสภาแต่อย่างใด พรรคประชาธิปัตย์ ก็จะทำการเมืองเต็มพื้นที่จะไม่มีเรื่อง ส.ส.ฝากเลี้ยง หรือ ส.ส.ประเภทอุ้มบุญ กับพรรคการเมืองอื่น เพราะเมื่อสถานการณ์ทางการเมืองมีการเลือกตั้งทั่วไปเกิดขึ้น พรรคการเมืองทุกพรรคก็จะต่อสู้ทางการเมืองอย่างเต็มที่ ยังไม่เคยเห็นการฮั้วทางการเมืองของพรรคการเมืองเลยสักครั้ง ในประวัตืศาสตร์การเลือกตั้ง

“สำหรับพรรคประชาธิปัตย์ก็จะทำการเมืองเต็มที่ทั่วประเทศ เพราะพรรคประชาธิปัตย์มีฐานผู้สนับสนุนที่เป็นแฟนพันธุ์แท้ อย่างน้อยเขตเลือกตั้งละ 3 หมื่น เพราะฉะนั้นจะมองให้พรรคการเมืองอื่นทำแทนไม่ได้ เหมือนกับเพลงที่บอกว่า “คนที่ไม่ใช่แฟนทำแทนไม่ได้” นายเทพไท กล่าว

ส่วนฐานเสียงของพรรคประชาธิปัตย์ในภาคอีสานนั้น นายเทพไทกล่าวว่า ถ้าเปรียบเหมือนข้อสอบก็อาจจะเป็นเลขข้อยาก และมีคะแนนสูง พรรคประชาธิปัตย์ก็พยายามจะทำเลขข้อนี้ให้สำเร็จให้จงได้ เพราะพรรคประชาธิปัตย์ก่อตั้ง ขึ้นมาด้วยนักการเมืองจากภาคอีสาน และในอดีต สมาชิกของพรรคประชาธิปัตย์ก็ได้รับเลือกตั้งจำนวนมาก จึงได้สร้างขุนพลอีสานมาแล้วหลายคน

เมื่อถามว่า มองอย่างไรที่ ส.ส.อีสานไม่พอใจการลงพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ ของนายกรัฐมนตรี เพราะเป็นพื้นที่ของพรรคภูมิใจไทย นายเทพไทกล่าวว่า อาจจะเป็นเพราะ ส.ส.ไม่ได้ทราบข้อเท็จจริงว่าการลงพื้นที่ของนายกฯ ต้องพิจารณาถึงความพร้อมในนโบายๆ ด้านของพื้นที่มากกว่าภาพลักษณ์และฐานเสียงของพรรค วันนี้นายกฯ เป็นผู้บริหารสูงสุดของประเทศ ก็จะไม่เลือกปฏิบัติให้กับพื้นที่หนึ่งพื้นที่ใดเป็นพิเศษ และโอกาสต่อไปก็คงจะลงในพื้นที่ในจังหวัดที่มี ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ด้วย

ส่วนที่ นายสุทัศน์ เงินหมื่น ส.ส.สัดส่วน แกนนำภาคอีสานพรรคประชาธิปัตย์ ไม่พอใจจนถึงขั้นประกาศจะลาออกจากพรรคประชาธิปัตย์ หากนายกฯทุ่มงบให้กับพรรคภูมิใจไทยในภาคอีกสานนั้น นายเทพไทกล่าวว่า ไม่น่าจะเกี่ยวข้องกัน การใช้งบประมาณของรัฐบาลไม่ได้แบ่งว่าเป็นของพรรคการเมืองหนึ่งการเมืองใด โดยเฉพาะ แต่เป็นการใช้งบประมาณผ่านโครงการที่เป็นผลงานของรัฐบาล ยืนยันว่าพรรคจะไม่มีความขัดแย้งในเรื่องนี้อย่างแน่นอน เพราะทุกคนที่เป็น ส.ส.อีสาน ของพรรควันนี้ล้วนแล้วแต่เป็นคนที่มีอุดมการณ์ยืนยันต่อสู้กับพรรคประชาธิปัตย์มาเป็นเวลายาวนาน โดยพาะอย่างยิ่งนายสุทัศน์ เป็นผู้อาวุโสทางการเมือง เป็นบุคคลสำคัญของพรรคในภาคอีสาน คงไม่มีวันตีจากพรรคประชาธิปัตย์ไปได้