นายกฯ ยอมรับ กังวล สถานการณ์ไฟใต้รุนแรง ตั้งข้อสังเกตุ เหตุระเบิดรถตู้-ยิงในมัสยิด ผิดปกติ ชี้โจรป่วนใต้ในอดีตไม่ปฏิบัติการรูปแบบเช่นนี้ รับอาจต้องปรับเปลี่ยนรูปแบบการคลี่ปัญหา พร้อมดึงฝ่ายความมั่นคงร่วมชุดครม.พัฒนาภาคใต้ หวังเชื่อมโยงระหว่างกัน เชื่อเหตุรุนแรงปล่อยไม่เกี่ยวเรื่องงบประมาณ สั่ง “เทพเทือก-อนุพงษ์” ลงพื้นที่เก็บข้อมูลรายงานที่ประชุม ครม.ใต้ 11 มิ.ย.นี้
วันนี้(9 มิ.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์ความรุนแรงในพื้นที่ภาคใต้ที่เกิดเหตุระเบิดรถตู้และยิงมัสยิด ว่า วันนี้ (9 มิ.ย.) นายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยและพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.ได้ลงพื้นที่เพื่อดูสถานการณ์แล้ว และในวันเสาร์ที่ 13 มิ.ย.นี้ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี และพล.อ.อนุพงษ์ จะลงพื้นที่อีกรอบ ทั้งนี้ ในวันพฤหัสที่ 11 มิ.ย. ตนจะขอให้มีการมารายงานสถานการณ์ก่อนในการประชุมคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจภาคใต้ ซึ่งจากการพูดคุยเมื่อสัปดาห์ที่แล้วคณะกรรมการชุดนี้เดิมดูเฉพาะงานด้านการพัฒนา ทั้งนี้จะให้ฝ่ายความมั่นคง เข้ามาเพื่อให้เชื่อมโยงกันชัดเจนมากยิ่งขึ้น
“มันมีข้อสังเกตในแง่ของการกระทำในแต่ละเหตุการณ์ ซึ่งมันมีความแตกต่างไปจากรูปแบบของการก่อความไม่สงบในอดีต ตรงนี้เป็นข้อสังเกตอยู่ บางเรื่องอาจจะทำให้เราต้องไปปรับแนวทางเช่น กรณีการใช้ระเบิดในรถ ซึ่งปกติจะเฝ้าระวังกันที่อำเภอเมืองเป็นหลัก เที่ยวนี้เปลี่ยนไป หรือกรณีเหตุการณ์ยิงในมัสยิด อันนี้ไม่ปกติ ไม่ใช่รูปแบบที่น่าจะเกิดขึ้นจากผู้ที่ดำเนินการในเรื่องการก่อความไม่สงบในอดีตและมีข้อสังเกตเรื่องสภาพของพื้นที่ต่างๆที่เกิดเหตุใน 3-4 วันนี้ เป็นพื้นที่ ซึ่งทางฝ่ายภาครัฐยังเข้าไปถึงค่อนข้างน้อย”นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า
นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า ขณะนี้เราพยายามให้คนของทางการได้เข้าไปช่วยทำงานกับชาวบ้านในหลายๆพื้นที่ พื้นที่ที่เกิดเหตุ 3-4 ครั้งล่าสุด จะเป็นพื้นที่ที่เข้าไปทำได้น้อย ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าการก่อเหตุถี่และรุนแรงเกี่ยวโยงกับเรื่องของงบประมาณนั้น เวลานี้ไม่มีประเด็นเรื่องงบประมาณ ทุกอย่างมันจบไปแล้ว ความจริงงบประมาณที่ทางภาครัฐดูแลเพียงพอ ปัญหางบประมาณในอดีตมี 2 ส่วน คือส่วนหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาประชาชนมักจะสะท้อนมาว่าเขาได้สัมผัสน้อย อันนี้ได้มีการทำความเข้าใจในการจัดทำแผนครั้งใหม่ในการประชุม ครม.ภาคใต้ อีกส่วนคือเรื่องของข้าราชการ ช่วงที่ผ่านมารอเรื่องเบี้ยเสี่ยงภัย วันนี้ได้อนุมัติงบกลางไปเกือบครบแล้ว ไม่มีเรื่องงบประมาณแล้ว หากใครจะหวังผลตรงนั้นบอกเลยว่าคงไม่มีผล
เมื่อถามว่า ที่นายกฯบอกว่าการก่อเหตุผิดปกติไปจากเดิม ฝ่ายความมั่นคงวิเคราะห์หรือไม่เกิดจากอะไร นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เบื้องต้นมีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันบ้าง แต่หลังจากที่นายสุเทพ นายถาวรและผบ.ทบ.ลงพื้นที่กลับมาจะมาคุยกันละเอียดมากขึ้น เมื่อถามว่าขณะนี้ผู้ก่อเหตุใช้วิธีการคาร์บอม ต่อไปคงต้องพัฒนาด้วยการระเบิดพลีชีพ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ยังไม่สรุปอย่างนั้น อย่างไรก็ตามทางฝ่ายความมั่นคงได้มีการสรุปและวิเคราะห์ถึงการพัฒนาวิธีการก่อเหตุครั้งนี้ด้วย แต่ยังไมได้สรุปชัดเจน เพราะต้องวิเคราะห์ในแง่ของพื้นที่เกิดเหตุ และปัจจัยเฉพาะของแต่ละเหตุด้วย
นายกรัฐมนตรี ยอมรับว่าจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงล่าสุด มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก เป็นเรื่องที่เราวิตกกังวนและเสียใจและพยายามอย่างเต็มที่ เพื่อให้สถานการณ์ ดีขึ้น เมื่อวานเดินทางไปเยือนประเทศมาเลเซียก็ได้รับความร่วมมืออย่างดีและทางมาเลเซียพูดชัดเจนต่อสาธารณะ จุดยืนของเขาต้องการเห็นความสงบที่นี่ ต้องการที่จะช่วยเราเท่าที่เราขอความช่วยเหลือจากเขา ไม่มีความประสงค์ที่จะมารแทรกแซงอะไร
เมื่อถามว่า จากเหตุความรุนแรงที่เกิดขึ้นทำให้กาแก้ไขปัญหาเป็นไปด้วยความยากลกบากหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า อยู่ที่การสะสางเหตุการณ์ หากทำได้เร็วจะช่วยได้มาก อันนี้เป็นเรื่องสำคัญที่ทางเจ้าหน้าที่ต้องเร่งดำเนินการ และเข้าใจว่าผู้ก่อเหตุจะพยายามสร้างกระแสในพื้นที่จากเหตุการณ์เมื่อคืน ฉะนั้นตอนนี้ต้องทำให้เร็ว ข้อสรุปจากการก่อเหตุเบื้องต้นไม่ขอพูดในรายละเอียด อยากให้มีความชัดเจนมากกว่านี้ เมื่อถามว่าจะทำให้ชาวบ้านเกิดความเข้าใจผิดหรือเปล่า นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า มันมีความพยายามที่จะทำให้เกิดความเข้าใจผิดอย่างนั้น ฉะนั้นต้องรับสะสางเรื่องนี้
เมื่อถามว่า จะกระทบต่อแผนพัฒนาที่รัฐกำลังจะเอาเข้าไปหรือไม่ นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า แผนจะต้องเดินไปตามเดิม เพราะเรามั่นใจว่าวิธีการพัฒนาเท่านั้นที่จะเป็นคำตอบในระยะยาว ระยะสั้นทุกคนต้องแน่วแน่และอดทนในการทำสิ่งเหล่านี้และเข้าใจความรู้สึกของประชาชนทั้งในพื้นที่และนอกพื้นที่โดยเฉพาะผู้ที่เกี่ยวข้องกับการสูญเสีย โครงการพัฒนาจะไม่มีการชะงัก ต้องพยายามเดินต่อให้ได้เพราะนั่นคือความประสงค์ของฝ่ายตรงข้ามอยู่แล้วที่ต้องกามรสกัดกั้นขบวนการพัฒนา
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า การก่อเหตุในพื้นที่ภาคใต้ ยังมีบางส่วนที่ยังเป็นเรื่องของการแบ่งแยกดินแดน แต่การปฏิบัติ การ 3-4 ครั้งมีความเปลี่ยนแปลงไป ซึ่งความรุนแรงจะมีการก่อเหตุเป็นช่วงๆ เช่น เปิดเทอม หรือแม้แต่การตั้งข้อสังเกตเรื่องงบประมาณ เรื่องะไรต่างๆ ทั้งนี้กลุ่มที่ก่อเหตุในพื้นที่ภาคใต้มีหลายกลุ่ม แม่แต่ในส่วนของท้องถิ่นที่มีการตั้งข้อสังเกตเชื่อมโยงกันในบางพื้นที่ก็มีมาตลอด ซึ่งกระบวนการที่เข้ามาเกี่ยวข้องมีความหลากหลายพอสมควร ตอนนี้ยังอยู่ในวิสัยที่รัฐรับมือได้
เมื่อถามว่า นายกฯพูดเหมือนกับตั้งข้อสังเกตไม่ใช่คนบ้านเราที่เป็นผู้ก่อเหตุ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ในบางเหตุการณ์พฤติกรรม รูปแบบการกระทำมันไม่เหมือน ฉะนั้นตรงนี้จำเป็นต้องมีการตรวจสอบให้ละเอียดและเร่งหาข้อเท็จจริงมาให้ได้ เพื่อแก้ไขปัญหาข้างหน้าได้ในทิศทางที่เกี่ยวข้อง สำหรับความคิดเห็นของ ส.ส.และส.ว.เกี่ยวกับแนวทางการแก้ไขปัญหาภาคใต้นั้น เห็นว่ามีบางท่านให้สัมภาษณ์แล้วและตนจะพูดคุยเพิ่มเติมอีกครั้ง
เมื่อถามว่า แสดงว่าไม่สามารถยกเลิกประกาศพ.ร.ก.ฉุกเฉินได้ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ยังรอการประเมินจากนายถาวร ที่กำลังดำเนินการอยู่ มันจะสรุปว่ามีเหตุแล้วต้องมี พ.ร.ก.ก็ไม่ได้เหมือนกัน
ส่วนกรณีที่มีการพบอาวุธสงคราวและระเบิดที่ย่านบางกอกน้อย และเกรงจะมีการก่อเหตุในพื้นที่ กทม.ที่จะมีการชุมนุมป่วนเมืองในเดือนนี้นั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ยังไม่รู้เรื่อง ซึ่งทางฝ่ายความมั่นคงกำลังติดตามความเคลื่อนไหวส่วนต่างๆอยู่