“สนธิ”จี้ “อภิสิทธิ์”ใช้ภาวะผู้นำสั่งยุติโครงการรถเมล์ฉาว 4 พันคัน ระบุไม่ว่าเช่าหรือซื้อล้วนแต่เป็นจุดเริ่มต้นการโกง จวกสมุดปกขาว มีแต่การปั้นแต่งตัวเลขเพื่อให้โครงการดูดี ย้ำถึงรักนายกฯ แค่ไหน แต่ถ้าหลับหูหลับตาให้กับการคดโกง ก็รักไม่ลง แนะแนวทางดับไฟใต้ ต้องให้ความยุติธรรม ป.ป.ช.ต้องเร่งชี้ขาดคดีตำรวจซ้อมผู้ต้องหาชาวมุสลิม เผยจะเป็นหัวหน้าพรรคใหม่หรือไม่ ไม่สำคัญ แต่เคยปวารณาตัวไว้แล้วจะทำงานเพื่อชาติ จวก ปชป.ทำงานไม่เป็นปล่อยหวัด 2009 ระบาด
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง รายการ พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
สโรชา - สวัสดีค่ะพ่อแม่พี่น้อง ขอต้องรับเข้าสู่รายการ พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย วันนี้ได้ดูได้ฟัง เทียนแห่งธรรม เวอร์ชั่นใหม่ เป็นเวอร์ชั่นบรรเลงเปียโน จาก อ.ณัฐ ยนตรรักษ์ และภาพบรรยากาศของงานรำลึก 1 ปี 193 วัน ที่เพิ่งผ่านพ้นไปด้วย คงประทับใจไปตามๆ กัน
พ่อแม่พี่น้องคะ วันนี้มีหลายเรื่องต้องคุยกัน พร้อมกับแขกพิเศษที่จะมาคุยกันในรายการด้วยนะคะ วันนี้ คุณสนธิ ลิ้มทองกุล จะมาร่วมสนทนาในหลายต่อหลายประเด็น ปัญหาบ้านเมืองที่กำลังเกิดขึ้น ณ เวลานี้ เป็นเรื่องที่เราต้องคุยกัน ลงรายละเอียดกันค่อนข้างลึก
แต่ก่อนอื่นนะคะ เมื่อประมาณ 1 ชั่วโมงที่ผ่านมานี่เอง กระทรวงสาธารณสุขได้แถลง วันนี้ได้มีการเปิดศูนย์ปฏิบัติการ อำนวยการควบคุม ป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ล่าสุดในประเทศไทยตอนนี้ มีผู้ติดเชื้อไปแล้ว ทางการยืนยัน 89 ราย เฉพาะวันนี้พบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นถึง 43 ราย ตอนนี้ดูเหมือนว่าปัญหาลุกลามกันไปใหญ่แล้ว 43 รายวันนี้ ได้เพิ่มขึ้นที่พัทยา 3 ราย ที่ภูเก็ต 1 ราย ที่สงขลา 1 ราย และในกรุงเทพมหานครอีก 1 ราย เป็นนักเรียนจากโรงเรียนนานาชาติ ซึ่งคงจะได้ตรวจสอบกัน
ตอนนี้ถือว่าทั้งหมด 89 ราย รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลเอกชน 37 ราย ส่วนใหญ่คนไข้ที่รักษาตัวอยู่โรงพยาบาลเอกชนนั้น เป็นผู้ป่วยซึ่งเดินทางไปต่างประเทศ ไปติดเชื้อแล้วกลับมาในประเทศไทย ส่วนอื่นที่อยู่ในชลบุรี ภูเก็ต สงขลา ส่วนใหญ่เกิดขึ้นในประเทศไทย ตอนนี้กำลังตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมอยู่ แต่ว่านายกรัฐมนตรีออกมาพูดถึงเรื่องนี้บอกว่าต้องควบคุม และดูแลสถานการณ์นี้เป็นพิเศษ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะไม่มีผู้เสียชีวิตในเมืองไทยเกิดขึ้น
เพิ่มเติมในประเด็นของรถเมล์เอ็นจีวี พ่อแม่พี่น้องคงจะทราบข่าวกันไปพอสมควรแล้วกับการที่พรรคภูมิไทยเขาได้ทำหนังสือปกขาวออกมา 1 ล้านเล่ม ไปแจกตามจุดต่างๆในกรุงเทพมหานคร จุดเด่นๆที่เห็นในวันนี้คืออนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เซ็นทรัลเวิลด์ก็มีไปแจก มีที่จุดขึ้นรถเมล์หลายจุด แหล่งใหญ่ๆในกรุงเทพฯก็ไปแจกกัน โดยทางพรรคภูมิใจเขาก็ออกมาบอกว่า เวลานี้เป็นช่วงเวลาที่จะต้องชี้แจงให้ประชาชนเข้าใจว่าเรื่องราวเกี่ยวกับโครงการนี้มันเป็นอย่างไร ที่สำคัญคือไม่ได้ออกมาตอบโต้ในประเด็นที่เป็นปัญหาอยู่ หรือกลัวว่าประชาชนจะคิดว่าโครงการนี้จะไม่โปร่งใส ไม่ได้คิดอย่างนั้น ไม่ได้ต้องการที่จะโน้มน้าว ชักจูง ให้คนหันมาสนับสนุนโครงการนี้ แต่อยากจะชี้ให้เห็นว่าประชาชนจะได้รับผลประโยชน์อะไรบ้างจากการทำโครงการรถเมล์เอ็นจีวี 4,000 คัน ที่ว่านี้ เป็นคำของรองโฆษกพรรคภูมิใจไทย บอกว่าต้นทุนในค่าใช้จ่ายของ ขสมก.จะต้องลดลง ทุกอย่างเป็นไปอย่างโปร่งใส นี่คือสิ่งที่สมุดปกขาว 1 ล้านเล่มที่เขาแจกกัน และแจกตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป กำลังบ่งบอกประชาชน แต่ไม่เห็นว่าสมุดปกขาวจะพูดถึงต้นทุนอันมหาศาลที่จะต้องแบกรับกันต่อไปในส่วนของ 64,000 กว่าล้านบาท ที่ประชาชนชาวไทยจะต้องแบกรับจากตรงนี้
อีกเรื่องหนึ่ง ที่ต้องคุยกัน ต้องลงรายละเอียดกัน เรื่องราวของรถประจำตำแหน่งนายกรัฐมนตรีที่ถูกทุบทำลายที่กระทรวงมหาดไทย วันนี้มีการเปิดเผยเพิ่มเติมจากนายทหารประจำศูนย์รักษาความปลอดภัย เข้ามาชี้แจงและแจ้งข้อมูลให้กับคณะอนุกรรมการรวบรวมเหตุการณ์การชุมนุมที่กระทรวงมหาดไทย ในฐานะผู้จัดซื้อรถยนต์ประจำตำแหน่งของนายกรัฐมนตรี พ.ท.บันเทิง ถาวรพฤกษ์ ออกมาบอกว่า รถยี่ห้อเมอร์ซิเดสเบนซ์ ที่เป็นรถประจำตำแหน่ง เป็นรถหุ้มเกราะของนายกรัฐมนตรี จัดซื้อมา 3 คัน คันละ 21 ล้านบาท จัดซื้อตั้งแต่สมัย พ.ต.ท.ทักษิณ มีอยู่ 1 คัน คันที่เกิดเหตุไม่เคยใช้เลย มาใช้ครั้งแรกที่กระทรวงมหาดไทย ให้กับนายกฯ อภิสิทธิ์ ปรากฏว่าตรวจสอบแล้ว ค่าเสียหายทั้งหมดที่เกิดขึ้นในวันนั้น 8 ล้านบาท 8 ล้านบาทสำหรับค่าเสียหาย เพราะว่าเกิดขึ้นเกือบทั้งคัน ในส่วนของความเสียหาย กระจกรถทุกบานถูกทุบเสียหาย ฝากระโปรงรถด้านหน้าและด้านหลังถูกเจาะด้วยเหล็ก โดยบอกว่าถ้าหากไม่เป็นรถหุ้มเกราะคงจะเสียหายมากกว่านี้ แต่ว่าคันที่ว่า จากเหตุการณ์วันนั้น ความเสียหายเกิดขึ้น 8 ล้านบาท ทีเดียวค่ะ
มาดูอีกเรื่องหนึ่ง เรื่องของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จริงๆ แล้วเรื่องมันเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อ 2 วันที่แล้ว แต่วันนี้นักข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน ที่ผ่านมา พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. ได้มีคำสั่งไปถึงเจ้าหน้าที่ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ บอกว่า ให้รายงานเรื่องสำคัญ เรื่องที่น่าสนใจให้กับ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง โดยตรง เรื่องราวที่จะต้องรายงานนั้น เรื่องที่น่าสนใจ เรื่องที่อยู่ในความสนใจ เรื่องข้อเท็จจริงที่สื่อมวลชนนำเสนอ รายงานตรงต่อรองนายกรัฐมนตรี โดยไม่ต้องผ่าน ผบ.ตร. หากไม่ใช่เรื่องด่วน หรือไม่ใช่เรื่องสำคัญที่นำเรียนให้ทราบ อย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง เรื่องนี้คงได้ลงรายละเอียดกันถึงนัยนะคะว่า เกิดอะไรขึ้นในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงได้มีคำสั่งให้รายงานตรงกับรองนายกรัฐมนตรีผ่าน ผบ.ตร.ไปเลย ไม่ต้องรายงาน ผบ.ตร.นะคะ เรื่องนี้คงจะได้คุยกัน
อีกเรื่องหนึ่ง เรื่อง คงจะเป็นข่าวดีสำหรับผู้ที่อยากจะสนับสนุนพรรคการเมืองใหม่ วันนี้คุณสุริยะใสได้ออกมาเปิดเผยนะคะว่า ขั้นตอนในการเตรียมการสำหรับพรรคการเมืองใหม่นั้น เตรียมไว้เรียบร้อยแล้ว ตอนนี้เพียงแต่รอให้คณะกรรมการเลือกตั้งพิจารณาจัดตั้งพรรค หลังจากนั้นคิดว่าทุกอย่างเรียบร้อยดี เมื่ออนุมัติเรียบร้อย คงจะเสร็จภายในเดือนมิถุนายนนี้ เมื่อ กกต.รับรองแล้วก็ต้องไปจัดสาขาพรรคตาม 4 ภาค หลังจากนั้นก็รับสมัครสมาชิก 5,000 อย่างน้อย ซึ่งคิดว่าคงจะได้เรียบร้อยภายในเดือนกรกฎาคม คุณสุริยะใสบอกว่า หลังจากนั้นคงจะได้มีการจัดประชุมใหญ่กันทันที นี่คือความเคลื่อนไหวของพรรคการเมืองใหม่
วันนี้มีหลายประเด็นที่เราต้องมาพูดคุยกัน พูดถึงเรื่องของหวัด พูดถึงเรื่องของภาคใต้ เรื่องเลือกตั้งซ่อมที่มีขึ้นสุดสัปดาห์นี้ สุดสัปดาห์หน้านัยทางการเมือง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ปัญหาบ้านเมืองที่กำลังประสบอยู่ในตอนนี้ พ่อแม่พี่น้องคิดว่ารัฐบาลชุดปัจจุบันสอบผ่านหรือไม่ อันนี้เป็นสิ่งที่เราอยากจะเรียนถามพ่อแม่พี่น้องนะคะผ่านทาง SMS ถามว่า การแก้ไขปัญหาต่างๆ ของรัฐบาลอภิสิทธิ์ สอบผ่านหรือไม่ อยากจะแสดงความคิดเห็นส่งมานะคะ ถ้าหากว่าพี่น้องคิดว่าผ่าน พิมพ์ C1 ส่งมาที่ 4642888 ถ้าคิดว่าไม่ผ่าน พิมพ์ C2 ส่งมาที่ 4642888 อันนี้ไม่เป็นข้อความแสดงความคิดเห็นนะคะ แค่โหวตเท่านั้นว่าผ่านหรือไม่ผ่าน ถ้าพ่อแม่พี่น้องคิดว่าผ่าน พิมพ์ C1 แล้วส่งมาที่เบอร์นี้ ถ้าคิดว่าไม่ผ่าน พิมพ์ C2 แล้วส่งมาที่เบอร์นี้นะคะ 4642888 ในส่วนของการแสดงความคิดเห็น เช่นเคยค่ะ กด N1 ตามด้วยข้อความ ส่งมาที่ 4850770 มี 2 หัวข้อนะคะ สอบผ่านไม่ผ่านหัวข้อหนึ่ง แสดงความคิดเห็นอีกข้อหนึ่ง หรือโทรก็ได้คะที่ 02 629 4433
พ่อแม่พี่น้องคะ อยากจะเรียนย้ำอีกสักครั้งหนึ่ง สำหรับข้อความข่าว SMS ของ ASTV ช่วงนั้นเราได้เรียนให้พ่อแม่พี่น้องทราบว่า ถ้าหากพ่อแม่พี่น้องอยากจะให้ ASTV อยู่คู่ประชาชนต่อไปนานๆ โดยที่ไม่ต้องพึ่งนายทุนเข้ามาช่วยเหลือในส่วนของการโฆษณานั้น ให้ช่วยกันรับข้อความ SMS ข่าว SMS ของ ASTV ที่จะส่งไปถึงมือถือ พ่อแม่พี่น้องจะทราบทันทีว่า มีความเคลื่อนไหวทางการเมือง สังคม เศรษฐกิจอย่างไร ข่าวจะขึ้นที่หน้าจอมือถือของพ่อแม่พี่น้อง ค่าบริการเดือนละ 200 บาท
คุณสนธิ เคยบอกไว้ว่าเราจะอยู่ได้นั้น คงจะต้องมีคนสนับสนุน โดยที่มีผู้รับข่าวของเรา 200,000 รายต่อเดือน ตอนนี้พ่อแม่พี่น้องคะ เราเพิ่งถึงประมาณ 50,000 รายเท่านั้นเอง อยากจะขอความกรุณานะคะ ถ้าหากว่าพ่อแม่พี่น้องอยากจะเห็น ASTV อยู่คู่ประชาชนไปนานๆ สมัครข่าวของ ASTV นะคะ พิมพ์ R ส่งมาที่ 4321000 เป็นการสมัครอัตโนมัตินะคะ ค่าบริการ 200 บาทต่อเดือน เป็นการช่วยให้ ASTV สามารถอยู่ได้โดยไม่ต้องพึ่งการสนับสนุนจากโฆษณา
เดี๋ยวเราพักกันสักครู่นะคะ กลับมาคุยกับคุณสนธิ ลิ้มทองกุล คะ
สโรชา - วันนี้เรื่องบ้านเมืองมีหลายเรื่องที่ต้องพูดพูดกันโดยเฉพาะอย่างยิ่งการบริหารจัดการในหลายส่วนทีเดียว คุณผู้ชม พ่อแม่พี่น้องสามารถที่จะโทรเข้ามาแสดงความคิดเห็น หรือฝากคำถามในรายการได้นะคะ ที่ 02 629 4433
วันนี้ต้อนรับแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย คุณสนธิ ลิ้มทองกุล คะ สวัสดีคะ
สนธิ - สวัสดีครับคุณสโรชา
สโรชา - สวัสดีคุณสนธิ คะ แหม ไม่ได้จัดรายการกับคุณสนธิ มานานมาก ตื่นเต้นนะ ตื่นเต้น
สนธิ - คิดถึงวันเก่าๆ ที่เมืองไทยรายสัปดาห์
สโรชา - จำได้ ออกอากาศที่ช่อง 9 ครั้งแรกคะ ถ้าจำไม่ผิดนะคะ วันที่ 4 กรกฎาคม 2546
สนธิ - 46 ใช่ 46 ,47, 48, 49, 50 นี่คุณนี้ก็เท่าไหร่แล้ว 35 หรือยัง
สโรชา - ยังคะยัง ยังไม่กล้า แต่ว่าเราคุยกัน แม้กระทั่งย้อนกลับไปที่เมืองไทยรายสัปดาห์ จนกระทั่งมาต่อสู้เป็นสัญจร จนกระทั่งเป็นพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จนกระทั่งมาเป็น ASTV คุณสนธิ คะ ปัญหาบ้านเมืองไม่ได้น้อยลงไปเลย
สนธิ - มันเป็นปัญหาที่เรื้อรัง คุณสโรชา ผมเคยจำได้ว่า 2546 เคยพูดเรื่องราวต่างๆไล่มา 47, 48, 49, 50, 51 จนกระทั่งถึงปีนี้ ผมสรุปได้ว่า ประเทศชาติถ้าไม่มีการเปลี่ยนแปลงวิถีทางการทำงาน แนวความคิด ตลอดจนปรัชญา จิตวิญญาณ คุณธรรม จริยธรรม ใหม่ เราจะไม่มีประเทศไทยที่เรารู้จักอีกต่อไปแล้ว เพราะว่าวิธีการที่ทำมาตั้งแต่ปี 46 หรือก่อนหน้าปี 46 จนกระทั่งปัจจุบัน เป็นวิธีการเก่าๆ แล้วก็มีแต่เลวร้ายลงไปเรื่อยๆ ผมยังไม่เคยเห็นการทำลายชาติที่รุนแรงมากเท่าตั้งแต่ปี 2544 ไล่มาตลอด จนกระทั่งมาวันนี้ วันนี้ผมก็ยังหวังว่า เคยคิดที่จะฝากผีฝากไข้ไว้ให้กับพรรคประชาธิปัตย์ แต่ผมก็ยังไม่แน่ใจ ผมเริ่มไม่แน่ใจหลายเรื่อง เพราะผมเริ่มมีความรู้สึกว่า ผมไม่อยากจะพูดว่าพรรคประชาธิปัตย์นั้น บริหารชาติไม่เป็น อาจจะเป็นการพูดจาที่ค่อนข้างจะดูถูกเขามากเกินไป แต่ผมคิดว่าคำว่าไม่เป็นยังไม่สำคัญเท่ากับว่า ขาดความกล้าหาญ
สโรชา - ความกล้าหาญถือเป็นเรื่องสำคัญในภาวะ
สนธิ - เป็นเรื่องที่สำคัญมากนะครับ เพราะว่า ปัญหาชาติบ้านเมืองนั้นมันมี ไปทางนี้ถูกต้อง ไปทางนี้ไม่ควรไป ผมคิดว่าถ้ามีความกล้าหาญพอต้องตัดสินใจได้ที่จะนำชาติไปในทางที่ถูกต้อง
สโรชา - เรื่องของรถเมล์ คุณสนธิได้คุยกับพี่เติมค่อนข้างละเอียด ในวันพุธที่ผ่านมา
สนธิ - พอสมควร
สโรชา - อันนั้น คือเรื่องหนึ่งที่จะต้องแก้ไข ที่จะต้องแสดงความกล้าหาญ
สนธิ - มันจะต้องแสดงความกล้าหาญในประเด็นหลักที่ว่า จะซื้อหรือจะเช่า หรือว่าไม่เอาทั้งซื้อและทั้งเช่า คราวที่แล้วผมเสนอคุณเติมศักดิ์ไปว่า พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย มีจุดยืนชัด ไม่ซื้อแล้วก็ไม่เช่า เพราะว่า การซื้อหรือการเช่านั้น เป็นมูลเหตุของการเริ่มต้นเพื่อที่จะทุจริตคอร์รัปชั่นฉ้อราษฎร์บังหลวง เมื่อกี้ผมฟังคุณสโรชาพูดก่อนที่จะเข้าสู่รายการ ว่าทางพรรคภูมิใจไทยแจกสมุดปกขาว
สโรชา - 1 ล้านเล่มค่ะคุณสนธิ
สนธิ - 1 ล้านเล่ม เล่มนึงตีซะเขาใช้ทุนพิมพ์ประมาณ 5 บาท หรือ 10 บาท เขาต้องใช้เงินถึง 10 ล้านบาท ผมมีความรู้สึกว่า ถ้าเราเอาสมุดปกขาวเขามาดูแล้ว ผมคิดว่า ข้อกล่าวอ้างว่าประชาชนจะได้อะไร เขาพูดแต่เฉพาะว่า ประชาชนจะได้บริการรถเมล์ที่ดีขึ้น ประชาชนจะได้ราคาเท่านี้ๆ แต่เขาลืมถามคำถามหนึ่ง ซึ่งหน้าที่พวกเราต้องถามคำถามให้กับประชาชนว่า สังคมจะเสียอะไรบ้าง ประชาชนได้ แต่ชาติบ้านเมืองจะต้องเสียเงินหลายหมื่นล้าน แล้วในหลายหมื่นล้านนั้นมีอยู่ส่วนหนึ่งไม่ต่ำกว่า 20-30 เปอร์เซ็นต์ คือเงินค่าคอร์รัปชั่นที่จะเกิดขึ้น เขามองแต่ว่าประชาชนจะได้อย่างไร แต่เขาไม่ได้มองว่า ชาติบ้านเมืองจะต้องพินาศฉิบหายไปเพราะภาษีอากรถูกโกงไปเท่าไหร่ เขาไม่พูดตรงนี้เลย
สโรชา - เรื่องสมุดปกขาวส่วนหนึ่งนะคะ แล้วก็บิลบอร์ดที่เขาขึ้นตามจุดใหญ่ๆ ในกรุงเทพฯ ลงทางด่วน ทางขึ้นรถเมล์อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ซอยรางน้ำ เขาขึ้นบิลบอร์ดแล้วบอกว่าประชาชนจะได้อะไรบ้าง 800 บาทต่อเดือนที่เขาว่า ที่แอ้มเป็นห่วงมากเลยก็คือว่า การพูดอย่างนี้ การตอกย้ำในสิ่งที่ประชาชนจะได้อะไร แต่ไม่มีใครพูด หรืออย่างน้อยที่สุดในฟรีทีวีไม่พูดว่าจะสูญเสียอะไรบ้าง แล้วเขาไปทำวอล์กพอร์บประชาชนเดินถนน ขึ้นรถเมล์ บอกว่าเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยกับโครงการนี้ โดยส่วนใหญ่แน่นอน เขาบอกว่า รถเมล์ดีขึ้น ทันสมัยขึ้น ค่ารถสำหรับบางคนถูกลง น่าเป็นห่วงมากค่ะคุณสนธิ
สนธิ - ก็เหมือนกับไปถามว่า ผมจะมีข้าวแบบใหม่มาให้คุณทาน มีวิตามินเพิ่มขึ้น ข้าวขาวขึ้น แล้วไม่ต้องใช้เวลาหุงนาน คุณเห็นด้วยไหม คุณก็ตอบว่าเห็นด้วย แต่ถ้าหากถามต่อไปว่า ที่มาของข้าว คุณไปกดขี่ชาวนาเขา แล้วคุณจ่ายเงินให้ชาวนาน้อย เสร็จเรียบร้อยแล้วคุณเก็บภาษีข้าวเพิ่มขึ้น คุณทำให้คนต้องซื้อข้าวแพงขึ้น หรือคุณไปทำให้ชาวนาเขาสูญเสียรายได้มากขึ้น เขาไม่ถามหมด คือเขาถามแค่ 50 เปอร์เซ็นต์ มันเป็นวิธีการประชาสัมพันธ์ที่ การเมืองเก่าๆ ชอบใช้แบบนี้ คือเอาแต่ว่างานที่จะทำให้ประชาชน ประชาชนจะได้อะไร แต่เขาไม่ยอมพูดว่า ต้นทุนที่เขาจะทำให้ประชาชนนั้น จริงๆ แล้วมันมากกว่าสิ่งที่ประชาชนจะได้ คือพูดง่ายๆ ว่า ถ้าเขาไม่โกง ถ้าโครงการนี้โปร่งใส มีธรรมาภิบาล
สโรชา - แน่นอนว่ามันต้องดี
สนธิ - แน่นอนมันต้องดี แล้วผมคิดว่าถ้าเขาไม่โกง โปร่งใส ผมคิดว่าราคารถเมล์ เขาไม่ต้องเช่าหรอก เขาซื้อ ผมคิดว่าไม่ถึง 10,000 ล้าน ซะด้วยซ้ำ 8,00-9,000 ล้านบาทเอง 8,000-9,000 ล้านบาท เทียบกับ 69,000 ล้านบาท หรือว่าถ้าเขาจะเช่าจริงๆ ผมตั้งคำถามอย่างนี้ดีกว่า ถ้าพรรคภูมิใจไทยมีความบริสุทธิ์ใจจริง ช่วยกรุณาเอาสัญญาต่างๆ มาแจกแจง แล้วเปิดประชาพิจารณ์ให้ฟังหน่อยได้ไหม ผมอยากจะทราบเหมือนกันว่า คำถามที่พรรคภูมิใจไทยต้องตอบ ผมว่าคำถามที่รัฐบาลนี้ต้องตอบดีกว่า เพราะผมถือว่าพรรคภูมิใจไทย
สโรชา - เป็นส่วนหนึ่งของรัฐบาล
สนธิ - เป็นส่วนหนึ่งของรัฐบาล คำถามที่เขาต้องตอบก็คือว่า 1. ทำไมการซ่อมบำรุงจะต้องเริ่มตั้งแต่วันแรก
สโรชา - เดย์วันเลย
สนธิ - เดย์วันเลย ทั้งๆ ที่รถเพิ่งเข้ามาใหม่ รถเพิ่งเข้ามาใหม่ พอวิ่งไป 1 กิโลต้องจ่าย 7.50 บาททันที ตอบตรงนี้ก่อน ทำไมต้องทำ อันที่ 2 ตอบหน่อยซิว่า การเช่า 10 ปี มีที่ไหน เขามีแต่เช่าตามค่าเสื่อมรถ ค่าเสื่อมรถเมื่อ 5 ปีมันหมดแล้ว มันก็ต้องหมดสัญญาที่ 5 ปี ก็ต้องเอาคันใหม่มา
สโรชา - รถใหม่มาให้
สนธิ - คนเช่าก็ต้องเอารถเก่ากลับไป หรือไปขายต่อใครก็ได้ ต้องเอารถใหม่มาแทน นี่เท่ากับว่า ตีค่าเช่ารถคันนึงแล้วก็บอกว่าให้จ่ายค่าเช่าไป 10 ปี แล้วก็ไม่มีระบุด้วยว่า เมื่อครบ 5 ปีจะเปลี่ยนรถให้หรือไม่ ก็คือ สิทธิของเขาเขายังมีสิทธิ์ที่จะใช้คันเดิมตั้งแต่ปีแรกมาใช้ปีที่ 9 ปีที่ 10 ซึ่งอาจจะเป็นซากรถ แล้วรัฐบาลต้องเสียค่าซ่อมเพิ่มเติม ตามสัญญาซ่อม เพราะฉะนั้นแล้วอันนี้เป็นความอัปลักษณ์ของโครงการ ของสัญญาที่เห็นได้ชัด ยังไม่นับต่อไปอีกว่า ราคาค่ารถเมล์ที่คุณตั้งไว้คุณตั้งราคาเท่าไหร่ ที่คุณบอกว่าเสียเดือนละ 800 บาท ผมถามคุณซิ 800 บาทของคุณ คุณการันตีใน 10 ปีหรือเปล่า
สโรชา - คือจะไม่มีวันขึ้นเลย
สนธิ - ไม่มีวันขึ้นเลย คุณตั้ง 800 บาท เพราะคุณต้องการตั้งเพื่อให้ประชาชนเห็น เฮ้ยมันถูก แต่พอประชาชนใช้ 800 บาทไปได้ 3 เดือน 6 เดือน แล้วคุณขึ้นเป็น 1,600 แล้วคุณจะว่าอย่างไร นี่โกหกอีกแล้ว โกหกหมดทุกจุด
สโรชา - หรือแม้กระทั่งรายได้ที่ ขสมก.จะได้
สนธิ - ถูกต้องครับ คือรายได้ที่ ขสมก.จะได้ ทำออกมาแล้ว เฉลี่ยแล้วรวมรายได้ ขสมก.จากกำไร 10 ปี เกือบแสนล้าน ผมว่าบ้าไปแล้วนะ
สโรชา - มีแต่คนตั้งคำถามว่าคุณเอาตัวเลขมาจากไหน
สนธิ - คุณเอาตัวเลขมาจากไหน พูดง่ายๆ ว่าเขาตั้งกำไรไว้ก่อน ตั้งว่าโครงการนี้เขาต้องการมีผลประโยชน์เท่าไหร่ ทั้งนักการเมืองเอย ทั้งอะไรก็ตาม แล้วเขาก็ทำตัวเลขจากกำไรย้อนหลังกลับมา อ๋อ ถ้าฉันจะมีค่าคอร์รัปชั่นประมาณหมื่นกว่าล้าน เท่านี้ๆ ย้อนกลับมา ค่าเช่ามันต้อง 69,000 ล้าน เขาเล่นแบบนี้ คุณคิดดู คุณสโรชา 69,000 ล้าน พอเขาบอกแพงไป คุณโสภณก็บอกว่า เหลือ 64,000
สโรชา - ลดหน้าตาเฉยเลย
สนธิ - คุณไปซื้อของแถวๆ คลองถมรึยังไง มาต่อรองราคาได้ หรือคุณไปซื้อของแถวจตุจักรหรืออย่างไร
สโรชา - เขาอ้างว่าเขาลดดอกเบี้ย
สนธิ - รู้สึกว่าเขาลดดอกเบี้ยได้ภายใน 1 วันนะ ทันทีเขายกหูโทรศัพท์ไปคุยกับทางแบงก์ แบงก์ยินดีลดดอกเบี้ยให้
สโรชา - ไม่ถึง 24 ชั่วโมง
สนธิ - ไม่ถึง 24 ชั่วโมง แล้วดอกเบี้ยที่เขาตั้งแต่แรก มันแพงกว่าดอกเบี้ยเงินกู้ทั่วไป บวกไปอีก 3.5 เปอร์เซ็นต์ มันแปลว่าอะไรงานนี้ เพราะฉะนั้นแล้ว ผมกลับมองว่า ถ้าคุณโสภณ ซารัมย์ หรือคุณเนวิน ชิดชอบ ซึ่งอยู่เบื้องหลังทั้งหมด หรือว่าพรรคภูมิใจไทย เห็นว่าโครงการรถเมล์กำไรมันดี มันมีกำไร หน้าที่รัฐบาลควรจะพัฒนาให้ ขสมก.เป็นผู้ควบกุมกำกับดูแล ก็แจกสัมปทานไปซิ ก็กำไรนี่ คุณก็ให้เอกชนมาทำซิ เมื่อคุณให้เอกชนมาทำ คุณก็ตั้งคณะกรรมการควบคุมดูแลราคาค่าโดยสาร ตลอดจนควบคุมดูแลคุณภาพการบริการ คุณภาพรถยนต์ แล้วคุณบอก ถ้าคุณกำไรเท่านี้คุณต้องปันผลให้ ขสมก. 40 เปอร์เซ็นต์ 30 เปอร์เซ็นต์ ก็ว่าไปซิ รัฐบาลไม่ต้องลงทุน เอกชนพร้อมจะลงทุนเต็มที่ แล้วหากเอกชนคิดราคาแพง เรามีตัวมาตรฐานไว้แล้ว ห้ามคิดราคาเกินกว่าเท่านี้
สโรชา - ขอแค่เข้าไปควบคุมดูแลคุณภาพ
สนธิ - ถูกต้อง ขสมก.นั่งเฉยๆก็ได้เงินเข้ามา แต่ทำไมถึงไม่ทำละ ที่ไม่ทำเพราะต้องการให้เช่า ผลประโยชน์มันอยู่ที่การเช่า แล้วพอรัฐบาลชุดนี้โดยนายกฯ อภิสิทธิ์ บอกว่าซื้อ คุณโสภณ ออกมาตะหวาดเลยบอกว่า ไม่ซื้อ ต้องเช่าอย่างเดียว แปลว่าอะไร เป็นไปได้ เพราะว่ามีการวางมัดจำเงินไว้แล้ว ไม่อย่างนั้นรถมันไม่เข้ามาหรอก ไม่อย่างนั้นไม่โวยวาย คือจะเป็นจะตายให้ได้ จะต้องมีคนบางคนหรือกลุ่มบางกลุ่มได้รับเงินไปแล้วบางก้อน เปิดแอลซีไปแล้ว รถเริ่มเข้ามาแล้ว เพราะฉะนั้นถ้าไม่เช่าเงินก้อนนี้สูญหายไป เพราะฉะนั้นเเล้วผมถึงบอกว่า โครงการนี้เป็นมหากาพย์ที่ไม่ได้ด้อยไปกว่าสนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งอยู่ภายใต้การควบคุมดูแลของกระทรวงคมนาคม คุณโสภณ ซารัมย์ และก็อยู่ภายใต้พรรคภูมิใจไทย เช่นกัน
สโรชา - เพราะฉะนั้นผู้นำประเทศในภาวะแบบนี้ ต้องมีความกล้าหาญ
สนธิ - ผมคิดว่าผม เคยพูดตลอดว่าผมเห็นใจท่านายกฯ อภิสิทธิ์ แต่เรื่องนี้ผมไม่เห็นใจท่าน เรื่องนี้ผมต้องขอร้องท่านเลย คือการเมืองเก่า เหลือคุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อยู่เพียงคนเดียวเท่านั้นเอง ที่พอจะแบกปัญหาต่างๆได้ พอที่จะทำให้พวกเรากล้ำกลืน อดทน ขมขื่ม กับความอัปลักษณ์ ความสกปรก โสมม แล้วเราไปมองหน้าคุณอภิสิทธิ์ แล้วบอกว่า พอจะทำใจได้ แต่ยิ่งวัน กระบวนการคอร์รัปชั่น ฉ้อราษฎร์บังหลวง โกงชาติ โกงบ้านเมือง ยิ่งวันยิ่งมากขึ้น จนกระทั่งผมชักไม่แน่ใจว่า ท่านนายกฯ อภิสิทธิ์ ท่านจะแบกได้นานแค่ไหนผมเตือนอย่างนะครับ การเมืองเก่าถ้าหมดนายกฯ อภิสิทธิ์ ไปแล้ว ไม่มีตัวอีกแล้วนะ พังทลายหมดเลย เพราะฉะนั้นแล้วผมกำลังอยากจะเรียนว่า ผมเคยเรียนให้ท่านทราบมาหลายครั้ง ว่าการเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อยไม่ได้เสียหายอะไร แต่ว่าบางคนที่พรรคประชาธิปัตย์เขาบอกว่า นี่มันเป็นเกมการเมือง เรายังมีงบประมาณที่ต้องผ่านวาระ เรามีพระราชกำหนดของเงินกู้อีก 8 แสนล้านที่ต้องผ่าน เราต้องพึ่งพาให้เขายกมือ คำถามผมมีว่า ถ้าคุณจะเล่นเกมนี้กับเขา คำถามมีอยู่ว่า เขาไม่รู้หรือ
สโรชา - อย่างนั้นเป็นไปได้หรือจะไม่รู้
สนธิ - เขาก็รู้ แต่ว่าสมมติมาบอกว่า ขอให้ผ่านงบประมาณไปก่อน แล้วขอให้สภาพัฒน์เอาตรายางประทับให้แล้วผมจะหลับหูหลับตาผ่านให้ ด้วยเหตุที่ว่าเนื่องจากเป็นเรื่องที่สภาพัฒน์อนุมัติ ก็ไม่ถูกอีกเช่นกัน ในขณะเดียวกันถ้าจะรอให้ประชาชนออกมาโวยวายกันเต็มที่ แล้วก็พึ่งกระแสประชาชนเพื่อเอามาเป็นข้ออ้างในการตัดสินใจก็ไม่ถูกต้องเช่นกันในชีวิตของการเป็นผู้นำ หรือในชีวิตของการเป็นรัฐบาลนั้น มีบางครั้งที่ไม่ต้องตัดสินใจ มีบางเรื่องที่รอได้ แต่บางเรื่องไม่ต้องรอ ไม่ต้องพิสูจน์ ไม่ต้องส่งไปให้ใครตรวจสอบอะไรอีก นี่คือสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้น นี่คือสิ่งที่ผิด นี่คือสิ่งที่ประเทศชาติเสียประโยชน์ ไม่จำเป็นต้องใช้คนที่จบดอกเตอร์ หรือจบวิชาการที่เก่ง ดูเฉยๆก็รู้แล้วว่าโครงการนี้มีความไม่โปร่งใส มีการคดโกงกัน หมื่นกว่าล้าน แล้วยังคดโกงต่อเนื่องไปเรื่องค่าซ่อม ค่าแก๊สเอ็นจีวี แต่เท่าที่ผมทราบในสัญญานั้น เอ็นจีวีจะขายแก๊สให้ในราคาลิตรละ สมมติว่า 5 บาท ในระยะเวลาไม่กี่ปี หลังจากนั้นก็ขึ้นไปอีกเท่านี้ ตัวนี้ไม่เคยเปิดออกมา อีกเด้ง แก๊สอีกเด้งหนึ่ง ค่าซ่อมบำรุงอีกเด้งหนึ่ง ค่าขายรถเก่าอีก 3,500 คัน อีกเด้งหนึ่ง ขายให้ใครราคาเท่าไหร่ ไม่มีใครพูดถึง เพราะฉะนั้นแล้วนี่คือกระบวนการโกงกินกันทุกขั้นตอน คนที่ฉิบหายคือชาติบ้านเมือง มันต้องถึงเวลาแล้วที่มันต้องเลิกได้แล้ว การเมืองเก่าเน่าๆแบบนี้ เลวทรามต่ำช้าแบบนี้ ต้องเลิก แล้วคุณอภิสิทธิ์ เป็นคนดีเกินไปที่จะมาหลับตาข้างหนึ่ง แล้วก็ยอมกับเรื่องพวกนี้
สโรชา - คือเป็นเรื่องนี้ ประเด็นนี้ ประเด็นแบบนี้ที่ต้องกล้าทุบโต๊ะ แล้วบอกว่า มันเป็นโครงการทุจริต ผมไม่สามารถทำได้
สนธิ - ต้องทุบโต๊ะเลย บอกว่าโครงการนี้ไม่เอาได้ไหม ในขณะนี้รถเมล์ใน กทม.มีประมาณ 3,500 - 3,800 คัน ถ้าหากมันมีกำไรอย่างที่ ขสมก.เขาพูด เขาปั้นตัวเลขมา ถ้าเรายึดข้อมูลของเขาถูกต้อง ทำไมเราไม่ถามเขากลับว่าถ้าอย่างนั้นทำไมต้องให้รัฐบาล หรือ ครม.เอาเงินมาจ่าย ก็ให้เอกชนเขาทำไปซิ ถ้าคุณคิดได้เดือนละ 800 คุณอยู่ได้เดือนละ 800 คุณก็บอกเอกชนซิ 800 บาทห้ามเกินเท่านี้ ถ้าเอกชนเขาบอก 800 บาท ผมทำไม่ได้ ก็แสดงว่าตัวเลขคุณโกหก คุณโกหกมาเพียงเพื่อให้มีผลในทางประชาสัมพันธ์เพื่อให้ประชาชนหลงเชื่อให้ดูดี เพราะฉะนั้นแล้วโครงการนี้ถ้าผ่านไปเมื่อไหร่ เหมือนกับที่คุณพี่เปลว สีเงิน ของผมที่ไทยโพสต์ คุณอภิสิทธิ์ แบกต่อไปไม่ได้แล้ว แล้วมันจะกระทบกระเทือนไปจนถึงชื่อเสียงของพรรคประชาธิปัตย์ แล้วจะไม่มีวันได้ผุดได้เกิดอีกต่อไป
สโรชา - นี่เป็นเวลาที่ทดสอบพรรคประชาธิปัตย์เลยนะคะ
สนธิ - นายกฯ ท่านแบกไม่ได้หรอก ท่านนายกฯ อาจจะมีความเชื่อมั่นว่าท่าน ประชาชนรักท่าน แต่รักแค่ไหนก็ตาม 69,000 ล้าน กับค่าคอร์รัปชั่นประมาณเกือบ 20,000 ล้าน ผมรักให้ไม่ได้แล้วจากนี้ไป
สโรชา - รักไม่ลง คุณสนธิคะ พูดถึงเรื่องพรรคภูมิใจไทยแล้ว ไม่พูดถึงเรื่องการเลือกตั้งซ่อมไม่ได้ การเลือกตั้งซ่อมศรีสะเกษ สกลนคร ที่เขาออกมาชนกันจังๆ เลยระหว่างเพื่อไทย กับภูมิใจไทย ว่าจะกวาดอีสาน และถ้าเกิดการเลือกตั้งซ่อม ภูมิใจไทยได้ขึ้นมา ทำนบแตก เพื่อไทยไหลออกมาอยู่ภูมิใจไทยหมด แลเวภูมิไใจไทยจะกลายเป็นพลังประชาชน ไทยรักไทยเดิม ขึ้นมายิ่งใหญ่อีกครั้ง
สนธิ - คือผมไม่อยากให้มองเฉพาะศรีสะเกษ และสกลนคร คุณสโรชา ผมอยากให้มองภาพรวม เราจะได้เข้าใจ ในขณะนี้สังคมไทยกำลังมีปัญหา ที่มีปัญหาเพราะว่ามีกลุ่มการเมืองกลุ่มหนึ่ง 400 คนที่เป็น ส.ส. และอีก 100 คนที่เป็นบัญชีรายชื่อ 500 คน ไปคิดว่าตัวเองนั้นคือเจ้าของประเทศไทย เหตุผลที่คิดว่าตัวเองเป็นเจ้าของประเทศไทย เพราะว่าคิดว่าตัวเองเป็น ส.ส.ได้รับการเลือกตั้งมา แล้วก็มายกมือในสภาฯ เพราะฉะนั้นแล้วจะมาด้วยวิธีไหนเขาไม่สนใจ เขาเล่นการเมืองในสภา เมื่อเล่นการเมืองในสภาเขาเล่นกันอย่างน้ำเน่าอย่างไหร คุณไม่มีสิทธิ์
เหมือนกับการที่แก้รัฐธรรมนูญครั้งนี้ การแก้รัฐธรรมนูญครั้งนี้เขาบอกว่า ส.ว.จะต้องมาจากการเลือกตั้งหมด 100 เปอร์เซ็นต์ ก็เท่ากับย้อนหลังกลับไปสู่ยุคของทักษิณ ชินวัตร กลับไปอย่างไร ก็คือว่า เมื่อ ส.ว.เลือกตั้ง 100 เปอร์เซ็นต์แล้ว ฐานเสียงของ ส.ส. ลูกของ ส.ส. เมียของ ส.ส. พ่อแม่ ส.ส. มาลงเป็น ส.ว. ก็เป็นพวกเขาไป เสร็จเรียบร้อยแล้ว เมื่อได้ ส.ว.ที่ไม่มีคุณภาพ ได้ ส.ว.ซึ่งเป็นคนของพรรคการเมือง ในที่สุดแล้วก็มีการใช้การครอบงำ ส.ว. เพราะ ส.ว.คืออะไร ส.ว.คือที่มาของการเลือก ป.ป.ช. องค์กรอิสระ กกต. ศาลรัฐธรรมนูญ ย้อนยุคกลับไปปี 2544
สโรชา - มันมีปัญหาเพราะตรงนี้แหละ
สนธิ - มีปัญหาก็เพราะตรงนี้แหละ เพราะฉะนั้นแล้ว ส.ว. นี่คือกลุ่มคนที่เล่นการเมือง ที่หลงเข้าใจผิดว่าเขาเป็นเจ้าของประเทศไทย เขาเป็นเจ้าของประเทศไทย ผมพอใจจะแก้กฎหมาย ผมพอใจจะทำอย่างนี้ เพื่อให้ผมสืบทอดอำนาจต่อเนื่องจากตัวผมไปที่เมียผม ไปที่ลูกผม จากพ่อผมมาถึงตัวผมไปเรื่อยๆ ไปที่เพื่อนผม แล้วพวกผมก็จับมือกันเพื่อมากินรถเมล์ 69,000 ล้าน สนามบินรันเวย์ที่ 3 ของสุวรรณภูมิ อีก 75,000 ล้าน ถนนไร้ฝุ่น อีกกี่หมื่นล้าน อันโน้นอันนี้ เบ็ดเสร็จงบประมาณแผ่นดิน 1,800,000 ล้านบาท 10 เปอร์เซ็นต์คือ 180,000 ล้าน หรือว่า 15 เปอร์เซ็นต์ 270,000 ล้าน เอามาจัดสรรปันส่วนเข้ากระเป๋าพวกนักการเมืองทั้งหลาย เพื่อที่จะเอาเงินก้อนนี้กลับไปซื้อเสียงอีกครั้งหนึ่ง กลับไปซื้อเสียงเพื่อเอาเข้ามา เพื่อกินงบประมาณต่อไป
สโรชา - เป็นวงจรอุบาทว์
สนธิ - ผมถามคุณสโรชา แล้วถามท่านผู้ชมที่บ้าน แล้วประเทศไทยจะยืนอยู่ที่ไหน ไม่ได้มันต้องจบสิ้นเสียที การเมืองเส็งเคร็ง การเมืองไม่โปร่งใส และการเมืองที่ทำลายชาติทำลายบ้านทำลายเมืองแบบนี้ต้องหยุดได้แล้ว ไม่หยุดไม่ได้ เพราะว่าลูกหลานจะไม่มีที่ยืนอีกต่อไปในอนาคต เมื่อคราวที่แล้วผมคุยกับคุณเติมศักดิ์ ผมบอกว่ามันเป็นไปได้อย่างไรเด็กจบปริญญาตรีมาเงินเดือน 8,000 บาท จ่ายค่าเช่าห้อง จ่ายค่าน้ำค่าไฟ จ่ายค่าเดินทาง เสร็จเรียบร้อยแล้ว มีข้าวให้กินแค่วันละ 2 มื้อ แล้วเด็กพวกนี้จะตั้งตัวได้อย่างไร มันไม่ได้ เพราะต้นทุนในแผ่นดินมันสูงขึ้นมาหมด ที่บอกว่าค่ารถเมล์เดือนละ 800 บาท เขาบอกว่าเดือนละ 800 บาท แต่ตัวเลขที่เขาส่งให้สภาพัฒน์ กำไรไม่ใช่ 800 แล้วคุณมาตั้ง 800 ได้อย่างไร ก็เพราะว่าคุณบอกกำไร ไม่ใช่ 800 ถ้าคุณตั้ง 800 แสดงว่าขาดทุน เขายิ่งพูดเขายิ่งขัดแย้งกันเอง ถ้าคุณเอาสมุดปกขาวที่เขาแจกมาฉีกเป็นชิ้นๆ จะเห็นว่าเขาโกหกทุกตัว บางทีเขาพูดแต่ข้อดีเขาไม่ได้พูดข้อเสีย เราก็เติมข้อเสีย แล้วตรงนี้คุณพูดว่าอย่างไร ผมยอมไม่ได้เรื่องนี้ แล้วผมไม่อยากให้ประชาชนคนไทยยอม ผมไม่อยากให้พรรคประชาธิปัตย์ยอม ผมไม่อยากให้ท่านนายกฯ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ยอม ผมไม่ต้องการให้ยอม แล้วผมไม่อยากให้พี่น้องชาวใต้ที่ยังเชียร์พรรคประชาธิปัตย์อยู่ ยอม ต้องไม่ยอมเรื่องนี้ ยอมไม่ได้เด็ดขาด เพราะนี่คือการปล้นกลางแดด นี่คือขบวนการไอ้เสืออาวา คาดผ้าประเจียดสักยันต์ ถือมีดดาบ 2 เล่ม กระโดดไปบอก กู้จะมาปล้นแล้วนะ ปล้นกันซึ่งๆ หน้า
สโรชา - แล้วไม่มีใครทำอะไร
สนธิ - ไม่มีใครทำอะไร แล้วทุกคนก็เงียบ ทุกคนหวังว่าจะอยู่ในรัฐบาลต่อเนื่องไป ทุกคนหวังว่าขอให้เขายกมือผ่าน พ.ร.ก. ทุกคนหวังว่า ขอให้ผ่านงบประมาณ แล้วค่อยมาว่ากันใหม่ เอาชาติบ้านเมืองมาเป็นตัวประกัน เอาประชาชนมาเป็นเครื่องต่อรอง เรื่องนี้ผมยอมให้ไม่ได้เด็ดขาด แล้วผมเป็นห่วง ผมไม่คิดว่าท่านนายกฯ อภิสิทธิ์ ท่านจะแบกเรื่องนี้ได้นานแค่ไหน
สโรชา - มีคนที่เขาเฝ้าติดตามสถานการณ์ เขามีความหวัง ถ้าสมมุติว่า อย่างที่ประชาธิปัตย์อาจจะหวังอยู่เงียบๆ ผ่านงบประมาณไปแล้ว ผ่าน พ.ร.ก.กู้เงิน เรียบร้อยแล้ว ยุบสภา ไปเลือกตั้ง
สนธิ - ก็สุดแล้วแต่ แต่มันไม่ถูกต้อง
สโรชา - แล้วรถเมล์ก็ค้างเต่อต่อไปอย่างที่ค้างมาตั้งหลายปี
สนธิ - ถ้าเขาทำเช่นนั้นมันก็พอกล้ำกลืนรับได้ แต่มันจะเสีย มันจะเสียตรงที่ว่า ท่านนายกฯ ไม่กล้ายืนอยู่บนความถูกต้อง
สโรชา - ต้องออกมาฟันธง
สนธิ - ยืดปัญหาออกไป ไม่ได้ ท่านมีความจำเป็น ยิ่งท่านเป็นคนหนุ่ม อายุท่านยังน้อย 40 กว่า เขาดูถูกท่านว่า ท่านเป็นเด็กน้อย ท่านยิ่งต้องแสดงความเด็ดขาดให้คนเห็น ท่านไปแสดงความเด็ดขาดในเรื่องของการจำนำข้าว 1 ครั้งใน ครม. แต่มาตอนหลังท่านก็ต้องยอมเขาอีก ท่านก็ยอม เพิ่มโควต้าจำนำข้าวอีกครั้ง แล้วบอกว่าเป็นครั้งสุดท้ายนะ นี่มันเรื่องผลประโยชน์ชาติบ้านเมือง จะมาทอนสตางค์กันใน ครม.ไม่ได้หรอก ผมถึงบอกคุณสโรชาว่า ปัญหาใหญ่ของบ้านเมืองเราในขณะนี้คือ คุณสโรชาถามผมว่า ปัญหาบ้านเมืองเยอะไหม มหาศาล ไม่ใช่เรื่องจริยธรรมอย่างเดียว ไม่ใช่เรื่องคุณธรรมอย่างเดียว ปัญหาเศรษฐกิจเราเดินมาถูกทางหรือเปล่า เป็นข้อถกเถียงกันมาก ปัญหาพลังงาน เมื่อไหร่ถึงจะเข้าไปสู่หัวใจกันแก้ไขปัญหาพลังงานซะที ปัญหาต่อไป ปัญหาเกษตรกรรม เราจะแก้ปัญหาทางใต้ ทั้งหมดมันแก้ได้ ขอให้ตั้งนะโมไว้ก่อน ต้องตั้งนะโมเอาไว้เลย ว่าทำอะไรก็ตามเอาส่วนรวมเป็นตัวตั้ง เอาชาติบ้านเมืองเป็นตัวตั้ง เอาชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เป็นตัวตั้ง เอาเรื่องส่วนตัวทิ้งไป ถ้าเอาส่วนรวม เอาชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์เป็นตัวตั้ง แก้ได้หมดทุกเรื่อง ปัญหาข้าวก็แก้ได้ ปัญหารถเมล์ก็แก้ได้
สโรชา - ปัญหาภาคใต้
สนธิ - ปัญหาพลังงานก็แก้ได้ ปัญหาภาคใต้ก็แก้ได้ เอาส่วนรวมเป็นตัวตั้ง เพราะฉะนั้นแล้วปัญหาใหญ่ที่สุดในขณะนี้คือ นักการเมืองเมืองไทยในยุคการเมืองเก่า เป็นนักการเมืองที่เห็นแก่ตัว ผูกติดกับกลุ่มทุนมาตั้งนาน ถูกกลุ่มทุนครอบงำ ถูกผลประโยชน์ของการเมืองที่หวังจะทำกำไรจากการเมือง เอาเงินก้อนนี้ไปลงทุนทางการเมืองเพื่อกลับมามีอำนาจอีกครั้งหนึ่ง วันนี้คุณทักษิณไม่อยู่ก็เหมือนอยู่ ไม่ได้ต่างอะไรกัน คุณทักษิณจะมีข้อพิเศษกว่าคนอื่น ตรงที่ว่า คุณทักษิณสามารถจะสร้างผลประโยชน์ทับซ้อนทางนโยบายได้
สโรชา - เป็นคอร์รัปชั่นเชิงนโยบายไป
สนธิ - เป็นคอร์รัปชั่นเชิงนโยบายไป ทำไมคุณทักษิณทำได้ เพราะคุณทักษิณเพราะคุณทักษิณมีธุรกิจมารองรับ มี AIS มารองรับ มีชินคอร์ปมารองรับ มีชินแซทฯ โทรทัศน์ไอทีวี ดาวเทียมไทยคม มารองรับ เพราะฉะนั้นคุณทักษิณ ก็ใช้นโยบายในการแก้กฎหมาย สร้างกฎระเบียบข้อบังคับ เพื่อให้ธุรกิจตนเองได้เปรียบ แต่พอมายุคนี้คุณทักษิณ ไม่อยู่ ชินคอร์ปกลายไปเป็นของเทมาเส็ก ส่วนกลุ่มพรรคการเมืองที่มีอยู่ในปัจจุบัน ไม่มีใครมีฐานธุรกิจเหมือนคุณทักษิณ ก็จะไม่เข้าไปสู่การสร้างนโยบายเพื่อเป็นผลประโยชน์ทับซ้อน แต่จะกินเงินจากโครงการ ทีนี้กินเงินจากโครงการก็ต้องคิดโครงการใหญ่ๆขึ้นมา
สโรชา - สารพัดโครงการ
สนธิ - โครงการใหญ่ๆ เป็นหมื่นล้าน หลากหลายชนิด โดยตั้งเป้าว่าจะต้องโกงเท่านี่ก่อน แล้วทำตัวเลขจากสุดท้ายที่โกง ย้อนกลับมาต้นทุนโครงการ ว่ามันต้องเท่าไหร่ถึงจะโกงได้เท่านี้ ในกรณีของคุณทักษิณ ระบอบของคุณทักษิณ เอาหมดทุกอย่าง รวมไปถึงนโยบายที่เป็นผลประโยชน์ทับซ้อน แต่อย่างที่ผมบอก ยุคนี้ธุรกิจแบบคุณทักษิณ ไม่มีใครมีแล้ว คนพวกนี้ที่มาแทนคุณทักษิณ ก็คิดแบบคุณทักษิณ แล้วเผอิญมีกลุ่มทุนอยู่เบื้องหลัง บางคนก็มีกลุ่มโทรคมนาคมอยู่เบื้องหลัง ก็ได้ผลประโยชน์กัน กลุ่มเกษตรอยู่เบื้องหลัง กลุ่มข้าวอยู่เบื้องหลัง ทุกคนร่ำรวยกันหมด แต่คนที่จน และไม่มีวันได้โงหัวขึ้นคือประชาชน และที่คนทำมาหากินที่เป็นลูกจ้างเขา
สโรชา - ประชาชนคนธรรมดาที่เดินขึ้น-ลงรถเมล์อยู่
สนธิ - หรือคนขับรถยนต์ชนชั้นกลาง ไม่ได้อะไรเลย มีแต่แพงขึ้น น้ำมันที่แพงขึ้น เครื่องบินที่การบินไทยจะเจ๊งเพราะอะไร เพราะว่าโกงกินมาตลอด แล้วพอผลประโยชน์มีปัญหาขึ้นมา ลำบากขึ้นมา คนที่ลำบาก็คือพนักงานการบินไทย จากสมัยก่อนซึ่งเคยบิน เดือนหนึ่งประมาณ 4 - 5 ไฟลต์ เดี๋ยวนี้เดือนหนึ่งบิน 2 ไฟลต์ ลดไปครึ่งหนึ่ง รายได้เขาที่เคยได้เดือนละ 100 บาท วันนี้เขาได้แค่ 40 บาท ความผิดของเขาเหรอ ไม่ใช่ความผิดของเขา เป็นความผิดของการบริหารงาน เป็นความผิดของนักการเมืองที่คอร์รัปชั่น สิ่งต่างๆ สั่งซื้อเครื่องบินแพงจนเกินไป แพงจนกระทั่งเงินทองไม่มี ไม่สามารถจะรับมอบเครื่องบินได้ ต้องเลื่อนไป ก็เพราะว่าสั่งซื้อเครื่องบินมาโดยไม่จำเป็นต้องสั่งซื้อ แล้วทำไมต้องสั่งซื้อ ก็เพราะว่าได้รับเงินค่าคอมมิชชั่นเครื่องบิน
นี่ไงคุณแอ้ม ต้องหยุดได้แล้ว ประเทศไทยมันต้องหยุดได้แล้ว มันเดินหน้าต่อไปอย่างนี้ไม่ได้ มันฉิบหายหมด เพราะว่าสังคมไทย พอมันฉิบหายแล้ว ชาติมันฉิบหาย สถาบันกษัตริย์ก็พังด้วย พรรคภูมิใจไทยเข้ามา คุณเนวินเข้ามา ก็ไปว่าคุณทักษิณว่าคุณทักษิณไปจาบจ้วงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ไปหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ คุณทักษิณใช้ไม่ได้ พรรคภูมิใจไทยเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ แต่ผมจะบอกให้การเทิดทูนสถาบันกษัตริย์ แต่ถ้าตัวเองนั้นไม่มีคุณธรรม จริยธรรม ไม่มีความซื่อสัตย์ ไม่เสียสละต่อชาติบ้านเมือง ในที่สุดแล้วเสาบ้านมันก็ผุกร่อน แล้วมันก็ต้องล่ม เมื่อล่มแล้วสถาบันกษัตริย์ก็ย่อมอยู่ไม่ได้เช่นกัน
สโรชา - คุณสนธิ คะ แอ้มเคยคุยกับหลายคน แล้วเขาแสดงความคิดเห็นใกล้เคียงกัน บอกว่าคนไทย สังคมไทย ความจำสั้น เวลาเราเห็นทุจริต คอร์รัปชั่น เอาละ บางครั้งตรวจสอบไปแล้ว พบมูลความผิด ถึงเวลาก็ไล่ออก แต่ไม่ดำเนินคดี อย่างการบินไทย ใครสั่ง ใครเป็นคนเซ็นอนุมัติ บอร์ดถึงเวลาก็ไป แล้วก็ทิ้งปัญหาไว้ เป็นอย่างนี้ในหลายๆองค์กร รวมทั้งรัฐบาลในภาพรวมด้วย ว่าทำความผิดแล้วก็ออกไป ปัญหายังอยู่ แล้วก็เน่าเฟะกันต่อไป ปัญหาภาพใต้เป็นอีกปัญหาหนึ่ง ว่าเจ้าหน้าที่ทำความผิดแล้ว ถึงแม้จะมีการชี้มูล แต่ไม่ไปดำเนินคดี ไม่ไปสร้างมาตรฐานใหม่ ให้เกิดจริยธรรมขึ้น อย่างนี้เราต้องกลับไปแก้ปัญหาเก่าๆ กลับไปดำเนินการกับคนผิดๆ กลับไปดูแลตรงนี้มากน้อยขนาดไหน
สนธิ - คือปัญหาภาคใต้เป็นกรณีพิเศษที่ต้องพูดกันรู้เรื่อง ปัญหาภาคใต้มันมีคนอยู่ 2 ฝ่าย ฝ่ายหนึ่งก็คือฝ่ายที่ผมเรียกว่า ผู้ก่อการร้าย เป็นปากกาด้ามนี้ อีกฝ่ายคือฝ่ายประชาชน ประชาชนมี 2 พวก พวกหนึ่งก็คือที่ผมเรียกว่า พวกมลายูมุสลิม พวกหนึ่งคือพวกไทยมุสลิม มลายูมุสลิมเขาอยู่มานานแล้ว ตั้งแต่สมัยเป็นรัฐปัตตานี ร้อยกว่าปี เกือบสองร้อยกว่าปี ซึ่งเราไปรบชนะเขา แล้วเราก็ยึดเขามา พวกมลายูมุสลิมอยู่ตรงนี้ ไทยมุสลิม คือคนซึ่งพูดภาษาไทย แต่นับถือศาสนามุสลิม มลายูมุสลิมเขาจะพูดภาษายาวี แล้วเขาก็จะมีโรงเรียนสอนศาสนาของเขา เขาจะมีวิถีชีวิตของเขา แล้วเราก็มีข้าราชการของเรา เอาตีว่าเป็นกระดาษแผ่นนี้ คือพวกที่ต้องเข้ามาดูแลทุกๆฝ่าย
ทีนี้ ปัญหาภาคใต้มันเปิดขึ้นในอดีต เพราะว่ามันมีผลประโยชน์ของคนท้องถิ่น ผสมกับข้าราชการที่ไม่ซื่อสัตย์สุจริต ทำมาหากินกัน แล้วก็ไปรังแกชาวมุสลิม เมื่อรังแกเขาได้ถึงจุดๆหนึ่งแล้ว ก็เริ่มมีคนฮึดสู้ขึ้นมา นั่นคือกระบวนการโจรก่อการร้าย ตั้งแต่สมัยโบร่ำโบราณ พัฒนามาเรื่อยๆ สมัยก่อนมันยังไม่มีอัลกออิดะห์ ยังไม่มีอุซามะห์ บิน ลาดิน ยังไม่มีเจมาห์อิสลามิยาห์ ไม่มี ยังไม่มีวาดะห์ ไม่มีอะไรทั้งสิ้น เพราะฉะนั้นแล้วมันเลยเป็นเรื่องโจรพูโล โจรภูเขา ขึ้นไปอยู่เทือกเขา วันดีคืนดีมาเรียกค่าคุ้มครอง จนกระทั่งโลกเริ่มพัฒนาไป ความขัดแย้งระหว่างกลุ่มมุสลิมกับกลุ่มทางตะวันตกรุนแรงมากขึ้น จนกระทั่งถึงกับจับอาวุธก่อการร้าย ต่อสู้กัน อเมริกาบุกอัฟกานิสถาน อเมริกาบุกอิรัก การพัฒนาการต่อสู้นั้นมันเริ่มลึกซึ้งมากขึ้น มันเริ่มมีอุดมการณ์ของสงครามศาสนา สงครามจีฮัด มาเรื่อยๆ เริ่มมีการส่งนักศึกษาจากเมืองไทยไปเรียนที่ปากีสถาน โรงเรียนปากีสถาน คือโรงเรียนสอนศาสนาที่เข้มงวดมาก โดยนัยแล้วคือการสอนศาสนา แต่ในที่ที่เป็นโรงเรียนสอนศาสนานั้นมักจะถูกแทรกซึมด้วยอาจารย์สอนศาสนา ซึ่งเขาจะไม่ได้เป็นผู้ก่อการร้าย แต่เขายึดหลักมุสลิมแบบจารีต ก็คือเป็นมุสลิมซึ่งบอกว่า ถ้าจะตาย ถ้าตายเพื่อพระเจ้าแล้วตายไปเถอะ ตายแล้วขึ้นสวรรค์ แล้วอเมริกาคือปีศาจร้าย ของพวกนี้ซึมซับกลับมา คนพวกนี้กลับมาทางนี้
สโรชา - เรียนหนังสือจบกลับมา
สนธิ - กลับมา ในขณะเดียวกัน การกระทำอะไรของรัฐก็ไม่ได้รับการแก้ไข ถ้าหากไปจับใครขึ้นมา ซ้อมเขาจนตายก็ไม่มีการดำเนินคดีกับตำรวจ หรือทหาร มีการซ้อมโต๊ะอิหม่ามคนหนึ่งตายในค่ายทหาร ก็ไม่มีการดำเนินคดี คุณสมชาย นีละไพจิตร ทนายความมุสลิม ถูกฆ่าตาย ทั้งๆ ที่รู้ว่าเป็นฝีมือของคนในเครื่องแบบ ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น กรือเซะ ตากใบ ไปเรื่อยๆ ทีนี้ปัญหามันเกิดตรงไหน มันเกิดขึ้นตรงที่ว่า พวกที่หัวรุนแรงก็อยากให้เกิดเรื่องพวกนี้ เพราะเขารู้ว่าเมื่อเกิดเรื่องพวกนี้แล้ว ไทยมุสลิมซึ่งเป็นคนรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ รักพระเจ้าอยู่หัวฯ เหมือนกัน จะมีความรู้สึกไม่พอใจกับเจ้าหน้าที่ แต่เขาไม่พูด แล้วจะเริ่มไม่พอใจมากขึ้นๆ ส่วนพวกมุสลิม พวกมาลายูมุสลิม อย่างไรเขาก็ไม่พอใจอยู่แล้ว ปัญหาคือ เราจะทำอย่างไรที่เราจะรักษาน้ำใจไทยมุสลิมเอาไว้ได้ เพราะไทยมุสลิมนอกจาก 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้แล้วยังมีข้างนอกอีก แถวอยุธยา แถวเชียงราย แถวนครนายก เหมือนกับคุณวินัย หรือคุณอนุชา แฮมเมอร์ ก็เป็นไทยมุสลิมที่อยู่นครนายก เขาก็ต้องย่อมเห็นใจพ่อแม่พี่น้องชาวมุสลิม ตรงนี้ต่างหากเป็นโจทย์ที่สำคัญว่าเราจะแก้อย่างไรเพื่อไม่ให้กลุ่มไทยมุสลิมเขามีความรู้สึกว่าคนศาสนาเดียวกับเขาไม่ได้รับความเป็นธรรม ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับคนของเขา ต้องให้ความเป็นธรรม ตรงนี้ต่างหาก
คุณจำได้ไหม วันที่คุณสุรยุทธ์ จุลานนท์ ได้นายกฯ ครั้งแรก ลงไปภาคใต้ไปขอโทษ ไปขอโทษเขาในที่ประชุม ในเรื่องของกรือเซะและตากใบ แต่ว่าคำขอโทษอย่างเดียวมันไม่พอ จนวันนี้ยังจับคนที่ฆ่าคุณสมชาย นีละไพจิตร ไม่ได้ จนวันนี้ยังมีหลายคดีซึ่งตำรวจเคยจับพวกชาวมุสลิมมา เอามาซ้อม ปัสสาวะใส่ปากเขา เอาเหล้ากรอกปากเขา จนกระทั่งเขาไปฟ้อง ป.ป.ช. แล้วคดีอยู่ที่ ป.ป.ช.แล้ว ตั้งนานแล้ว ป.ป.ช.ก็ไม่ชี้ออกมาเสียทีว่าถูกหรือผิด กระบวนการยุติธรรมที่ล่าช้า คือกระบวนการอยุติธรรม เพราะว่า ถ้า ป.ป.ช.ชี้มูลออกมาว่า ตำรวจชุดที่เขาฟ้องกระทำผิดต่อพี่น้องชาวมุสลิมแบบนี้ๆ ให้ออกจากราชการ อย่างน้อยที่สุดมันเป็นหลักฐานบางอย่างที่จะเอามาให้ไทยมุสลิมทั้งหลาย บอกว่ารัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ แต่ในขณะเดียวกัน พวกผู้ก่อการร้ายก็เลว เลวทรามต่ำช้า รู้ว่านี่คือจุดอ่อนของรัฐ ก็เริ่มใช้ความรุนแรงเพิ่มมากขึ้นๆ ตลอดเวลา ออกมาตลอดเวลา เรื่อยๆ เพื่อให้ฝ่ายทหารสติแตก หรือในขณะเดียวกัน จะเริ่มเกิดสงครามทางศาสนาและเชื้อชาติ บอกว่า ชาวพุทธยิงมุสลิม มุสลิมยิงพุทธ พุทธกลับไปยิงมุสลิม นี่ล่าสุด แค่ยิงที่มัสยิด 10 กว่าศพ ยังไม่ทันไรเลย เมื่อเช้านี้ยิงพระแล้ว ก็ทำให้เห็นคล้ายๆ ว่า มุสลิมมาล้างแค้น คล้ายๆ ทำให้เห็นว่า ที่ไปยิงในมัสยิดเป็นฝีมือพุทธ งวดนี้มุสลิมมายิงพุทธบ้าง จะแก้ปัญหายังไง ผมอยากให้ยุติเสียทีของคำหวาน คำพูด ตลอดจนคำกล่าวอ้าง อย่างเช่นมีเหตุการณ์ร้ายแรงขึ้นมามักจะพูดอย่างนี้ว่า พวกเขารู้ว่าเขาแพ้แล้วเขาถึงต้องใช้ความรุนแรง
สโรชา - เราชนะ เราสามารถดึงมวลชนกลับมาอยู่ฝ่ายรัฐได้เขาก็เลยพยายามที่จะดึง
สนธิ - นี่ชอบพูดอย่างนี้ 2. ถ้าผมจำไม่ผิด เวลามีเรื่องทีไร คำพูดที่ฮิตที่สุดคือว่า ต้องเอาการเมืองนำการทหาร แต่ไม่มีใครอธิบายซะที การเมืองนำการทหารแปลว่าอะไร
สโรชา - แปลว่าอะไร ทุกคนสงสัย
สนธิ - ผมของ่ายๆ ไม่ต้องใช้คำพูดสวยหรู การแก้ปัญหาภาคใต้ คือสร้างความยุติธรรมให้กับพี่น้องชาวมุสลิมและพี่น้องชาวพุทธให้ได้ซะก่อน อะไรที่เราเคยทำไว้กับเขาจัดการหน่อยได้ไหม ผมเห็นเรามีแต่ไปจับชาวมุสลิม คุมขังชาวมุสลิม ดำเนินคดีชาวมุสลิม แต่ผมยังไม่เคยเห็นตำรวจ ทหารคนไหนถูกดำเนินคดีเลย
สโรชา - อันนี้แหละเป็นคำถามคาใจอยู่ตลอดเวลา
สนธิ - สำคัญที่สุด ยิ่งไม่ทำอย่างนี้ยิ่งเปิดช่องให้ผู้ก่อการร้ายที่ได้รับการสนับสนุนจากข้างนอก ยิ่งทำความรุนแรงขึ้นมาให้เกิดเหตุ แล้วที่เกิดเหตุ ไทยพุทธก็จะเริ่มหนี หนีออกจากพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ สมัยก่อนมีอยู่ 350,000 คน เดี๋ยวนี้เหลืออยู่ 100,000 กว่าคน เมื่อเหลืออยู่แสนกว่าคน ในที่สุดแล้วที่นั่นจะเป็นดินแดนอิสระของพวกมาลายูมุสลิม ที่ใช้ภาษายาวี แล้วเขาจะเริ่มเรียกร้องต่อสหประชาชาติ เหมือนติมอร์ตะวันออก เขาพัฒนาเป็นขั้นตอนไปที่นั่น
สโรชา - ถึงเวลาก็ลงประชามติ
สนธิ - คุณสโรชา ตั้งแต่มีเรื่องทางภาคใต้ 2545 เป็นต้นมา งบประมาณลงไปแสนกว่าล้านแล้ว ทหาร ตำรวจ แฮปปี้มาก เงินมาแล้ว เงินมาแล้วแฮปปี้ แสนกว่าล้านแต่ไปไหนไม่ได้เลยแม้แต่นิดเดียว แล้วแสนกว่าล้าน เบี้ยเลี้ยงทหารยังไม่ได้รับเลย เยอะแยะไปหมด
สโรชา - คนที่ปฏิบัติงานจริงในพื้นที่ยังลำบาก
สนธิ - ผมถึงบอก การแก้ปัญหาภาคใต้ ถ้าเข้าใจแล้วเข้าไปพัฒนา ปัญหาไม่มี แล้วคำพูดนี้ใครพูด พระเจ้าอยู่หัว พระเจ้าอยู่หัวพูดชัดเจน แต่พวกนี้
สโรชา - เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา
สนธิ - เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา แต่พวกนี้ไม่เข้าใจ แล้วเข้าก็ไม่ถึง ในที่สุดตำรวจต้องตั้งเป็นกองบัญชาการโดยเฉพาะ เพิ่มตำแหน่งผู้บัญชาการอีก 1 คน มีนายพล พูดง่ายๆ ว่า มีความขัดแย้งที่ไหน เมื่อไหร่ เงินจะลงไปที่นั่น แล้วก็มีนายพลเพิ่มขึ้น มีคนได้รับตำแหน่งเพิ่มขึ้นตลอดเวลา ไปถึงก็ไปตั้งตัวอยู่ในแคมป์ ตั้งตัวอยู่ในกองบัญชาการ แล้วส่งทหารไปคอยคุ้มกันพระ คุ้มกันเด็กนักเรียน
สโรชา - คุ้มครองครู
สนธิ - คุ้มครองครู มีอยู่แค่นั้น แต่ไม่ได้ทำเป็นกระบวนการเชิงรุกเลยแม้แต่นิดเดียว เพราะทุคนกลัวตายหมด ทำไมถึงกลัวตาย เพราะว่าเข้าไม่ถึงจริงๆ
สโรชา - และไม่เข้าใจด้วย
สนธิ - และไม่เข้าใจด้วย เพราะฉะนั้นแล้ว แล้วการพัฒนาให้เลิกคิดทีได้ไหม ผมถึงบอกว่า ต้องคิด ใช้วิธีการเมืองเก่า การเมืองเก่าคิดยังไง งบประมาณทุ่มไป
สโรชา -นี่ไง เมื่อวานนี้ 54,000 ล้าน 300 โครงการ 3 ปี
สนธิ - งบประมาณใส่ไป คือชอบแก้ปัญหาด้วยเงิน การเมืองเก่าชอบแก้ปัญหาด้วยเงิน แล้วคนรับเงินปลายทางก็แฮปปี้ เพราะรู้ว่าเมื่อไหร่ก็ตามมีระเบิดเกิดขึ้น มีปืนเกิดขึ้น มีการยิง การตาย เดี๋ยวเงินมันมาเอง
สโรชา - ก็ไม่ได้ต้องการจะแก้ปัญหา
สนธิ - ผมไม่รู้ว่าเขาต้องการหรือไม่ต้องการ แต่ปรัชญาของการแก้ปัญหาด้วยเงิน คือปรัชญาที่ผิด เงิน ถ้ารัฐบาลจำเป็นต้องแก้จริงๆ ผมเชื่อว่ารัฐบาลจ่ายได้ทุกเมื่อ แต่ก่อนที่เงินจะไปถึง แก้ด้วยความเข้าใจ แก้ด้วยความเข้าถึงก่อนได้ไหม เข้าใจว่าเขาได้รับความไม่ยุติธรรมจากการซึ่งเจ้าหน้าที่ไปทำร้ายเขา สร้างความยุติธรรมตรงนี้ให้เกิดก่อน ในขณะเดียวกัน เขาทำอะไรที่ไม่ยุติธรรม ฝ่ายผู้ก่อการร้าย ถ้าเราจับเขาได้เราก็เล่นงานเขาได้เต็มที่ ให้มันเสมอภาคกัน อย่างน้อยนี่คือจุดเริ่มต้นที่ดี จุดแรกต้องเริ่มก่อน คือ ที่ป.ป.ช. ทำยังไงให้ ป.ป.ช.พิจารณาคดีที่เขาฟ้องเจ้าหน้าที่ ก็ในเมื่อเราบอกว่ามีอะไรให้พึ่งอำนาจรัฐ รัฐจะช่วยแก้ ก็เขาไปพึ่งอำนาจรัฐแล้ว ด้วยการไปฟ้อง ป.ป.ช. ไปแจ้ง ป.ป.ช. ป.ป.ช.รับเรื่องแล้วก็สอบแล้ว เท่าที่ทราบ อนุกรรมการมีมติแล้วว่าผิด แต่ก็ไม่ดึงขึ้นมาพิจารณาซะที ความที่มีการไปวิ่งเต้นขอร้องให้ดึงเรื่องเอาไว้ อย่าเอาขึ้นมาพิจารณา เพราะพิจารณาเมื่อไหร่ ป.ป.ช.ชุดใหญ่ชี้เมื่อไหร่ว่าผิด ก็ต้องออกจากราชการ ก็จะมีพรรคพวกเพื่อนฝูงไปวิ่งกัน แต่เมื่อไปวิ่งกันแล้ว คนซึ่งจะต้องตัดสินใจแล้วไม่ตัดสินใจเพราะถูกวิ่ง หารู้ไม่ว่า เขากำลังทำให้คนทางใต้ ทหารทางใต้ที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ ต้องตายกันทุกวัน เพียงเพราะเขาเห็นแก่ความใกล้ชิดสนิทสนมแล้วไม่ดำเนินการ ถ้าเขาดำเนินการออกไป อย่างน้อยที่สุดก็เป็นข้ออ้างได้ ชุมชนชาวไทยมุสลิม ผู้นำชาวไทยมุสลิม เขาจะได้ไปพูดกับคนมุสลิมทางใต้ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ บอกนี่รัฐบาลไม่ได้ละเว้น เห็นไหม ป.ป.ช.มีมติแล้ว แล้วไล่ออกจากราชการแล้ว ดำเนินคดีแล้ว เพราะฉะนั้นแล้วคุณไปว่าเขาไม่ได้ เราไม่เคยทำตรงนี้เลยคุณสโรชา
สโรชา - มาตรฐานมันต้องเท่าเทียมกัน
สนธิ - ต้องเท่าเทียมกัน แอคชั่น ออร์ อะราวเวอร์เดนท์เวิร์ส นั่นคือสิ่งที่ฝรั่งเขาพูดมาโดยตลอด ว่าไม่ใช่เพียงพูดอย่างเดียว คุณต้องปฏิบัติด้วย
เดี๋ยวเราพักกันสักครู่นะคะ กลับมายังมีอีกหลายเรื่องที่ต้องคุยกัน อยากชวนคุณสนธิคุย แล้วเชื่อว่าพ่อแม่พี่น้องทางบ้านยังอยากจะฟังอยู่ ในประเด็นการลอบยิงคุณสนธิ ยังมีความคืบหน้าในเรื่องนี้อยู่ หรือจะเรียกว่าความไม่คืบหน้าก็ได้นะคะ ไม่ทราบว่าไปเจอตอหรืออย่างไร พักกันสักครู่เดี๋ยวกลับมาค่ะ
สโรชา - กลับเข้าสู่รายการพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย พ่อแม่พี่น้องหลายท่านโทรเข้ามา ไม่ใช่รายการเมืองไทยรายสัปดาห์นะคะ เป็นรายการพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย หลายอย่างเปลี่ยนไป เชื่อว่าความคิดเห็นต่างๆของพ่อแม่พี่น้อง หรือผู้ชมรายการในยุคนั้นมาถึงยุคนี้ก็เปลี่ยนไปเช่นกัน ผู้ดำเนินรายการก็เปลี่ยนไป คุณสนธิคะ พ่อแม่พี่น้องเราโทรเข้ามา บางท่านบอกว่า อยากให้เป็นหัวหน้าพรรคการเมือง อยากให้ไปนำการเมืองใหม่ บางท่านก็แสดงความเป็นห่วง บอกว่า อย่าเลยเหนื่อยมามากแล้ว สงสาร กลัวว่าจะต้องไปเผชิญอะไรมากกว่านี้อีกหรือ
สนธิ - เรื่องเป็นหัวหน้าพรรค หรือไม่เป็นนั้น มันเป็นเรื่องอนาคต ตอนนี้ยังตอบไม่ได้ เพราะว่ายังไม่ทราบว่าพ่อแม่พี่น้องคิดอย่างไร เรื่องที่ 2 นั้น เป็นอะไรไม่สำคัญหรอกครับ สำคัญที่จิตวิญญาณต้องอยู่เหมือนเดิม จะเป็นนายสนธิ ที่เคยทำเมืองไทยรายสัปดาห์กับคุณสโรชา หรือเป็นนายสนธิ ที่เป็นแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย หรือเป็นนายสนะ ที่จัดรายการ Goodmorning Thailand หรือว่าเป็นนายสนธิ ที่ถูกยิงไปแล้ว เพิ่งฟื้นไข้มา หรือจะเป็นนายสนธิ อะไรก็ตาม จะเป็นหัวหน้าพรรค หรือไม่เป็น จะต้องเป็นนายสนธิ ที่เคยปวารณากับพ่อแม่พี่น้องเอาไว้ว่า ชีวิตนี้ ชั่วก็มี ดีก็หลาย แต่นับจากวันที่กราบพ่อแม่พี่น้องไป เมื่อ 2 - 3 ปีที่แล้ว ว่าจากนี้ไปจะขอทำงานให้ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์อย่างเดียว เอาชาติเป็นตัวตั้ง อย่างอื่นไม่สำคัญ เพราะฉะนั้นจะเป็นอะไรไม่มีควาหมมาย ขอให้ทำได้ เป็นเพียงแต่ว่าบทบาทที่เป็นนั้น บางครั้งก็สุดแล้วแต่เรื่องราวที่ถูกกำหนดมา เหมือนที่เขาบอกว่า คนคำนวณมิสู้ฟ้าลิขิต แต่ว่าที่เป็นแน่ๆ
แต่ที่อยากจะขอร้องให้พ่อแแม่พี่น้องได้รับทราบแน่ๆก็คือว่า ASTV ลำบากมาก พ่อแม่พี่น้องถ้าช่วยกันสมัคร SMS เดือนละ 200 บาท จะเป็นการช้วยค่าใช้จ่าย ASTV อย่างสูง ASTV ไม่เคยพูดถึงเรื่องอะไรเลย นอกจากเรื่องความจริง รายได้เราก็ไม่เคยได้จากทุนที่ไหน นี่เงินเดือนก็ยังจ่ายไม่หมด คิดว่าจะหมดก็คงอาทิตย์หน้า ทยอยจ่ายเรื่อยๆ เพราะฉะนั้นแล้วถ้า ASTV จะเป็นของประชาชนจริงๆ พ่อแม่พี่น้องต้องให้การสนับสนุน เพราะว่าการที่ ASTV จะอยู่ได้นั้น มันเลือกอยู่ได้ 2 วิธี วิธีที่ง่ายสุดก็คือ รับเงินทุนมาจากนายทุน ซึ่งเราไม่เลือกเส้นทางนั้น เพราะถ้าเราเลือกเส้นทางนั้น วันนี้ภาคประชาชนก็ไม่ได้เกิดขึ้นพ่อแม่พี่น้อง ถ้าเราเลือกเส้นทางนั้น 17 เมษายน ผมคงไม่โดนลอบสังหาร ถ้าเราเลือกเส้นทางนั้น วันนี้ก็ไม่มีการเมืองใหม่ ถ้าเราเลือกเส้นทางนั้น วันนี้สังคมไทยไม่มีความหวังเลย ไม่มีเทียนที่ส่องสว่าง แต่เราเลือกเส้นทางที่ยืนอยู่บนความถูกต้อง ตายเป็นตาย เจ๊งเป็นเจ๊ง เราเลือกเส้นทางที่ถูกต้อง เอาธรรมนำหน้า นั่นคือเราเลือกเส้นทางประชาชน เพราะฉะนั้นพ่อแม่พี่น้องตอ้งช่วยกันนะครับ
วันนี้เรามีสมาชิก SMS เพียง 50,000 ราย เท่านั้นเอง ถ้าเราต้องการจริงๆ เราต้องการแสนขึ้นไปนะครับ พ่อแม่พี่น้องครับหยิบโทรศัพท์มาแล้วกด เดี๋ยวคุณแอ้มจะบอกให้ฟังว่ากดอะไรไป เดือนละ 200 บาท ไม่มาก แต่มันช่วยต่อชีวิต ASTV และจะทำให้สถานีโทรทัศน์แห่งนี้ เป็นสถานีโทรทัศน์ของพ่อแม่พี่น้อง หรือพ่อแม่พี่น้องจะบริจาคส่งตรงเข้าไปบัญชีของ ASTV ก็ได้ ผมทราบว่ามีพ่อแม่พี่น้องหลายท่านทำอยู่ แต่หลายท่านบางทีอาจจะลืมนะครับ บางครั้งไปเที่ยวเตร่ กินข้างกินปลาข้างนอก เติมน้ำมันทีก็ 600 - 700 บาท แต่ว่าเสียเดือนละ 200 บาท ให้ SMS ข่าวของ ASTV เท่ากับรักษาโทรทัศน์ช่องนี้ให้เป็นของพ่อแม่พี่น้องได้ตลอดไป นี่คือสิ่งซึ่งผมจะอยากจะฝากบอกพ่อแม่พี่น้องว่า ถ้าผมต้องเหนื่อย ตายแล้วเกิดใหม่ เสี่ยงเป็นเสี่ยงตาย เพียงเพื่อต้องการให้ทำความจริงให้ปรากฏกับพ่อแม่พี่น้อง แล้วกล้าพูดความจริง กล้ายืนอยู่บนสิ่งที่ถูกต้องครับ ขอให้พ่อแม่พี่น้องช่วยเหลือกัน สนับสนุน ASTV ด้วยครับ
สโรชา - วิธีการที่จะสมัคร SMS ของ ASTV นะคะ พ่อแม่พี่น้องหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา เปิดในส่วนที่เป็นการเขียนข้อความ พิมพ์ตัว R เข้าไปตัวเดียว แล้วกดส่งออก ส่งมาที่หมายเลข 4321000 แล้วก็กดส่งออกอีกครั้ง พ่อแม่พี่น้องก็จะสามารถสมัคร SMS ของ ASTV โดยที่ถ้าหากว่าเป็นแบบเติมเงิน ต้องมีเงินอยู่ในบัตรเกิน 200 บาท ถึงจะดำเนินการได้ ถ้าเกิดว่าช่วงไหนของเดือนที่ต่ำกว่า 200 บาท จะต้องสมัครใหม่ ในส่วนที่เป็นรายเดือนจะไม่มีปัญหาเลย คือสมัครไปครั้งเดียว เขาจะหักรายเดือนพ่อแม่พี่น้องทุกเดือนเลย อัตโนมัติ ถ้าหากเป็นแบบเติมเงิน จะต้องมีเงินในบัตร 214 บาท อย่างน้อยถึงจะสมัครได้ อย่าลืมนะคะที่จะสมัครกัน ขอบพระคุณล่วงหน้าด้วย ถ้าหากว่าส่งไปแล้ว พี่น้องจะได้รับข้อความกลับมา ยืนยันว่าท่านได้สมัครข่าว ASTV เรียบร้อยแล้ว ถ้าหากว่าไม่ได้รับข้อความแสดงว่ายังดำเนินการไม่ได้ ก็คือส่งใหม่
พี่น้องคะ ขออนุญาตเรียนถามคุณสนธิ เรื่องคดี เมื่อวานนี้ พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ ได้ไปที่ทำเนียบ ไปสอบปากคำนายกฯ เกี่ยวกับเรื่องของคดีที่ทุบรถที่มหาดไทยแล้ว ยังพูดถึงเรื่องคดีของคุณสนธิด้วย โดย พล.ต.อ.ธานี บอกว่า คดีนี้ไม่ใช่คนร้ายธรรมดา นักข่าวถามย้ำบอกว่า เจอตอหรือเปล่า เจอของแข็งหรือเปล่า ท่านธานี บอกว่า จะเจอตอหรือไม่นั้น เอาเป็นว่าคดีคนร้ายธรรมดานั้น จับกุมง่ายกว่าคดีมีสีก็แล้วกัน ประโยคนี้มีนัย
สนธิ - มีครับ คือเพื่อความเป็นธรรมนะครับ คุณธานี รับคดีนี้ไป ผมโดนยิงเมื่อวันที่ 17 เมษายน พ.ศ.2552 นี่ก็ผ่านมา 1 เดือนกว่า อาทิตย์หน้าก็ครบ 2 เดือน 60 วัน ถ้าถามว่าเวลา 60 วัน ก็ไม่น้อย แต่ก็ไม่มาก สำหรับคดีที่ ต้องพูดว่าคดีนี้มีอิทธิพล เพราะที่คุณธานีพูด ก็แสดงว่าคนมีสีเป็นคนยิง เมื่อคนมีสีเป็นคนยิง คุณธานีทำงานอะไรก็เจออุปสรรคหมด ลูกน้องคุณธานีก็เจออุปสรรคทุกคน หลายคน เท่าที่ทราบมีผู้หลักผู้ใหญ่ในเครื่องแบบ ระดับบิ๊กๆ เรียกเจ้าหน้าที่ระดับสูงที่อยู่ในทีมคุณธานีไป แล้วไปบอกให้หยุดสอบสวน สืบสวนต่อ แต่อย่างที่ผมเรียนให้ทราบว่า ต้องแบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกในความเห็นส่วนตัว ผมไม่สนใจ
สโรชา - จับได้ จับไม่ได้
สนธิ - เพราะผมอโหสิกรรมให้หมดแล้ว ผมเชื่อในกฎแห่งกรรม แล้วคนที่อยู่เบื้องหลังการฆ่าผม วางแผน มีส่วนร่วม หรือสั่งการ ในใจลึกๆผมเชื่อว่าชีวิตเขานอนไม่หลับหรอก ผมอยากจะเรียนให้เขาทราบว่าผมสวดมนต์ภาวนาทุกเช้าเลยนะ ผมกรวดน้ำให้เขาทุกวันเลยนะ อโหสิกรรมให้เขาทุกวันเลย ผมบอกว่าผมไม่ถือโทษหรอก คงเป็นเวรเป็นกรรมชาติก่อน อโหสิกรรมให้เขาตลอด ส่วนผลการอโหสิกรรมของผมจะทำให้เขาเป็นอย่างไรก็สุดแล้วแต่ เป็นเรื่องของกฎแห่งกรรม นี่คือเป็นส่วนตัวนะครับ
ส่วนในทางคดีผมก็ไม่เคยไปทำอะไรที่กดดันคุณธานี สมบูรณ์ทรัพย์ เลยแม้แต่นิดเดียว นอกจากนั้นแล้วผมยังให้คนไปบอกท่านว่า ให้ท่านทำงานตามสบาย ไม่มีปัญหาสำหรับผม ถึงแม้จะมีแม้กระทั่งตำรวจระดับรองผู้บัญชาการตำรวจนครบาลคนหนึ่ง ซึ่งมีความใกล้ชิดกับผู้มีสี ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการยิงผม พยายามไปบอกลูกน้องคุณธานีบางคน ซึ่งยศ พ.ต.อ. เป็นรองผู้บังคับการ พูดเชิงขู่ ว่า "มึงไม่อยากเป็นนายพลหรือไง ถึงขยันทำงานเรื่องคดีนี้"นึกออกไหมครับ คือทุกสายจะเข้าไปบล็อก บางจุดถึงกับทำลายหลักฐาน
ช่างมันครับ ผมไม่สนใจ ผมคิดว่ามันเป็นบทเรียนที่ผมอยากจะฝากคุณสโรชา และพ่อแม่พี่น้องที่ดูรายการนี้อยู่ ให้ตระหนักว่า นี่คือสิ่งซึ่งเรายิ่งต้องการการเมืองแบบใหม่ ใช่ไหมครับ
สโรชา - เป็นอีกเหตุผลหนึ่ง
สนธิ - มันยิ่งทำให้ผมมีพลัง กำลังใจในการสู้ ว่าเราเดินมาขนาดนี้แล้วเราต้องสู้ต่อ เพราะถ้าเราไม่สู้ต่อ บ้านเมืองมันไม่มีที่ยืน ประเทศไทยจะยืนไม่ได้ สื่อมวลชนคนหนึ่งมา แล้วโดนยิงด้วยอาวุธสงคราม ด้วยคนประมาณ 14 คน ใช้รถ 4 คัน วางแผนอย่างดี ด้วยความร่วมมือกับตำรวจบางคนในการที่จะปิดกล้องวงจรปิด 4 - 5 ตัว เสร็จเรียบร้อยแล้วใช้อาวุธสงครามที่เป็นปืนกลยิง ยิงด้วย M 79 จำนวน 2 ลูก แต่เผอิญสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง ผมไม่ตาย M 79 ก็ไม่ระเบิด สิ่งแบบนี้ถ้ามันเกิดขึ้นในต่างประเทศ เขาช็อกกันทั้งวงการ แต่มันเกิดขึ้นที่เมืองไทย แล้วทุกอย่างก็เงียบหายไป ไม่มีใครแสดงความรับผิดชอบ คำถามผมมีอยู่ว่า ถ้าอย่างนั้นแล้วอีกหน่อยเขานึกจะยิงใครก็ยิงได้ใช่ไหม ขอให้เขามีอำนาจ ถูกไม่ถูก อขประทานโทษ พล.อ.เปรม เขานึกจะฆ่า พล.อ.เปรม ก็ฆ่าได้ซิอย่างนั้น พอฆ่าแล้วทุกคนก็เงียบ ถ้าเขามีอำนาจอยู่ หรือใครก็ตามที่บล็อกได้ ก็บอก ลื้อหยุดสอบสวน สืบสวน เรื่องก็เงียบไป ส่งลูกน้องไปทำลายหลักฐานซะ เห็นไหมคุณแอ้ม ประเด็นมันไม่ได้อยู่ที่ผมแล้ว อยู่ที่ว่าจะทำอย่างไรให้สังคมนี้มันยืนได้ ผมไม่ได้ต่างไปจากพ่อแม่พี่น้องชาวมุสลิมภาคใต้เลยนะ
สโรชา - คือไม่ได้รับความยุติธรรม
สนธิ - ไม่ได้รับความยุติธรรม มองไม่เห็น ขนาดผม นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย พิธีกรประจำ ASTV ที่พ่อแม่พี่น้องรู้จักกันทั่วประเทศ ยังโดนแบบนี้ แล้วพ่อแม่พี่น้องชาวมุสลิมที่ไม่มีปากมีเสียงโดนกระทืบตาย ลูกหลานเขาโดนฆ่าตาย เผาตัว แล้วเขาจะไปร้องเรียนที่ไหน ถ้าอยากรู้ถึงปัญหาภาคใต้เอาเรื่องผมกับเรื่องเขามาเปรียบเทียบกัน ว่าขนาดผมเป็นคนขนาดนี้ พันธมิตรฯ ทั่วประเทศไทยเป็นห่วงเป็นใย ผู้ใหญ่ทุกคนเป็นห่วงเป็นใย เรื่องมันยังไม่ไปถึงไหน แล้วพวกที่อยู่ทางใต้ตายไปแล้วกี่พันศพ กี่ร้อยศพ ผมเชื่อว่ามีศพที่ตายไปแล้วยังหาคนยิง คนฆ่าไม่ได้อีกกี่ร้อย เฉพาะทางการ 3,600 แล้วคอรบครัวเขาละ พ่อแม่ ลูกเมีย เขาละ พี่น้องเขาละ เพื่อนฝูงเขาละ ถึงไม่น่าประหลาดใจไงเล่า ว่าปัญหาภาคใต้แก้อย่างไรก็แก้ไม่ได้
สโรชา - เพราะไม่ได้ปลดล็อกตรงนี้
สนธิ - ขนาดนายสนธิ ยังแก้ไม่ได้เลย แล้วจะแก้ภาคใต้ได้อย่างไร มันเกี่ยวโยงกันหมดเลยนะ
สโรชา - จริงๆแล้วไม่นึกนะคะ ถ้าเกิดไม่เปรียบให้เห็น
สนธิ - ต้องเปรียบให้เห็น มันเป็นปรัชญาเดียวกันเลย ชาติบ้านเมืองเดี๋ยวนี้มันอยู่ไม่ได้จริงๆแล้ว เมื่อมันอยู่ไม่ได้แล้วอีกหน่อยมันไม่มีชาติก็อยู่ไม่ได้ เมื่อชาติอยู่ไม่ได้ทุกสถาบันอยู่ไม่ได้เลย
สโรชา - เราประสบกับวิกฤตทางด้านจริยธรรม วิกฤตเศรษฐกิจไม่ต้องพูดถึง วิกฤตทางการเมือง วิกฤตทางธรรมชาติ ภัยธรรมชาติ โรคร้าย โรคระบาด ยังต้องเผชิญกันอีก
43 คนวันนี้ล่าสุด ตอนนี้ในเมืองไทยติดเกือบร้อยคนแล้ว
สนธิ - ผมมีอะไรที่อยากจะฝากคุณสโรชา ฝากท่านผู้ชมนิดหนึ่ง หวัดครั้งนี้มันระบาดได้ง่าย ผมไม่อยากจะไปก้าวก่ายการทำงานของท่าน แต่ผมมีความรู้สึกว่า ข้าราชการเรา ตลอดจนนักการเมืองเรา และผู้ปฏิบัตินั้น ขออนุญาตผมไม่กล้าพูด ใช้คำว่า ท่านทำงานไม่เป็น แต่ผม อยากให้ท่านทบทวนวิธีการทำงานของท่านซะใหม่ ยกตัวอย่างให้ฟังง่ายๆ เด็ก 4 คนที่เซนต์คาเบรียล พบว่าติดหวัด สิ่งที่โรงเรียนทำคือ สั่งปิดโรงเรียน แล้วไปค้นพบว่า เด็ก 4 คนไปติดหวัดมาจากโรงเรียนกวดวิชา สั่งปิดโรงเรียนกวดวิชา คำถามมีอยู่ 4-5 คำถาม คำถามแรก ท่านทราบหรือไม่ว่า เด็กกวดวิชานั้นกวดในชั้นเรียนนั้นมีนักเรียนกี่คน ท่านรู้รึเปล่าว่านักเรียนพวกนั้นบ้านอยู่ที่ไหน ครอบครัวอยู่ที่ไหน 2. ท่านทราบหรือไม่ว่า สอบประวัติหรือยังว่า เมื่อเขากวดวิชาที่เขาเริ่มติดหวัดแล้วเขาไปที่ไหนบ้าง แล้วเด็ก 4 คนนั้น ในชั้นเรียนของเด็กเซนต์คาเบรียลนั้นมีกี่คน ท่านทราบหรือไม่ว่า พ่อแม่เขาอยู่ที่ไหน ครอบครัวเขาอยู่ที่ไหน ถ้าท่านไม่ทราบ ท่านกำลังทำผิดร้ายแรง ท่านต้องทราบ แล้วเมื่อท่านทราบแล้ว ท่านต้องหาทุกวิธีทางไม่ให้เขาออกไปไหน ให้เขาอยู่ในบ้าน หรือว่าพาทั้งครอบครัวมาอยู่ที่โรงพยาบาล กักบริเวณ
สโรชา - เพราะอยู่ในกลุ่มเสี่ยงแล้ว
สนธิ - อยู่ในกลุ่มเสี่ยงแล้ว นี่ยกตัวอย่างให้ฟัง เพราะฉะนั้นแล้ว เด็ก 4 คน สมมุติอยู่ 4 ห้อง เด็กทั้ง 4 ห้องต้องไปหมด รวมทั้งพ่อแม่ด้วย แล้วการปิดเทอม การหยุดให้ 7 วัน สิ่งที่เกิดขึ้นคือ เด็กมันเฮ วันนี้ผมเชื่อว่ามีไม่ต่ำกว่า 20-30 เปอร์เซ็นต์ ไปเดินแถวสยามสแควร์
สโรชา - ไปเดินห้าง ไปดูหนัง
สนธิ - ไปเดินห้างมาบุญครอง ไปดูหนัง ไปอยู่ในห้องแอร์ ซึ่งแอร์มันจะกระจายออกไป ผมจะบอกให้นะ นี่คือความหมายของโรคระบาด แล้วจะระบาดไปหมดเลย
สโรชา - พวกที่รักษาตัวก็รักษาไป แต่เพื่อนนักเรียนในห้องเดียวกัน ที่มีสิทธิ์
สนธิ - เพราะฉะนั้นแล้วเขาต้องตอบโจทก์ 4-5 ข้อที่ผมถามให้ได้ว่าเขาทำหรือยัง ถ้ายังไม่ทำ การที่ท่านนายกฯ บอกคุมได้ คุมไม่ได้หรอกครับ ถ้าคุมได้ปริมาณไม่ขึ้นอย่างนี้หรอก ผมไม่อยากพูด พูดแล้วเดี๋ยวจะหาว่าผมกระแนะกระแหนเขาอีก พรรคประชาธิปัตย์ทำงานไม่เป็น ด้วยความสัตย์จริง คนที่ทำงานเป็น นักการเมืองทำงานเป็น ต้องลงมาสั่งการได้เต็มที่ ไม่ใช่ทำตามที่ข้าราชการบอก เพราะฉะนั้นพรรคประชาธิปัตย์ยังคงเป็นพรรคข้าราชการเหมือนเดิม สุดแล้วแต่ข้าราชการเสนออะไรมาก็ทำไปอย่างนั้น ทีนี้มันเป็นโรคระบาดแล้ว มันต้องพูดแบบไม่เกรงใจแล้ว จะมาเกรงใจกัน ถึงจะรักท่านนายกฯ อภิสิทธิ์ อย่างไรก็ งานนี้รับไม่ได้ ต้องพูด ทำไม่เป็น แล้วผมจะบอกให้ ถ้ามีการระบาดขึ้นมาต้องรับผิดชอบ ผมอยากเห็น คุณวิทยา แก้วภราดัย ทำงานรับผิดชอบมากกว่านี้ เข้าใจมากกว่านี้ แล้วเข้าถึงมากกว่านี้ด้วย สรุป คำพูดพระเจ้าอยู่หัว ใช้ได้ทุกเรื่อง เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา พัฒนาวิธีทำการ คุณจะทำเป็นเล่นไปนะงานนี้
สโรชา - ต้องคิดข้ามชอร์ต
สนธิ - คิดข้ามชอร์ตไปแล้ว
สโรชา - ไม่ใช่วิ่งตาม
สนธิ - แล้วต้องเด็ดขาด ต้องสั่งทันที วันนี้เด็กเซนค์คาเบรียล หรือเด็กที่ติด ระหว่างเพาะเชื้อจะไม่มีอาการ เพราะฉะนั้นแล้ว บางคนเดินสยามพารากอน ไปเดินในโรงหนัง
สโรชา - คือมีอยู่แล้วในร่างกาย
สนธิ - มีอยู่แล้วในร่างกาย เดี๋ยวทั้งโรงหนังเป็นหมด สยามสแควร์ เข้าไปร้านสีฟ้า เดี๋ยวก็เป็นหมด น่ากลัวมาก
สโรชา - น่ากลัว อันนี้กลับเป็นเรื่องใกล้ตัวยิ่งกว่าเรื่องอะไรซะอีก 3 นาทีสุดท้าย คุณสนธิ เรากำลังเผชิญกับสิ่งเหล่านี้อยู่ กำลังเผชิญกับปัญหารอบด้าน ความหวังมี เราคุยกันเมื่อปี 46 ตอนนั้นเราก็มีความหวัง ตอนนี้เรายังมีความหวังอยู่หรือเปล่า
สนธิ - มีครับ มีตรงที่ว่า ส่วนตัวผม ผมเหมือนคนตายแล้วเกิดใหม่ ผมคิดว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์คงมอบหมายให้ผมเดินหน้าต่อไป เพื่อทำเรื่องที่ผิดให้มันถูกซะ แล้วเข้ามาช่วยชาติ ช่วยบ้านช่วยเมือง ผมคิดว่าพันธมิตร พ่อแม่พี่น้องชาวพันธมิตรทั้งหมดคือความหวังของประเทศชาติ วันนี้จริงๆ คนเขาบอกว่า สีเหลือง สีแดงรักชาติทั้งนั้น ผมไม่ขัดข้อง เอาเป็นวันนี้เราไม่มีสีแล้วกัน เรามีอยู่อันเดียว คือพวกเราทุกคนต้องพร้อมเอาส่วนรวมเป็นที่ตั้ง ไม่ใช่ส่วนตัว ต้องส่วนรวม ถ้าเราเอาส่วนรวมเป็นที่ตั้ง เราจะเริ่มเห็นวิธีแก้ปัญหา แล้วถ้าเราเอาส่วนรวมเป็นที่ตั้ง เราจะเห็นได้ชัดเลยว่า การเมืองที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ในสภา แล้วที่กำลังจะเป็นอยู่ วิธีการเก่าๆ แบบนี้ คุณสโรชา แก้ปัญหาชาติบ้านเมืองไม่ได้เด็ดขาด
สโรชา -ไม่ได้สักข้อ
สนธิ - ไม่มีวันที่จะแก้ปัญหาได้ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาเศรษฐกิจ ปัญหาสังคม ปัญหาการศึกษา ปัญหาเรื่องจริยธรรม ปัญหาภาคใต้ ปัญหาทหาร ปัญหาตำรวจ แก้ไม่ได้เด็ดขาด สังคมไทยต้องการการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ไทยที่ไม่เคยมีมา การเปลี่ยนแปลงในทางบวก การเปลี่ยนแปลงที่ต้องคิดนอกกรอบ การเปลี่ยนแปลงที่จะต้องละเลย ทิ้งผลประโยชน์ส่วนตัวไปซะ แล้วเอาส่วนรวมเป็นตัวตั้ง นักการเมืองทุกคนต้องเกิดใหม่หมด ถ้าไม่เกิดใหม่ก็ตายไปเลยแล้วไม่ต้องเกิดอีก แล้วเอาคนใหม่ๆ ที่เกิดมาแล้วพร้อมทำงานให้ส่วนรวม เขาไม่เห็นแก่ประโยชน์ เพราะว่าชาติบ้านเมืองมันไปไม่ได้จริงๆ แล้วคุณสโรชา
สโรชา - ต้องกล้า ต้องเสียสละ
สนธิ - ต้องกล้าหาญ ต้องเสียสละ ต้องซื่อสัตย์ และต้องมีความสามารถในการทำงาน
สโรชา - ไม่อย่างนั้นไปไม่ได้แล้ว นี่คือภาพที่วาดให้เห็นนะคะพ่อแม่พี่น้อง เกี่ยวกับปัญหาบ้านเมืองที่เรากำลังเผชิญอยู่ตอนนี้ รุมเร้าทุกๆ ด้าน เห็นได้ชัดว่า วิธีการแก้ที่เป็นอยู่ เส้นทางที่เราเดินอยู่นั้น มันไม่ใช่เส้นทางที่จะสามารถแก้ปัญหาให้กับเราได้ เพราะฉะนั้นเรานี่แหละต้องเป็นตัวขับเคลื่อน พันธมิตรเป็นพลังเป็นความหวังที่เราจะเปลี่ยนแปลงเราได้
สนธิ - วันนี้ไม่จำเป็นต้องพันธมิตรก็ได้ ทุกคน ถ้าใครเห็นว่าชาติบ้านเมืองต้องเปลี่ยนแปลง แล้วของเก่าๆ เน่าๆ แบบนี้ เราจะยอมต่อไปไม่ได้ มาร่วมมือร่วมใจกัน
สโรชา - ไปดูผลโหวตนิดหนึ่งก่อนจบรายการ เห็นด้วยหรือไม่กับการแก้ไขปัญหาต่างๆ ของรัฐบาลอภิสิทธิ์ ว่าสอบผ่านหรือไม่ สีแดงนี่คือไม่ผ่านนะคะ 89 เปอร์เซ็นต์ สีเขียวคือผ่าน 11 เปอร์เซ็นต์ คงจะได้เห็นภาพรวมกัน
ขอบพระคุณ คุณสนธินะคะที่มาร่วมรายการ ขอบพระคุณพ่อแม่พี่น้องคะที่ติดตาม กลับมาพบกันใหม่ในสัปดาห์หน้า สวัสดีคะ