“พล.อ.วัธนชัย” ชี้เหตุที่รัฐดับไฟใต้ไม่ได้ เพราะยังใช้แผนเดิมอยู่ ในขณะที่โจรใต้มีการปรับแผน ยุทธวิธีใหม่ตลอดเวลา เชื่อต่อไปจะรุนแรงมากขึ้น รัฐอาจเอาไม่อยู่หากไม่ปรับแผน แนะควรหาแนวร่วมชาวบ้าน เพื่อให้เกิดชุมชนเข้มแข็ง และเป็นหูเป็นตาให้เจ้าหน้าที่ ชี้เหตุยิงมัสยิดเป็นแค่สร้างสถานการณ์ แต่ถึงรู้ตัวคนทำก็จับไม่ได้ เพราะรัฐไม่รบ ตั้งรับอย่างเดียว ระบุโจรใต้หวังปั่นเรื่องให้ต่างชาติ ยื่นมือมาช่วย จะได้ลามเป็นปัญหาระดับชาติ
พล.อ.วัธนชัย ฉายเหมือนวงศ์ อดีตที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี กล่าวถึงเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า กลุ่มโจรก่อการร้ายได้ปรับแผนและกระบวนการในการก่อเหตุใหม่ทั้งหมด โดยเฉพาะมีการจัดตั้งชุดอาร์เคเค หรือชุดคอมมานโดใหม่ อีกทั้งยังได้เปลี่ยนยุทธวิธี โดยใช้พวกที่มาจากอัลกออิดะห์ หรือเจไอ เป็นหลัก นอกจากนี้ กลุ่มโจรก่อการร้ายยังมีผู้นำที่ดีมาบัญชาการ ทำให้เมื่อมีการจัดระบอบการรบใหม่ก็จะยิ่งทำให้แผนการรบรุนแรงมากขึ้น ทางเจ้าหน้าที่รัฐเองคงสู้เขาไม่ไหวเนื่องจากเรายังใช้ยุทธวิธีดั้งเดิม หรือแบบเก่าอยู่ ทำให้การปฏิบัติการไม่ทันต่อยุทธวิธีใหม่ๆ ของกลุ่มโจรก่อการร้าย
“ตอนนี้กองทัพใช้ยุทธวิธีดั้งเดิมแบบเก่า เมื่อการปฏิบัติไม่ทันกับยุทธวิธีของกลุ่มโจรก่อการร้ายเราก็แย่ ดังนั้นจะต้องปรับปรุงและจัดระบบการป้องกัน โดยจะต้องจัดให้ครอบคลุมให้ได้ เพราะตอนนี้ยังไม่สามารถควบคุมได้เลย โดยเฉพาะการดูแลชาวบ้านเป็นเรื่องยากมาก เราจึงควรจัดระบบด้วยการสร้างหมู่บ้านให้เกิดความเข้มแข้ง และเมื่อมีการเดินทางออกไปข้างนอกชาวบ้านควรจะจัดเวลาให้ทหารมาคุ้มกัน อย่าให้ชาวบ้านไปโดยลำพัง เพราะถ้าหากเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นจะได้แจ้งหรือรายงานให้เจ้าหน้าที่ทราบ ทั้งนี้ ในปัจจุบันขบวนการอาร์เคเคมีวิธีการฝึกใหม่ๆ เสมอ โดยจะเน้นการใช้รูปแบบฆ่าทารุณ โดยยึดเหตุการณ์เมื่อปี 2548-2549 เป็นหลัก ซึ่งจะใช้ประเด็นเรื่องความแตกแยกทางศาสนา ระหว่างชาวไทยพุทธและชาวไทยมุสลิม” พล.อ.วัธนชัย กล่าว
พล.อ.วัธนชัย กล่าวต่อว่า เหตุการณ์ยิงชาวบ้านในมัสยิด จ.นราธิวาส จนมีผู้เสียชีวิตทั้งสิ้น 11 คน เป็นการสร้างสถานการณ์ทำให้เกิดความเกลียดชังให้กับชาวไทยมุสลิม โดยมีการปลุกปั่นว่าเป็นฝีมือเจ้าหน้าที่ทหารเป็นคนยิง เพื่อให้เกิดความสับสน แต่ตอนนี้ยังไม่สามารถพิสูจน์อะไรได้ว่าเหตุการณ์ที่แท้จริงเป็นเช่นไร ดังนั้น ต้องให้เจ้าหน้าที่รัฐเป็นผู้เร่งอธิบาย และหาตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษโดยเร็ว แต่มันก็เป็นเรื่องที่ลำบาก เพราะถึงรู้ตัวผู้กระทำผิดก็จับไม่ได้ เนื่องจากเราไม่รบ แต่รับอย่างเดียว โดยที่ผ่านมาเราไม่เคยรุกเขา เลยแพ้ยุทธวิธีมาโดยตลอด แม้ว่าทหารจะลงไปอยู่ในพื้นที่เป็นแสนคน แต่ก็แพ้เขาอยู่ดี สาเหตุมาจากกลุ่มโจรก่อการร้ายแฝงตัวอยู่กับชาวบ้าน เป็นโจรอยู่ในเมือง ดังนั้น เราจะต้องตั้งกองกำลังชาวบ้านให้มากที่สุด เพื่อให้เกิดการดูแลกันเอง และคอยสกีนคนแปลกหน้า รวมทั้งเฝ้าระวังในการออกพื้นที่ โดยใช้วิธีออกไปเป็นกลุ่มๆ
พล.อ.วัธนชัย กล่าวต่อว่า เจ้าหน้าที่รัฐควรมีมาตรการกำหนดเส้นทางการใช้รถจักรยานยนต์ ซึ่งวันนี้ยังทำกันน้อยไป ทำให้กลุ่มโจรก่อการร้ายมีอิสระในการใช้รถจักรยานยนต์ อีกทั้งหน่วยทหารควรมีการลาดตระเวนตามเส้นทางต่างๆ ให้มากขึ้น เพราะเส้นทางที่กลุ่มโจรก่อการร้ายวางระเบิดไม่ได้ทำกันเพียงวันสองวัน แต่ทำมาเป็นเดือนๆ ดังนั้น ทหารอยู่ในพื้นที่นานๆ ก็อาจจะลืม ไม่ได้ระวังตัว โจรก่อการร้ายจึงวางระเบิดได้ง่าย และขณะนี้เริ่มรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะเขาไม่ใช้ถังดับเพลิงแล้ว แต่ใช้ถังแก๊สแทน ซึ่งทั้งหมดจะต้องประกอบกัน แต่ทางการไม่มีข่าว ไม่มีการตระเวนหาข่าว จึงเป็นเรื่องที่ต้องทำให้เข้มข้นมากขึ้น
เมื่อถามกรณีที่กำลังทหารของกลุ่มโจรก่อการร้ายมีการก่อเหตุมากขึ้นขนาดไหน พล.อ.วัธนชัย กล่าวว่า เยอะมาก กองกำลังที่เป็นรุ่นใหม่มีการฝึกฝนเป็นอย่างดี แม้ว่ากองกำลังที่เขาใช้ปฏิบัติการจะมีน้อย แต่กองกำลังที่สนับสนุนมีเยอะมาก โดยเฉพาะขบวนการอาร์เคเค มีเป็นหลักร้อย หลักพัน มีทั้งกองกำลังสนับสนุนที่เข้ามาพักอาศัย เก็บของที่ใช้ในการก่อเหตุ โดยมีแนวร่วมมากถึงประมาณ 5-6 หมื่นคน ซึ่งพูดไปไม่มีใครเชื่อว่าข่าวพวกนี้ทางการก็รู้ แต่ยังไม่ยอมปรับแผนอะไร ใช้แผนลักษณะเดิมตลอด ทำให้การปฏิบัติการแพ้กลุ่มโจรก่อการร้าย ทั้งนั้ การที่เราตั้งรับอย่างเดียวเรื่องนี้จะไม่จบ และจะรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะจุดประสงค์เขาต้องการให้เหตุการณ์นำไปสู่นานาชาติ เพื่อให้องค์กรต่างประเทศเข้ามาดูแล โดยจะเห็นได้จากกลุ่มโจรก่อการร้ายพยายามโฆษณาชวนเชื่อไปยังสถานีต่างประเทศ ทั้งแจกซีดี ใบปลิว รวมถึงการลงพื้นที่ขององค์กรอิสระ ทำให้การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่รัฐตอนนี้ต้องเหนื่อยมากขึ้น
เมื่อถามกรณีที่ นายชวน หลีกภัย ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เสนอให้มีการจัดตั้งองค์กรพิเศษถาวรแก้ไขปัญหาภาคใต้ พล.อ.วัธนชัย กล่าวว่า จัดอย่างไรก็ได้เพื่อให้เกิดความเป็นเอกภาพ และจะต้องเร่งแก้ไขปัญหา เพราะกลุ่มโจรก่อการร้ายตั้งโจทย์ไว้ คือ ต้องการเผด็จศึกในปี 2555 ซึ่งเป็นปีเดียวกับที่รัฐบาลตั้งธงไว้ว่าภายในอีก 3 ปีสถานการณ์ภาคใต้จะต้องดีขึ้น อย่างไรก็ตาม โครงการอะไรที่จะนำไปให้พี่น้องชาวไทยมุสลิมในพื้นที่ก็ไม่สำคัญ แต่สิ่งที่สำคัญ คือ ต้องทำให้ประชาชนเกิดความปลอดภัยมากที่สุด เพราะงบที่ทุ่มไป 5 หมื่นล้านบาท เป็นโครงการต่อเนื่องติดต่อกันหลายปี แต่คนในพื้นที่ตายทุกวัน ทางรัฐควรหาวิธีดำเนินการอย่างไรให้กลุ่มโจรก่อการร้ายหยุดก่อเหตุรายวัน ทั้งนี้ ทหาร ตำรวจ และชุด ชรบ. จะต้องบูรณาการมากกว่านี้