พรรคการเมืองใหม่ตั้ง "สนธิ" เป็น หน.คณะทำงานด้านนโยบาย ร่วมต่อยอดแนวคิดผลักดันนโยบายให้สำเร็จ เตรียมประชุมใหญ่ไม่เกิน 25 ส.ค.นี้ ด้าน"สุริยะใส" เผย ก.ม.ม. พร้อมผุดสาขาพรรค 13 จว. ครอบคลุม 4 ภาค ผู้สนใจสมัครสมาชิกดาวโหลดใบสมัครได้จากเว็บ newpoliticsparty.net เผยมี ส.ว.ทาบทามขอร่วมพรรคบ้างแล้ว แต่ยังไม่สามารถรับได้
รายการ “คนในข่าว” ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์เอเอสทีวี-ทีวีของประชาชน ช่วงเวลา 20.30-21.30 น. วันที่ 30 มิถุนายน โดยนายเติมศักดิ์ จารุปราน เป็นผู้ดำเนินรายการ ซึ่งได้รับเกียรติจากนายสมศักดิ์ โกศัยสุข หัวหน้าพรรคการเมืองใหม่ และนายสุริยะใส กตะศิลา เลขาธิการพรรคการเมืองใหม่ มาร่วมพูดคุยถึงเรื่องแนวทางการดำเนินการของพรรคการเมืองใหม่
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า หลังจากได้รับเอกสาร ก.ก.ต. มีมติรับรองตังแต่ 25 มิ.ย. วันนี้ได้มีการประชุมกันหลายเรื่อง ทั้งการเตรียมแบบฟอร์มใบสมัคร ไว้ให้สมาชิกอย่างน้อย 5,000 คน รวมถึงการจัดตั้งสาขาพรรคใน 4 ภาค ภาคละ 1 สาขา สำหรับผู้ที่สนใจสามารถนำใบสมัครไปกรอกได้ทันทีเสร็จแล้วต้องนำมาสมัครด้วยตนเอง ณ ที่ทำการพรรค โดยต้องเสียค่าทำเนียมแรกเข้า 100 บาท ค่าบำรุงปีละ 120 บาท ทั้งนี้ นายสมศักดิ์ย้ำว่าพรรคการเมืองใหม่เน้นให้ทุกคนมีส่วนร่วม ไม่ใช่ว่าใครมีเงินมากก็นำเงินมาซื้อตำแหน่งครอบครองพรรค
ที่ประชุมมีมติไว้ว่าการหาสมาชิกจำนวน 5,000 คน ต้องทำให้ได้ภายใน 1 เดือน ซึ่งเรื่องแค่นี้คิดว่าไม่น่ามีปัญหา ที่สำคัญการที่จะมาสมัครพรรคการเมืองใหม่ต้องไม่เป็นสมาชิกพรรคการเมืองอื่นใด การสมัครก็งายๆ หากมีสมาชิกสาขาจังหวัดใดในเขตเลือกตั้งเดียวกันไม่น้อยกว่า 50 คน มายื่นสมัครเมื่อนายทะเบียนรับรอง ก็ตั้งสาขาพรรคได้เลย
นอกจากนี้ที่ประชุมยังมติแต่งตังนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เป็นหัวหน้าคณะทำงานด้านนโยบาย ตรงนี้เหมือนกับการเชิญนักวิชาการมาร่วมเพิ่มเติมต่อยอดเพื่อให้นโยบายเป็นไปอย่างมีเหตุผลว่าสามารถประสบความสำเร็จได้ เชื่อว่าไม่น่าจะเกินวันที่ 25 สิงหาคมนี้ หลังจากนั้นจะเปิดประชุมใหญ่สามัญครั้งที่ 1 เพื่อเลือกกรรมการบริหารพรรค หัวหน้าพรรค และทบทวนข้อบังคับพรรค
ด้านนายสุริยะใสกล่าวว่า วันนี้มีการประชุมการบริหารพรรค เพื่อมอบหมายและตั้งคณะทำงาน โดยมีตนเป็นหัวหน้าคณะทำงาน ทำหน้าที่ทบทวนปรับปรุงข้อบังคับให้เอื้อต่อความเป็นพรรคของมวลชนที่แท้จริง และมีมติตั้งสาขาพรรคในภาคกลางจำนวน 4 จุดได้แก่ กรุงเทพฯ ซึ่งก็ได้ใช้บ้านนายสมศักดิ์ เป็นที่ทำการชั่วคราวก่อน นอกจากนั้นยังมีสาขาที่ชลบุรี จันทบุรี และเพชรบุรี ส่วนภาคเหนือมี 4 จังหวัดได้แก่ นครสวรรค์ พิษณุโลก กำแพงเพชร และเชียงใหม่ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีที่จังหวัดนครราชสีมา ขอนแก่น ส่วนภาคใต้มีที่จังหวัดสงขลา สุราษฏร์ธานี ภูเก็ต และนครศรีธรรมราช รวมทั้งหมดมีสาขาใน 13 จังหวัด
สำหรับการสมัครสมาชิกพรรคนั้นในขั้นตอนแรกเฉพาะต่างจังหวัดเราจะใช้เวลาไม่น่าจะเกิน 2 สัปดาห์ หลังจากนั้นประมาณปลายๆ เดือนกรกฎาคมก็จะทำการจดแจ้งที่ทำการสาขาพรรคทั้ง 4 ภาคก่อน แล้วแกนนำพรรคซึ่งอาจจะรวมถึงแกนนำพันธมิตรฯ ด้วยจะไปรับใบสมัคร และพบปะพี่น้องด้วยตนเอง พร้อมกับเปิดสาขาพรรคไปพร้อมๆ กัน สิ่งที่ต้องใช้ในการสมัครสมาชิก ก็มีรูปถ่าย 1.5 หรือ 2 นิ้วก็ได้ 1 รูป สำเนาบัตรประชาชนและทะเบียนบ้านอย่างละ 2 ชุด
“ถ้าอยากให้เร็ว ก็สามารถนำใบสมัครไปซีร็อกซ์ แล้วกรอกรายระเอียดไว้ เมื่อแกนนำไปถึงพื้นที่ใดก็ให้ไปยื่นใบสมัครได้ ส่วนใบสมัครสามารถไปดาวโหลดได้จากเว็บไซต์ www.newpoliticsparty.net ซึ่งจะเป็นศูนย์กลางในการรวบรวมข้อมูลข่าวสารของพรรคการเมืองใหม่” นายสุริยะใส กล่าว
นายสุริยะใส กล่าวต่อว่า เสียงสะท้อนจากพี่น้องพันธมิตรฯ ในเรื่องหัวหน้าพรรค นโยบาย การเตรียมการเลือกตั้ง ก้าวข้ามเกินการตั้งหรือไม่ตั้งพรรคไปแล้ว ส่วนพันธมิตรฯ ที่เห็นต่างในเรื่องการตั้งพรรคนั้นคิดว่ามีน้อยมาก จากความสัมพันธ์ที่เคยร่วมอุดมการณ์ต่อสู้ด้วยกันมาคิดว่ามีน้อยมากที่คัดค้านจนหันหลังให้กัน บางคนอาจจะไม่เห็นด้วยแต่ท้ายที่สุดก็ยังสนับสนุน โดยเฉพาะในต่างจังหวัดนั้นไปไกลมาก บางจังหวัดเสนอนโยบายเรื่องกระจายอำนาจแล้ว ถึงขั้นจะเสนอให้เลือกตั้งผู้ว่าฯ โดยตรง
นอกจากนี้ นายสุริยะใส ยังระบุว่า สัปดาห์ที่ผ่านมามีอดีต ส.ว.ไม่ต่ำกว่า 5 คน มาเสนอตัวอยากเข้ามาทำงานร่วมกับพรรคการเมืองใหม่ อย่างไรก็ดีตนได้อธิบายไปว่า นโยบายของพรรคการเมืองใหม่ไม่เหมือนใคร ตามหลักการของพรรคต้องถามประชาชนในพื้นที่ว่าต้องการใครลงสมัคร ซึ่งตนไม่มีสิทธิ์จะไปรับใครได้โดยตรง
นายสุริยะใส กล่าวต่อว่า การเมืองใหม่ไม่เอาระบอบทักษิณ ซึ่งระบอบทักษิณไม่เหมาะสมกับสังคมไทย เป็นระบอบที่บูชาทุนนิยมสุดขั้ว มองประชาชนเป็นพวกมีสิทธิ์ออกเสียงเลือกตั้งที่ว่านอนสอนง่าย ดังนั้นระบอบทักษิณจึงเป็นศัตรูของการเมืองแบบใหม่ ซึ่งการเมืองแบบใหม่พยายามที่จะไปให้ไกลและก้าวข้ามระบอบทักษิณ แต่ยังมีผู้คนจำนวนหนึ่งพยายามเอาระบอบทักษิณไว้ ดึงสังคมให้จมอยู่กับทักษิณ เช่นการการเข้าชื่อถวายฎีกาเพื่อขอพระราชทานอภัยโทษให้ทักษิณ มันเป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสมก็ยังทำกันอยู่ ตรงนี้เหมือนกับต้องการให้ประเทศจมอยู่กับความแตกแยก อย่างไรก็ดีพรรคการเมืองใหม่ก็ไม่ได้เพิกเฉยต่อเรื่องนี้ หากพฤติกรรมของคนกลุ่มนี้ ยังท้าทายกฎหมายบ้านเมืองอยู่ พรรคการเมืองใหม่หรือพันธมิตรฯซึ่งต้องไปคู่กัน ก็คงต้องเคลื่อนไหว
