xs
xsm
sm
md
lg

กกต.ร่อนหนังสือฟ้องนายกฯ-ผบ.ตร.จัดการ ขรก.-ตร.ทำตัวเอียง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สุทธิพล ทวีชัยการ  เลขาธิการกกต.
กกต.ไร้น้ำยาเอาผิดเจ้าหน้าที่ ร่อนหนังสือฟ้องนายกสั่งหน่วยราชการวางตัวเป็นกลาง พร้อมส่ง ผบ.ตร.ช่วยจัดการ ผบก.ภ.จว.สกลฯ ที่สั่งห้ามโรงพักรับฝากหีบบัตรเลือกตั้ง และลูกน้องที่ลาออกจาก จนท.รักษาหีบบัตร หวั่นเกิดซ้ำวันเลือกตั้ง ขณะเดียวกัน พบทุจริตมีขนคนลงคะแนนล่วงหน้า เตรียมแจ้งความดำเนินคดีอาญา

วันนี้ (16 มิ.ย.) นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวว่า ที่ประชุมได้พิจารณาการรายงานผลการลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้า ส.ส.เขต 3 สกลนครเมื่อวันที่ 13-14 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยได้รับรายงานถึงเหตุที่ กกต.เขตต้องใช้รถขังผู้ต้องหาในการเก็บรักษาหีบบัตรเลือกตั้งล่วงหน้า แทนสถานีตำรวจว่าเนื่องจาก พล.ต.ต.อุดม จำปาจันทร์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสกลนคร มีหนังสืออย่างกระทันหันลงวันที่ 12 มิ.ย.แจ้งไปยังสถานีตำรวจภูธรทั้ง 5 แห่งในเขตเลือกตั้งว่าหากได้รับการประสานจาก กกต.ในกรณีขอความร่วมมือให้เก็บหีบบัตรไว้ที่สถานีตำรวจ ให้ผู้กำกับสถานีแจ้งกลับไปว่ามีเหตุขัดข้องไม่สามารถให้ใช้สถานที่เพื่อเก็บรักษาหีบบัตรได้

อีกทั้งตำรวจที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยหีบบัตรเลือกตั้งล่วงหน้า ก็มีหนังสือถึง กกต.เขตอย่างกระทันหันในวันที่ 13 มิ.ย.ที่เป็นวันลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้าว่า ขอลาออกจากการเป็นเจ้าหน้าที่รักษาหีบบัตรฯ เนื่องจากมีหน้าที่ต้องปฎิบัติงานนอกหน่วย อีกทั้งสถานีตำรวจก็ไม่รับรักษาหีบบัตร หากยังได้รับการแต่งตั้งอาจทำให้เกิดความเสียหายได้ ทำให้ กกต.เขตแก้ปัญหาด้วยการมีคำสั่งยกเลิกการเก็บรักษาหีบบัตร และมีคำสั่งใหม่เกี่ยวกับการควบคุมดูแลการรักษาหีบบัตรฯโดยให้ใช้รถควบคุมผู้ต้องหาแทน ซึ่งในไปจอดไว้ที่หน้าที่ว่าการอำเภอแทน พร้อมจัดเจ้าหน้าที่ดูแลตลอด 24 ชั่วโมง แบ่งเป็น 3 ผลัด ผลัดละ 5 คน และมีตัวแทนของพรรคการเมืองพรรคละ 2 คน ต่อผลัดเฝ้าสังเกตการณ์

กรณีดังกล่าว กกต.จึงมติทำหนังสือถึงผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้ดำเนินการกรณี ผบก.ภ.จว.สกลนคร ปฎิเสธการรักษาหีบบัตร และการที่เจ้าหน้าที่ตำรวจขอลาออก จากการเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยหีบบัตรอย่างกะทันหัน และประธาน กกต.จะมีหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีขอให้สั่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความร่วมมือกับ กกต.ในการจัดการเลือกตั้งวันที่ 21 มิ.ย.นี้ รวมทั้งกำชับให้ข้าราชการวางตัวเป็นกลางอย่างเคร่งครัด และกกต.กลางก็จะมีหนังสือถึงกกต.จังหวัดสกลฯ ให้ปฎิบัติตามกฎกติกาอย่างเคร่งครัด ซึ่งในพุธและพฤหัสบดีนี้ก็จะมีการประชุมวิดีโอคอนเฟอร์เร้นท์กับ กกต.จังหวัด กกต.เขต เพื่อรับฟังสถานการณ์และกำชับให้เร่งรัดเรื่องการส่งสำนวนสืบสวนมายัง กกต.กลางโดยเร็ว

ผู้สื่อข่าวถามว่าที่จะมีหนังสือถึง ผบ.ตร.เพื่อจะให้มีการลงโทษเจ้าหน้าที่ใช่หรือไม่ นายสุทธิพลกล่าวว่าทางหน่วยราชการจะดำเนินการเอง ถ้ามีประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิดวินัยต่างๆ เพราะโดยปกติแล้ว กกต.ไม่มีสิทธิที่จะไปลงโทษอะไรเขา แม้ตามกฎหมายจะกำหนดว่าเมื่อขอความร่วมมือไป เขาต้องให้ความร่วมมือ แต่ครั้งนี้ กกต.ไม่ทราบเหตุผลที่ชัดเจน และเป็นการมีหนังสือแจ้งอย่างกระทันหัน ซึ่งบางครั้งเขาแจ้งกลับมาว่าห้องขังไม่ว่าง ก็จะมีการไปขอใช้โรงพักอื่นหรือค่ายทหารก็มี แต่ครั้งนี้ไม่ทราบมาก่อนว่ามีปัญหาอะไร แต่ในระดับการประสานของส่วนกลางไม่เคยมีปัญหามาก่อน ซึ่งความอาจจะไม่ไปถึงส่วนล่าง จึงทำให้มีการแจ้งขอยกเลิกอย่างกระทันหัน อย่างไรก็ตาม ยังเชื่อว่าจากการประสานงานคงจะไม่ทำให้ปัญหาในลักษณะนี้เกิดขึ้นอีกในวันเลือกตั้ง

นอกจากนี้ ชุดปฏิบัติการป้องปรามการทุจริตการเลือกตั้งที่ กกต.กลางได้ส่งลงพื้นที่ ซึ่งมี พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา รองเลขาธิการ กกต.ด้านสืบสวนฯ เป็นหัวหน้าชุดนั้น ได้รายงานให้ที่ประชุม กกต.ได้รับทราบว่าในการเลือกตั้งล่วงหน้ามีการใช้รถกระบะจำนวน 6 คัน ขนคนครั้งละ 9-10 คน ไปยังสถานที่เลือกตั้งกลางเกินกว่า 1 รอบ ซึ่งไม่ใช่รถของส่วนราชการ หรือรถรับจ้างสาธารณะ ถือว่าการกระทำดังกล่าวจงใจฝ่าฝืน พ.ร.บ.เลือกตั้ง ส.ส.และการได้มาซึ่ง ส.ว.มาตรา 55 ประกอบมาตรา 145 โดยมีภาพถ่ายรถคันดังกล่าวและเลขทะเบียนรถอย่างชัดเจน กกต.จึงมีมติให้ส่งข้อมูลให้ กกต.จังหวัดไปดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งแจ้งความดำเนินคดีกับผู้กระทำผิด อย่างไรก็ตาม ในรายงานไม่ได้มีการระบุชื่อของผู้กระทำผิด หรือความเกี่ยวข้องกับพรรคการเมืองหรือผู้สมัคร ส.ส.

เมื่อถามว่ามีการรายงานถึงความผิดปกติขอการใช้แบบฟอร์มใบแสดงเจตจำนงค์การขอใช้สิทธิ์เลือกตั้งล่วงหน้าหรือไม่ นายสุทธิพลกล่าวว่า ไม่มี แต่มีการระบุว่ามีผู้มาขอใช้สิทธิจำนวนมาก ซึ่งทางกรรมการประจำหน่วยจะตรวจสอบการกรอบแบบฟอร์มใบแสดงเจตจำนงการขอใช้สิทธิ์เลือกตั้งล่วงหน้า โดยกรณีที่มีผู้ถือใบขอแสดงการใช้สิทธิมาจากบ้าน ไม่อาจถือเป็นเรื่องผิดปกติเพราะแบบฟอร์มดังกล่าวสามารถโหลดจากเว็บไซต์ของ กกต.ได้ อีกทั้งวันแรกมีผู้มาใช้สิทธิ์จำนวนมาก เมื่อกรอกใบขอใช้สิทธิเบื้องต้นแล้ว เห็นว่าต้องรออีกนานจึงนำใบดังกล่าวกลับบ้านและนำกลับมาขอใช้สิทธิในอีกวันหนึ่ง จึงไม่ถือว่าน่าจะผิด เพราะจะต้องมีการสอบปากคำของเจ้าหน้าที่ก่อน อย่างไรก็ตาม กกต.ก็ได้ให้ทางสำนักงานฯ ไปศึกษาว่าหากมีการแก้ไขกฎหมายจะเสนอให้มีการแก้ในส่วนของการลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้าในเขตจังหวัดว่าจะต้องมีการลงทะเบียนล่วงหน้าเช่นเดียวกับการเลือกตั้งนอกเขตจังหวัดได้หรือไม่
กำลังโหลดความคิดเห็น