“ไข่แม้ว” ตั้งคำถามจี้ “โสภณ” ตอบรถเมล์เอ็นจีวีหมกเม็ดหรือไม่ เหตุใดต้องเพิ่มภาระคนจน ซัดหวังดันเพื่อใคร จับผิดทำไมไม่มีรถตัวอย่างให้ประชาชนดูสักคัน พร้อมจวกรัฐบาลล้มเหลวสกัดเชื่อหวัดมรณะ จี้ “มาร์ค-วิทยา” รับผิดชอบ ย้ำชัดไม่ร่วมสังฆกรรม ถกกู้เงิน หากรัฐงดถ่ายทอด อัดรัฐบาลกลัวตอบคำถามไม่ได้
วันนี้ (13 มิ.ย.) ที่พรรคเพื่อไทย ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย นำโดยนายวิชาญ มีนชัยนันท์, น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ, นายการุญ โหสกุล และนายจิรายุ ห่วงทรัพย์ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย ร่วมกันแถลงข่าวกรณีพรรคภูมิใจไทย ผลักดันโครงการเช่ารถเมล์เอ็นจีวี 4,000 คัน ผ่านงบประมาณกว่า 60,000 ล้านบาท น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าวว่า ทีมงานภาค กทม.ได้ติดตามและเก็บข้อมูลการเตรียมดำเนินการในโครงการดังกล่าว โดยตั้งข้อสังเกตว่า การขึ้นป้ายโฆษณาเชิญชวน การแจกสมุดปกขาว การซื้อโฆษณาตามสื่อ การประชาสัมพันธ์ดังกล่าวทำเพื่อประชาชนหรือมีผลประโยชน์แอบแฝง ที่สำคัญเป็นการชี้นำและกดดันการทำงานของสภาพัฒน์ในการศึกษาโครงการดังกล่าว ขณะเดียวกัน พรรคภูมิใจไทยไม่ควรกล่าวหา ส.ส.ฝ่ายค้าน และ ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาล เข้ามาตรวจสอบโครงการรถเมล์เอ็นจีวี โดยอ้างว่ามาขัดขวางความสะดวกสบายของคนกรุงเทพมหานคร เพราะหากโครงการนี้ไม่มีวัตถุประสงค์แอบแฝง ก็ควรปล่อยให้มีการตรวจสอบ
นายจิรายุกล่าวว่า สำหรับกรณีที่ นายโสภณ ซารัมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ยืนยันว่าพร้อมตอบคำถามข้อสงสัยทุกข้อนั้น พรรคเพื่อไทยขอให้ทำจริง เนื่องจากการทำสมุดปกขาวเป็นการให้ข้อมูลฝ่ายเดียว ลักษณะโฆษณาชวนเชื่อให้ประชาชนเห็นด้วย ทั้งนี้กลุ่ม ส.ส.พรรคเพื่อไทยภาค กทม.จะส่งคำถามเบื้องต้น 4 ข้อ คือ 1.ประชาชนที่มีฐานะยากจนจะมีสิทธิ์เลือกหรือไม่ หากต้องจ่ายค่าโดยสารรถเมล์ 30 บาท 2.รถเมล์ 4,000 คัน จะวิ่งครอบคลุมทุกเส้นทางหรือ ถ้าไม่ต้องต้องจ่ายเพิ่มอีกกี่บาท เพราเชื่อว่าจะไม่สามารถทำได้จริงในทางปฎิบัติ 3.การที่พรรคภูมิใจไทยทุ่มเงินมหาศาลเพื่อโฆษณาโครงการดังกล่าวฯโดยติดโลโก้พรรค เป็นการหาเสียงล่วงหน้าหรือไม่ และเป็นการกดดันหน่วยงานที่กำลังศึกษาหรือไม่ 4.โครงการนี้ตั้งใจทำเพื่อประชาชนโดยไม่มีการหมกเม็ดเพื่อรักษาผลประโยชน์ใครแอบแฝงหรือไม่ ทั้งนี้จะส่งหนังสือให้กับนายโสภณภายในวันจันทร์นี้ หากไม่ได้รับคำตอบจะเดินทางไปยื่นหนังสือต่อนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรีที่ทำเนียบรัฐบาลในวันอังคาร
นายจิรายุกล่าวอีกว่า พรรคเพื่อไทยเห็นว่ากรณีการควบคุมและป้องกันการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ของรัฐบาล ที่ผ่านมาประสบความล้มเหลว เห็นได้จากตัวเลขผู้ติดเชื้อที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ดังนั้น นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และนายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข จึงไม่อาจที่จะปฏิเสธความรับผิดชอบได้
ขณะที่นายวิชาญ มีนชัยนันท์ ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย ประธานภาค กทม. กล่าวถึงกรณีที่ล่าสุดวันนี้ (13 มิ.ย.) นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ประธานวิปรัฐบาลยืนยันว่ามจะไม่ถ่ายทอดสดการประชุมสภาฯเพื่อพิจารณา พ.ร.ก.กู้งินฯในวันที่ 15 มิย.นี้ว่า หากรัฐบาลยังยืนยันจะปิดหูปิดตาประชาชน พรรคเพื่อไทยก็จะยังคงจุดยืนเดิมที่ประกาศไปชัดเจนแล้วว่า จะไม่ร่วมสังฆกรรมกับรัฐบาลในการพิจารณา พ.ร.ก.ดังกล่าว โดยวิปฝ่ายค้านและ ส.ส.ของพรรคเพื่อไทยจะร่วมประชุมเพื่อหารือท่าทีอีกครั้งในวันจันทร์ 15 มิย.เวลา 08.30 น.ที่ห้องวิปฝ่ายค้าน เนื่องจากมองว่า สิ่งที่รัฐบาลเสนอมาทำให้ประชาชนเป็นหนี้ดังนั้นประชาชนจึงต้องมีส่วนร่วมในการรับรู้ โดยเฉพาะรับทราบรายละเอียดว่ารัฐบาลจะนำเงินไปทำอะไรบ้าง และจะหามาใช้คืนอย่างไร
“การที่รัฐบาลปิดตาประชาชน โดยไม่ยอมให้มีการถ่ายทอดสดออกทีวีเช่นนี้ ทั้งๆที่ ข้อบังคับการประชุมสภาฯได้กำหนดว่าหากมีเรื่องที่เป็นสาระสำคัญ ไม่เฉพาะแค่การพิจารณาเรื่องงบประมาณรายจ่างประจำปีของประเทศ แต่หากเป็นเรื่องที่สำคัญมีผลกระทบต่อประชาชนทั้งประเทศก็สามารถถ่ายทอดสดทีวีได้เลย จึงขอตั้งข้อสังเกตว่า รัฐบาลไม่พร้อมหรือไม่มีข้อมูลที่ชัดเจน เช่น รายละเอียดของโครงการต่าง แผนการบริหารจัดการงบประมาณ การหารายได้ และแผนการคืนเงินกู้ จึงทำให้รัฐบาลกลัวการถ่ายทอดสดอกทีวีตอบคำถามในเรื่องนี้” นายวิชาญ กล่าว
