“มาร์ค” รอศาลรัฐธรรมนูญตีความให้ถึงที่สุด หลัง กกต.ชี้ 16 ส.ว.ถือหุ้นสัมปทานรัฐผิดรัฐธรรมนูญ ชี้ ไม่เข้า 9 กฎเหล็ก ลั่น ส.ส.-รัฐมนตรีทุกคน ต้องเคารพกติกา ตั้งปณิธานมั่น “เลิกถือ-ซื้อ-ขายหุ้นเด็ดขาด” ชี้ มีปัญหาทำให้ต้องตีความ เตือนนักการเมือง “อย่าลงทุนในตลาดหลักทรัพย์” แนะให้ตัดใจ
วันนี้ (19 มิ.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ กล่าวถึงกรณีการที่ นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ยื่นเรื่องต่อ กกต.ให้พิจารณาตีความถึงกรณีที่ ส.ส.และ ส.ว.ถือหุ้นสัมปทานรัฐ โดยมีรัฐมนตรีหลายคนในรัฐบาลนี้มีรายชื่อเสี่ยงต่อการตีความของศาลรัฐธรรมนูญ ว่า กกต.จะต้องส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญ ผู้ที่ถูกร้องเรียนต้องยอมรับการตัดสินไม่มีอะไรมากกว่านั้น เมื่อถามว่า กรณีนี้ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ถูก นายศุภชัย ใจสมุทร รองโฆษกรัฐบาล ยื่นตรวจสอบด้วย นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า นายสุเทพ ก็ถือเป็นหนึ่งใน ส.ส.ที่ถูกต้อง ส่วนจะมีผลต่อการปรับ ครม.หรือไม่นั้น ก็ต้องขึ้นกับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ตนจำไม่ได้ว่า มีรัฐมนตรีท่านใดบ้าง เพราะจำนวนที่ถูกร้องมีถึง 20-30 คน ที่เป็น ส.ส.
เมื่อถามว่า การขาดคุณสมบัติการเป็น ส.ส.หมายความว่า ขาดคุณสมบัติการเป็นรัฐมนตรีด้วยหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่ถือเป็นคุณสมบัติ แต่เป็นการกระทำที่ต้องห้าม ตนเข้าใจว่า ถ้าห้าม ส.ส.ทำอะไรก็ต้องห้าม รมต.ทำอย่างนั้นด้วยเหมือนกัน เมื่อถามว่า จะเข้ากับกฎเหล็ก 9 ข้อที่นายกฯได้ตั้งขึ้นไว้หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตรงนี้ไม่ใช่เรื่องที่พฤติกรรมหลังจากที่เข้ามาตรงนี้ เป็นเรื่องสืบเนื่องมา เพราะท่านเหล่านี้หลายท่านถูกร้องในขณะที่เป็นฝ่ายค้าน หลังจากนั้นขายหุ้นไปก็มี ขณะนี้ไม่ได้ถือหุ้นอยู่
เมื่อถามว่า ถ้ามีผลกระทบต่อ ส.ส.จำนวนมากจะมีผลต่อการทำงานในสภาหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไปถึงตรงนั้นแล้วก็ต้องมาคิดคำนวณ ว่าจะแก้ปัญหาอย่างไร ส่วนจะเป็นปัญหาต่อไปให้กับรัฐบาลในอนาคตหรือไม่นั้น
“ผมว่ามันเป็นกติกา ทุกคนต้องเคารพกติกา เพียงแต่เราไม่ทราบแน่ชัดเท่านั้นเองว่า สุดท้ายผลคำวินิจฉัยสุดท้ายเป็นอย่างไร ส่วนจะตายน้ำตื้นหรือไม่ เอ่อ! คือ ท่านเหล่านี้ผมเข้าใจว่า ทั้งส.ส. และส.ว.บางท่านร่วมร่างรัฐธรรมนูญมาก็มี ท่านก็เข้าใจของท่านว่าไม่เป็นปัญหา ผมว่าต้องไปถามท่าน ส่วนตัวผมเอง เลิกไปหมดแล้ว เพราะที่ผ่านมาผมเลิกการถือ-ซื้อ-ขายหุ้น มาสักระยะหนึ่งแล้ว เพราะรู้ว่าจะเป็นปัญหาต่อการวินิจฉัยเหมือนกัน แล้วก็มันมีหลายอย่าง บางทีอาจจะไม่เจตนาอะไรก็ได้ แต่ตัวบริษัทไปมีสัญญาอะไรกับใคร บางที ศัพท์ชาวบ้านเรียกว่า เล่นหุ้น บางทีเขาไม่ได้ดู ดีที่สุดผมว่า ตัดใจเถอะครับอย่าไปลงทุนในตลาดหลักทรัพย์สำหรับนักการเมือง สำหรับผม” นายอภิสิทธิ์ กล่าว
เมื่อถามว่า คิดว่ารัฐธรรมนูญในมาตรา 48 และมาตรา 265(2) และ (4) มีปัญหาหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ยังไม่ได้ตีความเป็นข้อยุติสุดท้าย ต้องดูเหตุผลของศาล เพราะเข้าใจว่า มีถึง 20 คนไม่ผิด คงต้องมีเหตุผลของกกต. ก่อนหน้านี้ตนได้กำชับ ส.ส.ในพรรค แต่ถือเป็นดุลยพินิจของแต่ละคน เมื่อถามว่า เกรงหรือไม่ว่ารัฐบาลนี้จะพังก่อนกำหนดหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ หัวเราะก่อนกล่าวว่า กำหนดมันเหลือ 2 ปีกว่าใช่ไหม เรื่องแบบนี้เป็นเรื่องเหตุการณ์ทางการเมือง เป็นไปตามกติกา อยู่ในกรอบประชาธิปไตย