รองนายก ฯสุเทพ ไม่หวั่น กกต.วินิจฉัยสิ้นสภาพ ส.ส.ถือหุ้นบริษัทคู่สัมปทานรัฐ แจงมีหุ้นแค่เล็กน้อยแถมราคาตก เก็บไว้ไม่คิดอะไร จนขายไปหมดแล้ว ลั่นพร้อมยอมรับคำตัดสิน ชี้กฎหมายต้องเป็นกฎหมาย ปัดตอบมีผลต่อจำนวน ส.ส.พรรค
วันนี้ (20 มิ.ย.) ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง กล่าวถึงกรณีที่ กกต. ตรวจสอบการถือครองหุ้นบริษัทคู่สัมปทานของรัฐ ซึ่งอาจถูกวินิจฉัยให้สิ้นสมาชิกภาพ ส.ส.ว่า เมื่อกกต.วินิจฉัยว่าอย่างไรให้ดูการวินิจฉัยของ กกต. หาก กกต.เห็นว่า ส.ส.ขาดคุณสมบัติจะต้องส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เมื่อถึงเวลานั้นตนจะไปชี้แจงกับศาลว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ตนขอให้สบายใจ และขอย้ำว่ากฎหมายจะต้องเป็นกฏหมาย ถ้าเขาว่าขาดคุณสมบัติตนก็ต้องว่าขาดคุณสมบัติ
เมื่อถามว่า ในส่วนของจำนวน ส.ส.ของพรรคประชาธิปัตย์มีจำนวนจะมีปัญหาหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า ไม่เป็นไร ถ้ากฎหมายว่าไรก็ต้องอย่างนั้น
เมื่อถามว่า หลายฝ่ายมองว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญจะเป็นเรื่องง่ายขึ้น นายสุเทพกล่าวว่า ตนมองเฉพาะเรื่องหุ้นอย่างเดียว หุ้นดังกล่าวตนได้ขายไปนานแล้ว ที่จริงตนซื้อมานานแล้วก่อนที่ตนได้เป็น ส.ส.สองถึงสามสมัย ซึ่งได้ชี้แจงมาแล้ว ที่ซื้อมานั้นตนมีประมาณ 3 พันถึง 5 พันหุ้น และ บังเอิญว่าตั้งแต่ซื้อมาราคาตกเรื่อยเลยเสียดาย เลยเก็บเอาไว้ไม่นึกว่าจะเป็นปัญหาอย่างนี้ เพราะรัฐธรรมนูญออกมาทีหลัง โดยตนไม่ได้ติดใจเลยไม่ได้ขายหุ้นดังกล่าว ถ้าขายไปก่อนเลือกตั้งก็ไม่มีปัญหา แต่เมื่อเห็นว่ามีปัญหาตนได้ขายไป
เมื่อถามว่า เรื่องนี้จะเป็นอุปสรรคต่อการทำงานในตำแหน่งรองนายกฯด้านความมั่นคงหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ตนอยากให้แยกให้ดีว่าเรื่องของ ส.ส.และมีปัญหา ส.ส. ตนจึงได้ขายหุ้นตั้งแต่เป็น ส.ส.ฝ่ายค้านอยู่ เพราะฉะนั้น ตอนที่ตนมาดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีไม่มีหุ้นอะไรเลย อย่างไรก็ตามตนไม่ขอให้ความเห็นในเรื่องที่จะให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เมื่อซักต่อว่า จะส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพรัฐบาลหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า รอดูก่อนดีกว่าไม่