“โฆษกส่วนตัวนายกฯ” ซัด “สมุนแม้ว” อย่าสร้างเงื่อนไขใหม่ หลังมุกแป้กมาหลายที จงใจงัดของสูงมาเล่น หวังดึงฟ้าต่ำ ปั่นหัวประชาชนโดยวางเป้าหมายให้สิ้นชาติ ท้าหัวแถวเพื่อไทยอย่าทำตัวเป็นอีแอบตีสองหน้า-ปัดขี้ออกจากตัวเหมือนเหตุการณ์สงกรานต์เลือด
วันนี้ (30 มิ.ย.) นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แถลงถึงกรณีที่กลุ่ม นปช.เคลื่อนไหวล่ารายชื่อเพื่อทูลเกล้าฯ ขอพระราชทานอภัยโทษแก่ พ.ต.ท.ทักษิณ ถือว่าเป็นการเปิดประเด็นใหม่ทางการเมืองขึ้นมาหลังจากข้อเรียกร้อง 4 ข้อคือ 1.เมื่อเหตุการณ์สงกรานต์เลือดที่เรียกร้องให้ปลดนายกษิต ภิรมย์ ออกจาก รมว.ต่างประเทศ 2.ให้ดำเนินคดีกับคนเสื้อเหลือง 3.ให้มีการประกาศใช้รัฐธรรมนูญปี 40 และ 4 .หลังจากประกาศใช้รัฐธรรมนูญปี 40 แล้วให้ยุบสภาเพื่อเลือกตั้งใหม่ ข้อเสนอดังกล่าวนี้ได้ถูกปฏิเสธจากสังคมด้วยเหตุการณ์นองเลือดจลาจล เผาบ้านเผาเมืองของกลุ่มคนเสื้อแดงไปแล้ว หลังจากนั้นก็มายื่นข้อเสนอใหม่
เพื่อทวงคืนประชาธิปไตย และเปลี่ยนแปลงวันชาติ จากวันที่ 5 ธ.ค.มาเป็นวันที่ 24 มิ.ย. ที่สุดก็ถูกคัดค้านจากสังคม จนมาถึงวันนัดชุมนุมวันที่27 มิ.ย.ที่ผ่านมา แกนนำ นปช.ก็เสนอประเด็นเคลื่อนใหม่ คือ สืบสานเจตนาคณะราชโค่นล้มรัฐบาลอำมาตย์ ทวงคืนประชาธิปไตยและยุบสภา แต่เนื้อหาการเคลื่อนไหวทั้งหมดไม่ได้ไปสนองตอบข้อเรียกร้องที่ขึ้นป้ายหลังเวทีแต่อย่างใด แต่กลับเปลี่ยนแปลงข้อเรียกร้องใหม่ โดยขอฉันทามติจากที่ชุมนุมในลักษณะแบบมัดมือชก เพราะประเด็นเรียกร้องในอดีตปลุกไม่ขึ้น จุดกระแสไม่ติด จึงเปลี่ยนมุขในการเคลื่อนไหวนำเรื่องการล่ารายชื่อขอทูลเกล้าฯ พระราชทานอภัยโทษแกพ.ต.ท.ทักษิณ ถือว่าเป็นการดึงสถาบันเบื้องสูงลงมาเกี่ยวข้องกับการเมือง และโทษของ พ.ต.ท.ทักษิณก็เป็นคดีของนักโทษการเมืองก็ไม่ควรที่จะสร้างกระแสเรื่องนี้ให้เป็นความแตกแยกในหมู่ประชาชน
“จึงอยากจะขอเตือนแกนนำ นปช.ให้ใช้ความคิดให้จงหนัก โดยยึดถือคำกล่าวของคนโบราณว่า “อย่าดึงฟ้าต่ำ อย่าทำหินแตก อย่าแบ่งแยกประชาชน ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าวอาจจะก่อให้เกิดกลียุคในเมืองได้ ถ้าคนในชาติขัดแย้งกันเอง โดยไม่มีที่สิ้นสุดสักวันหนึ่งเราก็ไม่มีชาติไทยในแผนที่โลก” นายเทพไท ระบุ
นายเทพไทได้เรียกร้องให้พรรคเพื่อไทยแสดงจุดยืนที่ชัดเจนได้ร่วมรับผิดชอบกับพฤติกรรมของ ส.ส.พรรคเพื่อไทย และกลุ่มคนเสื้อแดงในการกระทำครั้งนี้ด้วย การที่หัวหน้าพรรคเพื่อไทยออกมาปฏิเสธความรับผิดชอบ ว่าที่มี ส.ส.พรรคเพื่อไทยออกมาเคลื่อนไหวในครั้งนี้เป็นการเคลื่อนไหวในฐานะส่วนตัวนั้นเห็นว่าเป็นการตีสองหน้าทางการเมือง ซึ่งพรรคเพื่อไทยเองก็เคยกล่าวหานายกฯว่าตีสองหน้ามาหลายครั้งแล้ว แต่วันนี้ตัวเองกลับมาเล่นการเมืองแบบตีสองหน้า เหมือนในลักษณะโยนหินถามทาง หยั่งกระแสประชาชนว่าคิดอย่างไรกับเรื่องการพระราชทานขออภัยโทษ จึงอยากให้พรรคเพื่อไทยแสดงจุดยืนที่ชัดเจน เพราะพ.ต.ท.ทักษิณ ก็เคยประกาศตลอดเวลาว่า พรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน พรรคเพื่อไทย และกลุ่มคนเสื้อแดงเป็นพวกเดียวกัน หากความผิดพลาดใดๆ เกิดขึ้นจากการกระทำของกลุ่มเหล่านี้ก็ไม่ควรที่จะมาปัดความรับผิดชอบเหมือนกับกรณีเหตุการณ์วันที่ 13 เม.ย.ที่มีการเผาบ้านเผาเมืองก่อการจลาจลจนชาติบ้านเมืองเสียหายมาแล้ว
ผู้สื่อข่าวถามมองหรือไม่ว่า การยื่นถวายฏีกาเพราะมีเจตนาต้องการให้เกิดความขัดแข้งในหมู่ประชาชน นายเทพไทกล่าวว่า เรื่องนี้ทำให้คนสงสัยว่ามีวาระซ่อนเร้นอะไรหรือไม่ เพราะการหยิบยกเรื่องการพระราชทานอภัยโทษโดยการล่ารายชื่อไม่เคยมีมาก่อนในอดีต และคนในกลุ่มเสื้อแดงก็น่าจะรู้เรื่องดี เพราะนายวีระและนายสุรชัย แซ่ด่าน เองก็เคยได้รับพระราชทานอภัยโทษมาก่อน ประกอบกับแกนนำ นปช.หลายคนก็มีความรู้ทางกฎหมาย บางคนเป็นถึงอดีตอธิบดีศาลอาญา และผู้พิพากษาศาลฏีกามาก่อน ก็น่าจะรู้ว่าเรื่องดังกล่าวเป็นไปได้หรือไม่ เป็นการเปิดประเด็นนี้ขึ้นมาเพื่อต้องการจะใช้การเคลื่อนไหวมวลชนอีกรูปแบบหนึ่ง โดยการล่ารายชื่อเพื่อให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการเคลื่อนไหว และย่อมจะถูกขัดขวางจากประชาชนที่มีความจงรักภักดีต่อสถาบันเบื้องสูงอย่างแน่นอน