รอง ปธ.กมธ.ป.ป.ช.สภาฯ เชื่อประธานบอร์ดมั่วนิ่ม อ้างคลังไฟเขียว ไม่กำหนดราคากลางเช่ารถยูโรทู แหกกฎสำนักนายกว่าด้วยการซื้อการจัดจ้าง ปิดช่องรับฟังคำชี้แจงจวกพฤติกรรมถ่อยไม่ใช่นึกอยากมาก็มา เล็งสอบข้อมูล “สันติ” แฉคิงเพาเวอร์ งาบพื้นที่สุวรรณภูมิส่งผลให้รัฐเสียประโยชน์
วันนี้ (18 มิ.ย.) ที่รัฐสภา นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ ส.ส.นครนายก พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร ได้แถลงตอบโต้นายปิยะพันธ์ จัมปาสุต ประธานบอร์ด ขสมก.ที่ระบุว่าโครงการเช่ารถยูโรทู ไม่มีการกำหนดราคากลาง และกระทรวงการคลังได้ให้ความเห็นชอบตามที่เสนอว่า ไม่เป็นความจริง เพราะการจัดซื้อจัดจ้างของ ขสมก.ทุกโครงการต้องมีการกำหนดราคากลาง ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้าง ซึ่งประเด็นนี้สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) จึงชี้มูลความผิดว่ากระทำไปโดยมิชอบ และผู้ที่ร้องให้ สตง.สอบก็คือกระทรวงการคลัง จึงเป็นไปไม่ได้ที่กระทรวงการคลังจะเห็นชอบ ตามที่นายปิยะพันธ์ในฐานะประธานคณะกรรมการเปิดซองและต่อรองราคาสมัยนั้นกล่าวอ้าง
นายชาญชัยกล่าวต่อว่า และการที่นายปิยะพันธ์ระบุว่าไม่เคยถูกกระทรวงการคลังตั้งกรรมการสอบสวนนั้น ทางคณะกรรมาธิการฯจะเชิญปลัดกระทรวงการคลังเข้าชี้แจง จะได้รู้ว่าทำไมถึงไม่มีการดำเนินคดีทั้งทางแพ่ง อาญา หรือทางวินัยเลย จนเป็นเหตุให้ลอยนวลมาเป็นประธานบอร์ด ขสมก.อยู่ถึงวันนี้ ทั้งนี้การพูดไม่จริงของนายปิยะพันธุ์ อาจเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ มาตรา 5, 9 และ 11 ได้ ส่วนกรณีที่นายปิยะพันธ์บ่ายเบี่ยงไม่เข้าชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการฯมาโดยตลอด แต่ล่าสุดระบุว่าพร้อมจะมาชี้แจงในวันที่ 23 มิ.ย.นั้น ทางคณะกรรมาธิการฯคงไม่อนุญาตแล้ว เพราะในวันนั้นได้เชิญปลัดกระทรวงคมนาคม ผอ.สำนักงบประมาณ เลขาธิการสภาพัฒน์ ผอ.สำนักนโยบายและแผน ขสมก.เข้าชี้แจงแล้ว “ไม่ใช่นึกอยากจะมาก็มา ทำเหมือนคนถ่อย การทำงานของสภาต้องวางแผน ต้องแจ้งผู้ที่จะเชิญมา ล่วงหน้า 3-7 วัน”
นายชาญชัยกล่าวอีกว่า ในการประชุมคณะกรรมาธิการฯครั้งต่อไป ตนจะเสนอให้ที่ประชุมยกเรื่องที่นายสันติ พร้อมพัฒน์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย อดีตรมว.คมนาคม ระบุว่า บริษัทคิงพาวเวอร์ ไม่ยอมจ่ายค่าส่วนต่างค่าเช่าจำนวน 1.6 หมื่นล้านบาท ให้แก่รัฐ ขึ้นมาพิจารณาเป็นเรื่องด่วน โดยจะให้เวลานายสันติรวบรวมข้อมูลและมาชี้แจงด้วยตัวเองประมาณ 2 สัปดาห์ เรื่องนี้นายสันตินำมาพูดเองในสภา โดยระบุว่าสมัยเป็น รมว.คมนาคมได้สั่งการไปแล้วแต่ไม่มีใครทำตามที่สั่งการ จึงต้องถามว่าใครที่ไม่ทำจนสร้างความเสียหายให้รัฐถึง 1.6 หมื่นล้านบาท และจะเชิญนายปิยะพันธ์ ในฐานะประธานบอร์ดการท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย เข้าชี้แจงด้วย เรื่องนี้จำเป็นต้องทำ ถ้าไม่ทำจะถือว่าละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ และยิ่งมีการพูดในสภา หากปล่อยไปจะกลายเป็นสภาโจ๊ก เราต้องสอบให้ได้ว่าสิ่งที่นายสันติพูดเป็นเรื่องจริงหรือไม่ ใครเสียหาย ผิดสัญญาหรือไม่ ถ้านายสันติชี้แจงไม่ชัดก็จะเสียหายเอง แต่ถ้าพูดชัด จะถือว่าเป็นมือปราบใหญ่ของพรรคเพื่อไทย
