กกต.ระบุหาก “สนธิ” มาเป็น หน.พรรคการเมือง ต้องไปดูคำพิพากษากรณีบุคคลล้มละลายว่าขัดมาตรา 102 (2) หรือไม่ ด้านแหล่งข่าวเผย “สนธิ” ลงสมัคร ส.ส.และนั่งหัวหน้าพรรคได้ ไม่ขัด รธน.เนื่องจากเคยเป็นบุคคลล้มละลาย แต่ไม่ใช่บุคคลล้มละลายทุจริต และได้เป็นบุคคลล้มละลายครบกำหนด 3 ปี ตามที่ศาลสั่งไปนานแล้ว
วันนี้ (25 พ.ค.) นายปกครอง สุนทรสุทธิ์ รองเลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านกิจการพรรคการเมือง กล่าวว่า ขณะนี้พรรคที่ได้มีการจดแจ้งจัดตั้งเป็นพรรคการเมืองกับ กกต.มีทั้งสิ้น 44 พรรค ซึ่งนายทะเบียนพรรคการเมืองได้รับรองการจดแจ้งจัดตั้งพรรคอย่างสมบูรณ์แล้วจำนวน 25 พรรค ซึ่งมีอีก 19 พรรคที่อยู่ระหว่างการดำเนินการให้เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย เช่น การหาสมาชิกพรรคให้ครบ 5 พันคน ภายใน 1 ปี และต้องจัดให้มีสาขาพรรค4 ภาค
เมื่อถามว่าพรรคการเมืองของกลุ่มพันธมิตรฯ ที่คาดว่าจะใช้ชื่อว่า พรรคเทียนแห่งธรรม หรือ พรรคประชาภิวัฒน์ นั้นขณะนี้อยู่ในขั้นตอนใด นายปกครองกล่าวว่า ทั้ง 2 พรรคการเมืองอยู่ระหว่างการดำเนินการหาสมาชิกพรรค และจัดตั้งสาขาพรรคให้ครบ 4 ภาค ตาม พ.ร.บ.พรรคการเมือง มาตรา 26 หากพรรคใดไม่สามารถดำเนินการภายใน1 ปี กฎหมายกำหนดว่าจะเป็นเหตุให้พรรคการเมืองดังกล่าวต้องสิ้นสภาพไป
สำหรับชื่อพรรคการเมืองใหม่นั้นยังไม่มีการยื่นเข้ามา แต่อย่างไรก็ตาม หากใครต้องการยื่นจดแจ้งขอจัดตั้งพรรคการเมืองโดยใช้ชื่อว่าพรรคพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ก็สามารถยื่นเข้ามาได้ในขณะนี้ เพราะนายทะเบียนยังไม่ได้ตอบรับ
เมื่อถามว่า หากพันธมิตรฯ จะซื้อหัวพรรคการเมืองที่ กกต.รับจดแจ้งไว้แล้ว เพื่อง่ายต่อการดำเนินการทางการเมือง นายปกครองกล่าวว่า ใครจะไปอยู่เป็นสมาชิกพรรคไหนก็สามารถทำได้ หากมีคุณสมบัติเข้าตามเกณฑ์ แต่การไปเป็นกรรมการบริหารพรรค ก็จะมีคุณสมบัติสูงกว่าการเป็นสมาชิกพรรค ซึ่งกฎหมายรัฐธรรมนูญกำหนดไว้ในมาตรา 102 (2) ระบุว่าผู้ที่จะสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส.ต้องไม่เป็นบุคคลล้มละลาย หรือเคยเป็นบุคคลล้มละลายทุจริต
ดังนั้น หากนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ จะมาเป็นหัวหน้าพรรคการเมือง หรือลงสมัครรับเลือกตั้งก็ต้องไปดูเนื้อหาคำพิพากษาของศาลล้มละลายว่าระบุไว้อย่างไร
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสนธิเคยเป็นบุคคลล้มละลาย แต่ไม่ใช่บุคคลล้มละลายทุจริต และได้เป็นบุคคลล้มละลายครบกำหนด 3 ปี ตามที่ศาลสั่งไปนานแล้ว