“กอร์ปศักดิ์” ย้อนพรรคร่วมวิจารณ์ รบ. สะท้อนเงาตัวเอง

“กอร์ปศักดิ์” ระบุพร้อมยอมรับคำวิจารณ์ ตอกกลับพรรคร่วมวิจารณ์รัฐบาลเท่ากับวิจารณ์ตัวเอง ซัดไม่รู้เรื่องเพราะไม่ได้ร่วมประชุมร่วม ครม. ยันหลายโครงการกำลังทำอยู่ โดยเฉพาะ “คอนแทร็กฟาร์มมิ่ง” ทำแล้ว มั่นใจรอยร้าวพรรคร่วมไม่กระทบเสถียรภาพรัฐบาล

วันนี้ (8 มิ.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีพรรคร่วมรัฐบาลบางคนออกมาระบุว่า 5 เดือนรัฐบาลยังไม่มีผลงานว่า ตนรับฟังคำวิจารณ์ แต่พรรคร่วมรัฐบาลที่ออกมาพูดก็เหมือนกับวิจารณ์ตนเอง แต่เราก็ต้องพยายามทำงานต่อไป

“บางคนที่วิจารณ์อาจจะไม่ทราบว่าเรากำลังทำอยู่ เพราะท่านไม่เข้าใจและไม่ได้อยู่ในที่ประชุมด้วยจึงวิจารณ์มา หรือที่บอกว่าให้ทำคอนแทร็กฟาร์มมิ่ง ซึ่งโครงการนี้เราเพิ่งอนุมัติคอนแทร็กฟาร์มมิ่งเรื่องกุ้งไป แต่ไม่มีปัญหา เป็นเรื่องปกติ เราเป็นคนทำงานก็รับฟังและปรับปรุงตัวเอง ส่วนที่ว่ารัฐบาลเข้าไปสอดแทรกทุกกระทรวงนั้นไม่เป็นความจริง แต่รัฐบาลจะดูที่ความจำเป็นมากกว่า โดยที่ไม่ได้ดูว่าโครงการนั้นๆ พรรคใดเป็นผู้ดูแล” นายกอร์ปศักดิ์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า นายเนวิน ชิดชอบ แกนนำกลุ่มเพื่อนเนวิน บอกว่าไม่ต้องรองบจากรัฐบาล แต่มีงบของท้องถิ่นอยู่แล้ว รองนายกฯ กล่าวว่า บางอย่างก็เป็นงบท้องถิ่นซึ่งเขาสามารถดำเนินการได้แล้ว ซึ่งตนสนับสนุนเต็มที่ เมื่อถามว่าจะป้องกันการทุจริตได้อย่างไร นายกอร์ปศักดิ์กล่าวว่า อย่าไปคิดว่าทุกคนจะทุจริต ทุกคนก็ทำงานเพื่อสร้างชื่อเสียงให้แก่ตัวเอง

ผู้สื่อข่าวถามว่า การที่พรรคร่วมรัฐบาลออกมาวิจารณ์กันเองอย่างนี้จะทำให้การทำงานของรัฐบาลสะดุดหรือไม่ นายกอร์ปศักดิ์กล่าวว่า คิดว่าเป็นเรื่องปกติ เราก็ทำงานไป และไม่คิดว่าจะทำให้การทำงานของรัฐบาลสะดุด เมื่อมีปัญหาตรงไหนก็มาคุยกันในที่ประชุม ครม. และเมื่อมติออกมาก็แสดงว่า ครม.ทุกคนให้ความเห็นชอบแล้ว แต่การสะดุดนั้นบางทีการทำงานไม่ได้สะดุดเพราะผู้บริหารระดับสูงเสมอไป บางครั้งก็สะดุดในลักษณะของกลไกทางราชการ อย่าไปมองอะไรในแง่ร้าย

เมื่อถามว่าบางโครงการรัฐบาลทำแบบไม่มีเป้าหมายที่ชัดเจน เช่น โครงการรถเมล์ NGV 4 พันคัน รองนายกฯ กล่าวยืนยันว่า รัฐบาลมีเป้าหมายที่ชัดเจนแน่นอน โดยเฉพาะต้องการปรับปรุง ขสมก.ให้มีประสิทธิภาพ และขาดทุนน้อยที่สุด และที่เป็นเป้าหมายมานานแล้วก็คือ ขสมก.ควรจะปรับเปลี่ยนรถโดยสารทั้งหมดที่มีอยู่เพราะเก่ามากแล้ว และสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงมากจึงคิดที่จะใช้ NGV เข้ามา ที่สำคัญที่ต้องคิดคือ หากลงทุนจะลงทุนแบบไหน เช่า หรือซื้อ ซึ่งหลังจาก 30 วันที่ให้สภาพัฒน์ไปศึกษาก็น่าจะรู้ว่าผลจะเป็นอย่างไร

ผู้สื่อข่าวถามว่า คิดว่าปัญหานี้จะนำไปสู่ความแตกแยกทางการเมืองหรือไม่ นายกอร์ปศักดิ์กล่าวว่า ไม่คิด เพราะเมื่อผลสรุปออกมาอย่างไรก็คงต้องเป็นไปตามนั้น อย่าลืมว่าค่าเช่าจะมีรายละเอียดของโครงสร้างค่าเช่าเยอะ แต่อยากให้ดูว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องของราคากลาง ผู้ประมูลอาจจะประมูลต่ำกว่านี้ก็ได้ วิธีสำคัญที่ควรจะดูกันก็คือวิธีการประมูลมากกว่าว่าเราจะป้องกันอย่างไรให้มีการประมูลที่โปร่งใสเท่านั้นเอง