กลุ่ม 40 ส.ว.เดินหน้าค้านหวยออนไลน์ ชี้ ไม่สามารถทำได้ หวั่นเยาวชนเป็นทาสอบายมุข “รสนา” ลั่นต้านถึงที่สุด เตือนรัฐบาล “มาร์ค” ระวังเจอวิบากกรรมเหมือนรัฐบาล “แม้ว” เหตุกฎหมายไม่เปิดทาง ขณะที่ “สมชาย” แฉมีขบวนการปั่นราคาสลากช่วงก่อนหวยออก จากเจ้าพ่อ “ด-ส” กองสลากรูดี แต่ปล่อย หวังดันตู้ขายหวยให้เกิด
วันนี้ (18 มิ.ย.) ที่รัฐสภา น.ส.รสนา โตสิตระกูล ส.ว.กทม.ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการศึกษาตรวจสอบเรื่องการทุจริตและเสริมสร้างธรรมาภิบาล วุฒิสภา กล่าวถึงกรณีที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ระบุว่า การออกสลากเลขท้ายพิเศษแบบ 2 ตัว 3 ตัว โดยเครื่องอัตโนมัติ (หวยออนไลน์) นั้น หากไม่เดินหน้าโครงการนี้อาจจะเสียค่าโง่ให้กับบริษัทเอกชนที่สัมปทานจำหน่ายตู้ขายหวยออนไลน์ ว่า เรื่องนี้รัฐบาลต้องคิดให้ดี เพราะ พ.ร.บ.สลากกินแบ่งรัฐบาล พ.ศ.2517 อาจไม่เปิดทางให้รัฐบาลดำเนินการได้ และรัฐบาลชุดนี้อาจต้องเจอวิบากกรรมเหมือนรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่รัฐมนตรีทั้ง ครม.ต้องขึ้นโรงขึ้นศาลกันทั้ง ครม.ที่สำคัญ รัฐบาลที่ดีต้องไม่ส่งเสริมให้อบายมุขแตกขยาย การขายหวยผ่านออนไลน์จะทำให้เด็กและเยาวชนเข้าถึงอบายมุขชนิดนี้ได้ง่ายขึ้น อีกทั้งคนที่มีรายได้จากการขายหวยออนไลน์ จะเป็นคนกลุ่มเดียวกับผู้ที่เป็นเจ้าของตู้ขายหวยเท่านั้น ซึ่งไม่คุ้มกับรายได้ที่จะได้มา ขณะเดียวกัน ก็จะทำลายอาชีพคนพิการที่แทบจะไม่มีงานให้ทำต้องขาดอาชีพ
“ดิฉันไม่เห็นด้วยกับโครงการนี้อย่างยิ่ง หากรัฐบาลจะผลักดันต่อไป ก็จะคัดค้านให้ถึงที่สุด โดยเฉพาะตอนนี้มีการตั้งคำถามค่อนข้างมากกับความใกล้ชิดระหว่าง นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง กับ บริษัท ล็อกซเล่ย์ ที่เป็นผู้ได้รับสัมปทานตู้ขายหวย ที่เกรงว่าจะเอื้อประโยชน์กันหรือไม่” น.ส.รสนา กล่าวและว่า ทั้งนี้ ไม่คิดว่ารัฐบาลจะต้องทำประชามติ หรือทำประชาพิจารณ์กับโครงการแบบนี้ เพราะเรื่องเช่นนี้รัฐบาลควรตัดสินใจได้ด้วยตัวเองว่าเป็นสิ่งดีหรือไม่ดี โดยไม่ต้องทำประชามติ ถ้าตัดสินใจไม่ได้แล้วไปทำประชามติทุกเรื่อง ก็ไม่ควรเป็นรัฐบาล และเรื่องนี้ นายอภิสิทธิ์ และ นายกรณ์ ไม่ควรทำให้ประชาชนที่ศรัทธาในตัวทั้งสองคนต้องผิดหวัง ซึ่งอยากเตือนไปถึงรัฐบาลว่าอย่าทำให้คนเสียศรัทธาเพราะเรื่องนี้
ขณะที่ นายสมชาย แสวงการ ส.ว.สรรหา ประธานคณะกรรมาธิการในฐานะประธานคณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพและการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา กล่าวว่า สมัยที่เคยร่วมเป็นกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาเรื่องหวยออนไลน์ของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ที่มี น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ เป็นประธาน ได้มีผลการศึกษาออกเป็นสองแนวทาง ทางหนึ่งเห็นว่าทำไม่ได้ เนื่องจากมีประเด็นที่ต้องแก้ พ.ร.บ.สลากกินแบ่ง 2517 ก่อน มิฉะนั้น อาจจะเสี่ยงต่อการผิดกฎหมาย แต่อีกทางหนึ่งเห็นควรนำหวยบนดินมาไว้ใต้ดิน เพื่อให้ง่ายต่อการจัดการ แต่ขณะนี้ได้รับข้อมูลว่าใกล้วันหวยออกสลากกินแบ่งรัฐบาลจะมีราคาสูงมาก มีราคาขายส่งคู่ละ 100-120 บาท โดยมีผู้ค้าสลากไม่กี่ราย รับโควต้าสลากไปปั่นราคา ซึ่งบุคคลเหล่านั้นเป็นเจ้าพ่อ อักษรย่อ ด. และ ส. เรื่องนี้สำนักงานสลากกินแบ่ง รู้เรื่องดีแต่ปล่อยปละละเลย เพราะต้องการผลักดันให้ตู้ขายหวยออนไลน์เกิดขึ้นแทน
“หากรัฐบาลจะเดินหน้าโครงการนี้ต่อ ไม่ควรอ้างว่าเกรงจะเสียค่าโง่ให้กับบริษัทเอกชน เพราะเป็นเหตุผลที่ไม่สมควรให้เกิดขึ้น รัฐบาลเกรงว่าจะเสียค่าโง่ก็สามารถตรวจสอบสัญญาการรับสัมปทานและส่งเรื่องนี้ให้กับคณะกรรมการป้องกันการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อให้ทราบว่าสัญญานี้ทำให้รัฐเสียหายอย่างไร และเมื่อทราบว่ารัฐเสียเปรียบก็ควรเอาผิดบุคคลที่ทำให้รัฐเสียเปรียบเอกชน อย่าเอาข้ออ้างว่าเสียค่าโง่มาอ้างในการผลักดันโครงการนี้ เพราะเรื่องนี้มีทางออกหลายทาง ซึ่งถ้ารัฐบาลจะเดินหน้าโครงการต่อ ผมก็ยังไม่เห็นว่ามีมาตรการคุ้มครองเด็กและเยาวชนอย่างไร เพราะเยาวชนจะเข้าถึงหวยบนดินได้ง่ายขึ้น” นายสมชาย กล่าว