xs
xsm
sm
md
lg

หยุดถวายฎีกา หยุดก้าวล่วงพระราชอำนาจ !!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

วีระ มุสิกพงศ์ แกนนำเสื้อแดง
หากสังเกตให้ดีจะเห็นว่า ทักษิณ ชินวัตร นักโทษที่หลบหนีคดีคอรัปชั่นและเครือข่ายกำลังเคลื่อนไหวเพื่อสร้างแรงกดดันให้เกิดขึ้นในบ้านเมืองอีกรอบ โดยทุกอย่างได้ดำเนินการอย่างเป็นขั้นเป็นตอน

ที่สำคัญก็คือ ทักษิณ ชินวัตร มีส่วนออกแรงอย่างสำคัญ !!

เริ่มตั้งแต่การโฟนอินที่หวนกลับมาหลายพื้นที่ เริ่มมาจากภาคเหนือและภาคอีสานในงานชุมนุมของกลุ่ม “คนเสื้อแดง” หลายครั้ง ต่อเนื่องไปจนกระทั่งการหาเสียงเลือกตั้งซ่อมทั้งที่จังหวัดสกลนคร และที่จังหวัดศรีสะเกษ

จนกระทั่งล่าสุดมีการโฟนอินเข้ามาระหว่างการชุมนุมใหญ่ที่ท้องสนามหลวงเมื่อวันเสาร์ที่ 27 มิถุนายนที่ผ่านมา

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวของ ทักษิณ ชินวัตร ส่วนหนึ่งอาจต้องการหวังผลทางการเมือง เพื่อออดอ้อนเรียกคะแนนเสียงให้พรรคของตัวเองคือพรรคเพื่อไทยชนะเลือกตั้งซ่อมก็เป็นได้

แต่บังเอิญว่าในระหว่างการโฟนอินเข้ามากลางวงชุมนุมของคนเสื้อแดงที่ท้องสนามหลวงเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาได้มีการพูดถึงแนวทางการล่าชื่อของผู้สนับสนุนนับล้านคนเพื่อถวายฎีกา “ขอพระราชทานอภัยโทษ” ให้กับ ทักษิณ ชินวัตร

ทั้งที่ในความเป็นจริงมันผิดขั้นตอน และเป็นไปไม่ได้ และที่สำคัญที่สุดก็คือมัน “ไม่บังควร” อย่างยิ่งหากมีการกระทำเช่นนั้น

ขณะเดียวกันหากปะติดปะต่อเชื่อมโยงต่อเนื่องเข้ามาอีกก็คือในช่วงเวลาใกล้เคียงกันนั้นยังข่าวแพร่สะพัดออกมาเปิดโปงในเรื่องของ “แผนตากสิน 2 ” ที่มีเป้าหมายเพื่อสร้างความปั่นป่วนให้กับบ้านเมืองด้วยวิธี เถื่อน ดิบ ถ่อย แม้ว่าจะมีการปฏิเสธอย่างแข็งขันจากแกนนำเสื้อแดงก็ตาม

แต่ช่วงจังหวะเวลาในการเคลื่อนไหวสอดคล้องกันพอดี

สำหรับความเคลื่อนไหวในการรวบรวมรายชื่อประชาชนที่สนับสนุนให้ได้มากกว่า 1 ล้านคน ถวายฎีกาเพื่อขอพระราชทานอภัยโทษ แม้ว่าส่วนหนึ่งจะพยายามสื่อออกมาให้เห็นว่ายังไม่ได้เป็นข้อสรุปตรงกันว่าจะดำเนินการหรือไม่ เป็นเพียงข้อเสนอในลักษณะปัจจุบันทันด่วนของ “ลิ่วล้อ” อย่าง วีระ มุสิกพงศ์ ก็ตาม

หรือแม้ว่าจะมีท่าทีคัดค้านแนวทางการถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษของ สุรชัย แซ่ด่าน (ด่านวัฒนานุสรณ์ นามสกุลพระราชทานหลังจากได้รับพระราชทานอภัยโทษคดีคอมมิวนิสต์) โดยระบุว่าหาก ทักษิณ ยืนยันว่าไม่ได้กระทำผิด แล้วจะไปขอพระราชทานอภัยโทษทำไม

อย่างไรก็ดีไม่ว่าในที่สุดแล้วแนวทางที่ วีระ เสนอบนเวทีชุมนุมท้องสนามหลวงของคนเสื้อแดงยังเดินหน้าต่อหรือไม่ก็ตาม แต่หากย้อนกลับไปพิจารณาในอดีตก็มีความพยายามในทำนองเดียวกันมาแล้วหลายครั้ง ต่างกรรมต่างวาระ ซึ่งที่ผ่านมาเป็นท่าทีที่แสดงออกอย่างชัดเจนของ ทักษิณ ที่พุดกับคนเสื้อแดงโดยตรงหรือการให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อต่างประเทศ

ที่เห็นได้ชัดก็คือการโฟนอินผ่านรายการความจริงวันนี้สัญจรของคนเสื้อแดงที่สนามราชมังคลาสถาน เมื่อค่ำวันที่ 1 พฤศจิกายน 2551 ก็แสดงออกชัดเจนว่าต้องการ “พึ่งพระบารมี” ในการเดินทางกลับประเทศ จากนั้นก็มีการตั้งโต๊ะล่ารายชื่อถวายฎีกา แต่เรื่องก็เงียบไป

และทุกครั้งก็มักจะเกิดวิจารณ์อย่างรุนแรงว่า เป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม และไม่บังควรอย่างยิ่ง เนื่องจากตามขั้นตอนหากมีการขอพระราชทานอภัยโทษย่อมต้องเป็นกรณีที่มีการจับกุมคุมขังอยู่ในคุก และรวมไปถึงนักโทษคนนั้นต้องมีความสำนึกผิด แต่ทุกอย่างกลับตรงกันข้าม รวมทั้งการขอพระราชทานอภัยโทษหากไม่ใช่มาจากเจ้าตัวเองแล้วก็ต้องเกิดจาก พ่อ แม่ ลูก เมียของนักโทษเด็ดขาดคนนั้นเท่านั้น

ซึ่งตามขั้นตอนและวิธีการดังกล่าวทุกฝ่ายรู้กันดี เพราะมีระเบียบปฏิบัติกำหนดเอาไว้ชัดเจน และมีตัวอย่างให้เห็นมาเป็นระยะในช่วงที่มีพระราชพิธีมหามงคลทุกปี

เมื่อพิจารณาในความเป็นจริง หากดำเนินการตามแนวทางล่ารายชื่อเพื่อถวายฎีกาฯ ก็ทราบอยู่แล้วว่าเป็นไปไม่ได้ อีกทั้งคนที่เห็นดีเห็นงามกับวิธีการดังกล่าวอย่าง วีระ มุสิกพงศ์ ที่เคยได้รับพระราชทานอภัยโทษในคดีหมิ่นพระบรมนุภาพมาแล้วย่อมรู้ดี แต่หากยังมีความเคลื่อนไหวดำเนินการ ก็ถือว่ามีเจตนา “ซ่อนเร้น”

หรือไม่เช่นนั้นต้องการล่ารายชื่อจำนวนมากเพื่อมากดดัน ก้าวล่วงในพระราชวินิจฉัย ซึ่งถือว่าที่ผ่านมาไม่เคยมีใครทำแบบนี้มาก่อน เพราะเป็นเรื่องไม่บังควรอย่างยิ่ง

ดังนั้นต้องหยุดล่ารายชื่อถวายฎีกาเพื่อขอพระราชทานอภัยโทษในทันที !!
กำลังโหลดความคิดเห็น