แรงสะเทือนจากสกลฯ “เนวิน-เทือก”ใจเสีย ฝัง“ทักษิณ”ไม่สำเร็จ

ทั้งสะท้าน และใจเสีย

นี่คือ สภาพของเนวิน ชิดชอบ และพรรคภูมิใจไทยในยามนี้

หลังจากพ่ายแพ้อย่างหมดรูปในสนามเลือกตั้งซ่อมจังหวัดสกลนคร เมื่อผู้สมัครที่เนวิน ส่งเข้าประกวดคือนายพิทักษ์ จันทรศรี แพ้ให้กับนางอนุรักษ์ บุญศล จากพรรคเพื่อไทย ภายใต้การอุปถัมภ์จากทักษิณ ชินวัตร หลายหมื่นคะแนน

ทั้งที่ เนวิน ทุ่มทุนสร้าง กำกับศึกเลือกตั้งครั้งนี้ หากเปรียบเป็นหนังก็คือระดับ “อภิมหาเอพิค”

เพราะใส่ลงไปหมด ทั้งอำนาจรัฐ-กลยุทธ์หาเสียงทุกรูปแบบ

ถึงขั้นกดปุ่มสั่งการให้ ชวรัตน์ ชาญวีรกูล เสี่ยหมื่นล้านแห่งซิโน-ไทย พรทิวา นาคาสัย รัฐมนตรีคนสวย แห่งกระทรวงพาณิชย์ ลงไปทำนา นอนกระต๊อบ ปั้นข้าวเหนียว เปิบไก่ย่างด้วยมือเปล่าๆ มาแล้วที่ อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร

ทำเรียลลิตี้ “พรรณานิคมโมเดล”เพื่อให้ผู้คนลืม “อาจสามารถโมเดล”ของทักษิณ ชินวัตร
 
ซึ่งใครๆ ก็อ่านออกว่า ทำไมเนวิน-ภูมิใจไทยไม่ไปสัมมนา กำหนดนโยบายพรรคกันที่อื่น จังหวัดอื่น

ทำไมต้องมาที่สกลนครก่อนเลือกตั้งล่วงหน้า 1 สัปดาห์ ก่อนเลือกตั้งจริง 2 สัปดาห์

แม้พรรณานิคมจะไม่ได้อยู่ในเขตพื้นที่เลือกตั้ง แต่เรียลลิตี้ครั้งนั้นเนวินย่อมหวังผลให้คนในพื้นที่เลือกตั้งเห็นว่า ภูมิใจไทยให้ความสำคัญกับสกลนครอย่างยิ่ง อันจะมีผลต่อการลงคะแนนเสียงเลือกตั้งซ่อม

มุกตื้นๆ แบบนี้ ไม่มีใครตามไม่ทันเนวิน

หรือการสั่งแกนนำพรรคอย่างบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ มท.2 ที่รับบทผอ.เลือกตั้งลากิจหลายวันเพื่อลงไปฝังตัวในพื้นที่เลือกตั้ง และการที่แกนนำพรรค ทั้งรัฐมนตรี ส.ส.ลงไปช่วยหาเสียงกันอย่างเต็มที่ รวมถึงอธิบดีและข้าราชการระดับสูงของมหาดไทยหลายคนพร้อมใจกันไปตรวจราชการที่สกลนครเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา

เรียกได้ว่าเนวิน ขนมาหมดทั้งทัพหน้า และทัพหลวง เพราะเดิมพันนี้สูงยิ่ง หากภูมิใจไทยชนะการเลือกตั้ง ในสนามแรกหลังการตั้งพรรค เมื่อนั้น ถนนทุกสายต้องมุ่งสู่ที่ทำการพรรคภูมิใจไทยแบบที่เนวินไม่ต้องออกแรงมากนัก

ทว่า เมื่อฝันล้มลงครืน แผนการที่วางไว้แพ้ให้กับการทำการบ้านอย่างหนักของทักษิณ ที่สั่งให้ส.ส.-หัวคะแนนไปเอาเบอร์โทรศัพท์มือถือของกำนันผู้ใหญ่บ้าน-สมาชิก อบต.ในเขตเลือกตั้งมาแล้วโทรศัพท์สายตรงเข้ามือถือ รวมถึงโทรฯผ่านทีมหาเสียงแล้วขอคุยกับกำนันผู้ใหญ่บ้าน ทักษิณคุยโทรศัพท์ขอให้ช่วยหนุนผู้สมัครเพื่อไทย และยกประเด็นโดนใจมาอ้อน

ขอแรงแก้แค้นคนเนรคุณ

เจอมุกนี้เข้า ขนาดอดีตนายกรัฐมนตรีโทรมาขอให้ช่วย ใครบ้างจะไม่เคลิ้ม?

รวมกับอีกหลายกลยุทธ์ อาทิส่งน้องชาย น้องสาว ลูกชาย ทั้ง “เยาวเรศ-เยาวภา-พายัพ-พานทองแท้”ลงไปช่วยหาเสียง เพื่อทำให้คนรู้สึกว่าทักษิณให้ความสำคัญกับพื้นที่เลือกตั้ง หรือการส่งอดีตกรรมการบริหารพรรค ทรท.-พปช. และแกนนำเสื้อแดงไปเปิดเวทีปราศรัยย่อย ตรึงทุกพื้นที่ แล้วให้ทักษิณโฟนอินเข้าไป ผสมด้วยการส่งพลเอกพัลลภ ปิ่นมณี ผู้เชี่ยวชาญการศึกใต้ดิน เพื่อรับมือกับเนวิน ลงพื้นที่ในช่วงโค้งสุดท้าย

แค่นี้ เนวิน ก็เดี้ยงแล้ว

ผลเลือกตั้ง จึงทำให้เห็นว่า เนวินวันนี้ ไม่สามารถพิสูจน์ให้คนเห็นว่า เขาเอาชนะทักษิณในพื้นที่ภาคอีสานได้ ก้าวแรกของภูมิใจไทยจึงไม่มีเซอร์ไพรส์ใหญ่อย่างที่แกนนำหลายคนเคยโอ้อวด

และอาการ “สะท้อน และใจเสีย”ใช่เพียงจะเกิดขึ้นกับคนของ ภท. แต่มันยังมีผลสะเทือนรุนแรงไปถึงคนของ 2 พรรคใหญ่

ประชาธิปัตย์ และ เพื่อไทย

เริ่มจากประชาธิปัตย์ก่อน แน่นอนว่า แกนนำรัฐบาลอย่างนายกรัฐมนตรี อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และ สุเทพ เทือกสุบรรณ ต้องทำเป็นไม่สนใจกับผลการเลือกตั้งแค่จังหวัดเดียว แต่ลึกๆ ความมั่นใจทางการเมืองที่ “มาร์ค-เทือก”เคยมีให้กับเนวินและ ภท..ว่า จะเป็นพรรคการเมืองที่ไปตัดจำนวนส.ส.เพื่อไทยในภาคอีสาน เพื่อให้แผนการจับมือจัดตั้งรัฐบาลกันหลังเลือกตั้ง ของสุเทพ-เนวิน เกิดขึ้นสำเร็จเป็นครั้งที่ 2

แต่วันนี้ อภิสิทธิ์-สุเทพ ต้องคิดหนักและคิดหลายชั้นมากกว่าเดิมเสียแล้ว โดยเฉพาะยุทธศาสตร์การเลือกตั้ง เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นที่สกลนคร น่าจะทำให้อภิสิทธิ์-สุเทพ ฉุกคิดได้บ้างว่า

หากคิดแต่จะยืมจมูกเนวินหายใจอยู่อย่างนี้ แล้วไม่คิดจะแก้ปัญหาจุดอ่อนของตัวเอง ในการทำพื้นที่และสร้างความนิยมในภาคอีสาน หลังเลือกตั้งครั้งหน้าคงได้ย้ายไปอยู่ซีกฝ่ายค้านเหมือนเดิม

ส่วนซีกเพื่อไทยก็มี ส.ส.หลายคนที่อยู่ในอาการ “ใจเสีย” เช่นกัน เพราะรู้กันดีว่ามี ส.ส.อีสานที่ล่าสุดเช็กกันไปมาหลายรอบ ตัวเลขที่ตกปากรับคำกันไว้ระดับ 15 คนขึ้นไปว่ายุบสภาเมื่อไหร่ เลือกตั้งตอนไหน

ถอดเสื้อเพื่อไทย สีแดง ใส่เสื้อน้ำเงินของภูมิใจไทย ทันที

แต่วันนี้จะมาเสียงแข็งบอก “ใจไม่ฝ่อ”ให้อมพระมาพูด ก็เชื่อไม่ได้

ก็จะไม่ฝ่อได้อย่างไร ภท.ขนาดได้เปรียบทุกประตู ใช้อำนาจรัฐทุกรูปแบบ ท่อน้ำเลี้ยงก็ดีกว่า ไม่เหมือนกับเพื่อไทยที่หลายเดือนที่ผ่านมาเป็นฝายค้านแบบเงียบๆ เหงาๆ หัวหน้าพรรคตัวจริงก็อยู่ในสภาพโคม่าทำอะไรไม่ได้ สกลนครก็ไม่เคยไปเหยียบมาหลายปี ทำได้แค่โฟนอินปลุกเร้าให้กำลังใจ ยังเอาชนะม้วนเดียวจบได้แบบนี้

ครั้นจะทำยึกยัก ชักเข้าชักออก ก็ไม่เข้าท่า เพราะพฤติกรรมที่ผ่านมา ที่ไปปันใจให้เสื้อน้ำเงิน

อย่าว่าแต่ “เยาวเรศ-เยาวภา-พายัพ-ยิ่งลักษณ์”ที่รู้

ทักษิณแม้อยู่แดนไกลถึงสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ก็ยังรู้ว่า ใครในเพื่อไทยที่เป็น “นกสองหัว”
 
วันนี้ เหล่านกสองหัวที่อยู่ในโซนอีสาน หากคิดจะเปลี่ยนใจ เชื่อได้ว่ายังอาจจะทัน แต่คงต้องทำเนียนๆ กลบเกลื่อนกันไปก่อน แล้วถึงเวลาต้องตัดสินใจค่อย เสี่ยงเป็นเสี่ยงกันอีกรอบว่า

จะใส่เสื้อแดง หรือน้ำเงิน

ขณะเดียวกัน ผลทางจิตวิทยาที่เกิดขึ้นกับเพื่อไทย ก็น่าจับตาไปที่การเลือก “หัวหน้าพรรค” ที่ชัยชนะสกลนคร อาจทำให้คนที่ทักษิณเลือก และต้องการ แต่เจ้าตัวกลับทำลีลา เพราะไม่มั่นใจเกรงจะเปลืองตัว อาจต้องคิดใหม่และตัดสินใจใหม่

พวกสมชาย เพศประเสริฐ และ วิทยา บูรณศิริ หรือแม้แต่ มนูญกฤต รูปขจร ไม่อยู่ในสายตาทักษิณแน่นอน

เพราะยามนี้ ทักษิณเชื่อว่า “เหนือ-อีสาน”แค่เสกมนต์ผ่านโฟนอิน ทำซีดี ปฏิทิน แจกเสื้อยืด

“รัก และคิดถึง”

พี่น้องชาวเหนือบ้านเฮา ชาวอีสานที่รัก ก็น่าจะกวาดเก้าอี้ได้เกินร้อยที่นั่ง

แต่ที่ทักษิณหวั่นใจ ก็คือกลุ่มเลือกตั้งพวกชนชั้นกลาง คนในหัวเมืองต่างๆ ที่ต่อต้านเสื้อแดงและระบอบทักษิณ

สเปกหัวหน้าพรรคเพื่อไทยของทักษิณ จึงต้องมีจุดขายเฉพาะตัวเช่น มีภาพลักษณ์นักบริหาร เชี่ยวชาญเศรษฐกิจ แต่คนที่ต้องการก็ไม่พร้อมจะเป็นทั้ง โอฬาร ไชยประวัติ หรือ มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์

หรือไม่ก็ระดับฮาร์ดคอร์แบบเฉลิม อยู่บำรุงไปเลย แต่เฉลิมกลับมีเงื่อนไขคือขอเป็นนายกรัฐมนตรี แต่ไม่ขอเป็นหัวหน้าพรรค เพราะกลัวโดนยุบพรรค แต่หากแก้ รธน.มาตรานี้ได้ เชื่อได้เลยว่า เฉลิมรับเก้าอี้หน.เพื่อไทยร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ชัยชนะที่สกลนคร ย่อมทำให้คนที่ลังเล อาจตัดสินใจง่ายขึ้น เพราะหากยังออกลีลามาก เก้าอี้รมต.หากได้เป็นรัฐบาลก็ยังอาจวืด

เห็นหรือยัง สกลนครเอฟเฟกต์ ครั้งนี้ สั่นสะเทือนทั้งผู้ชนะ-เพื่อไทย,ฝ่ายพ่ายแพ้ ภูมิใจไทย รวมถึง กองเชียร์ ประชาธิปัตย์ ล้วนได้รับกันถ้วนหน้า