“คำนูณ” ยอมรับ ส.ว.ข้องใจ พ.ร.ก.-พ.ร.บ.8 แสนล้าน ชี้ “กรณ์” ยังแจงไม่เคลียร์ เชื่อเสียงส่วนใหญ่อาจไม่ผ่านร่าง เตือน “มาร์ค” อย่าเสียค่าโง่เซ็นเช็คเปล่าให้รัฐบาลสมัยหน้าใช้ ระบุ ไม่มีหลักประกันว่าจะอยู่ถึงสิ้นสุดไทยเข้มแข็งปี 53 หวั่นงบที่กู้ไว้ถูกผ่านกินตัวเลขแบบเสียเปล่า
วันนี้ (18 มิ.ย.) นายคำนูณ สิทธิสมาน ส.ว.สรรหา กล่าวว่า การที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ออกมาระบุว่า มั่นใจว่า ส.ว.จะอนุมัติทั้ง พ.ร.ก.และ พ.ร.บ.ให้อำนาจกระทรวงการคลัง กู้เงิน เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจจำนวน 8 แสนล้านบาท ก็เป็นความคิดของนายกฯ แต่จากที่ นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง และ นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) ชี้แจง พบว่า ยังมีปัญหาอีกค่อนข้างมากที่ทั้ง 2 คนไม่สามารถตอบคำถามของ ส.ว.ได้ เชื่อว่า การประชุมวุฒิสภาเพื่อพิจารณาร่างกฎหมายทั้ง 2 ฉบับในวันที่ 22 มิ.ย.นี้ ขอให้ติดตามอย่างใกล้ชิด เชื่อว่า ส.ว.จะได้ไต่ถามข้อข้องใจและแสดงความไม่เห็นด้วยอย่างกว้างขวาง แต่จะอนุมัติหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของแต่ละคน แต่ตนเองเชื่อว่าทุกคนจะตัดสินใจอย่างสมศักดิ์ศรีในฐานะที่เป็นสภากลั่นกรอง โดยจะเป็นการตัดสินใจที่ไม่มีวาระซ่อนเร้น และไม่มีผลประโยชน์ส่วนตัวเข้ามาเกี่ยวข้อง
นายคำนูณ กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม จากการสอบถามกันเอง พบว่า ส.ว.ส่วนใหญ่ หลายกลุ่ม ไม่เห็นด้วยที่จะผ่านงบประมาณจำนวน 1.5 ล้านล้านบาท ภายใน 3 ปี ที่เป็นเงินนอกงบประมาณ ซึ่งระบบการตรวจสอบในเรื่องการจัดทำโครงการมันมีความยืดหยุ่นมากเกินไปจนอาจจะเป็นอันตรายได้ ทั้งนี้ หากมองว่า ทั้ง นายอภิสิทธิ์ และ นายกรณ์ มีความซื่อสัตย์สุจริต แต่ไม่มีหลักประกันใดเลยว่าท่านจะอยู่จนสิ้นสุดนโยบายไทยเข้มแข็งจนกระทั่งปี 2555 รวมถึงไม่มีหลักประกันใดเช่นกันว่ารัฐบาลที่จะเข้ามาหลังการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในปลายปีนี้หรือต้นปีหน้า ซึ่งอาจจะเป็นพรรคภูมิใจไทย หรือพรรคอื่นๆ จะเป็นรัฐบาลที่มีธรรมาภิบาล
“ถ้ารัฐบาลชุดนี้อยู่ไม่ถึงปี 2555 ก็จะเท่ากับว่า รัฐบาลชุดใหม่ที่เข้ามาก็จะสามารถกรอกตัวเลขในเช็คเปล่าที่รัฐบาลอภิสิทธิ์ทำไว้ให้ได้เลย เหมือนเป็นการหาเงินไว้ให้เขาใช้ ผมอยากบอกว่า ข่าวคราวการต่อรองงบประมาณของสมาชิกพรรคร่วมรัฐบาล รวมถึงพรรคฝ่ายค้านสร้างความไม่สบายให้กับ ส.ว.มาก” นายคำนูณ กล่าว
ทั้งนี้ ยืนยันว่า ส.ว.ไม่ได้คัดค้านร่างกฎหมายทั้ง 2 ฉบับ เพราะแม้จะคว่ำไปก็ไม่ได้มีผลกับรัฐบาลอยู่แล้ว แต่ ส.ว.อยากให้รัฐบาลได้ข้อคิดเพื่อที่จะได้กลับไปทำให้ถูกต้องหรือไปสร้างกลไกควบคุมต่างๆ เพื่อไม่ให้มีการใช้งบประมาณเกินความจำเป็น ซึ่งเราเห็นว่ารัฐบาลควรใช้เงินนอกงบประมาณเพียง 2 แสนล้านบาท เพื่อปิดหีบประมาณเท่านั้น ส่วนที่เหลือขอให้มีการใช้จ่ายเป็นกฎหมายงบประมาณตามปกติ