“เทพไท” หนุน กกต.สอบ “ทักษิณ” ทำตัวเป็นอีแอบโฟนอินช่วยลูกสมุนเลือกตั้งซ่อมอยู่ต่างแดน หวั่นสบช่อง “เพื่อแม้ว” ใช้หาเสียงสนามใหญ่ สวนกลับ “เป็ดเหลิม” ความถูกต้องคนละเรื่องกับชัยชนะ เชื่อ “วีระ” สมรู้ร่วมคิด “แม้ว” หาเหตุขออภัยโทษภายหลังกลับอ้างเป็นความต้องการของประชาชน
วันนี้ (30 มิ.ย.) นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทย ประกาศชัยชนะเลือกตั้งซ่อมที่ จ.ศรีสะเกษ และ จ.สกลนคร เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โฟนอิน ว่า มีการตั้งข้อสังเกตว่า การที่ พ.ต.ท.ทักษิณโฟนอินนั้น ผิดกฎหมายหรือไม่ ซึ่งคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ก็จะมีการหยิบยกประเด็นดังกล่าวขึ้นมาพิจารณานั้น ตนขอสนับสนุนการหยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมาพิจารณา เพราะต้องการให้ กกต.สร้างบรรทัดฐานเรื่องโฟนอินของนักการเมืองที่ถูกตัดสิทธิ์จากคดียุบพรรคว่าสามารถที่จะมีส่วนร่วมในการหาเสียงกับนักการเมืองอื่นได้หรือไม่ รวมถึงพฤติกรรมการโฟนอินของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่เกิดขึ้นซ้ำซาก และเชื่อว่า ในอนาคตถ้าเรื่องการโฟนอินยังไม่มีข้อยุติว่ากระทำผิดกฎหมายเลือกตั้งหรือไม่ พรรคเพื่อไทยก็คงจะใช้ลูกเล่นในลักษณะเช่นนี้ให้พ.ต.ท.ทักษิณ โฟนอินไปในเวทีหาเสียงการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้
นายเทพไท กล่าวว่า ส่วนที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย ออกมาให้สัมภาษณ์เชิงข่มขู่ กกต.ว่า ไม่ควรหยิบเรื่องดังกล่าวขึ้นมาพิจารณา เพราะพรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้งซ่อมด้วยคะแนนทิ้งห่างนั้น ตนเห็นว่า เรื่องดังกล่าวเป็นคนละประเด็น เพราะความถูกต้องกับชัยชนะเป็นคนละเรื่องกัน อย่างไรก็ตาม กกต.ควรหยิบเรื่องนี้มาพิจารณาว่าการเลือกตั้งครั้งนี้มีการกระทำใดๆ ผิดกฎหมายเลือกตั้งหรือไม่ ถ้าพบความผิดถึงขั้นจะต้องให้ใบเหลืองหรือใบแดง กกต.ก็ควรมีมาตรฐานในการกระทำผิด จะเอาเรื่องการกระทำผิด หรือทุจริตการเลือกตั้งมาพิจารณารวมกับผลการเลือกตั้งไม่ได้ การจะอ้างว่าเมื่อผลการเลือกตั้งมีการชนะทิ้งห่างคู่ต่อสู้แล้ว ถ้าจะมีการเลือกตั้งใหม่อาจจะสิ้นเปลืองงบประมาณเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง เพราะในระบอบประชาธิปไตย ถ้าต้องการให้บริสุทธิ์ยุติธรรมหากมีความจำเป็นที่จะต้องมีการใช้เงินเพิ่มขึ้นก็ควรจะเป็นเรื่องที่จะต้องลงทุน แม้ว่าจะเพิ่มงบประมาณขึ้นมาอีกก็ตามถือว่าเป็นการลงทุนในระบอบประชาธิปไตยที่คุ้มค่า จึงอยากให้ กกต.วินิจฉัยอย่างตรงไปตรงมาเพื่อให้เป็นบรรทัดฐานในการเลือกตั้งครั้งต่อไป
ส่วนที่ พ.ต.ท.ทักษิณ บอกว่า การล่ารายชื่อประชาชน เป็นเรื่องความต้องการของประชาชนจะไปห้ามไม่ได้ นายเทพไท กล่าวว่า อยากถามว่า เรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องความต้องการของประชาชนจริงหรือไม่ เพราะคนที่จุดประเด็นเรื่องนี้บนเวที ก็เป็นคนเชียร์แขก อย่าง นายวีระ มุสิกพงศ์ ที่ขอความเห็นชอบจาก พ.ต.ท.ทักษิณ หากไม่ใช่ความต้องการของ พ.ต.ท.ทักษิณ แล้วทำไมไม่ตอบปฏิเสธไป แต่กลับพูดคำว่า สุดแท้แต่พระมหากรุณาธิคุณ นั่นหมายความว่าอย่างไร อยากตั้งข้อสังเกตว่า ประเด็นดังกล่าวที่ นายวีระ หยิบยกขึ้นมาถามอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยนั้น เป็นเพราะ นายวีระ กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้เตี๊ยมคำถาม คำตอบมาก่อนใช่หรือไม่ เมื่อสังคมจับได้ไล่ทันก็ออกมาปฏิเสธ โบ้ยว่าเป็นความต้องการของประชาชน แสดงให้เห็นว่า เป็นการแสดงละครน้ำเน่าสบตาประชาชนต่างหาก จึงขอเรียกร้องว่า พ.ต.ท.ทักษิณ อย่าเอาประชาชนเป็นข้ออ้างหรือมาเป็นเกราะป้องกันตัวเอง
