รองนายกฯ ด้านเศรษฐกิจ ยันปัญหาข้าวยุติวันนี้หลัง “สุเทพ” มาเป็นกาวใจ ยันจำเป็นต้องเดินหน้ารับจำนำ เพราะไม่มีทางเลือก ยอมรับรัฐไม่มีเงินมาก แต่ไม่จนปัญญา
วันนี้ (3 มิ.ย.) นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุม ครม.ถึงโครงการระบายสินค้าเกษตรที่จะนำเข้าสู่การพิจารณาของ ครม.วันนี้ว่า เป็นไปตามที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ได้หารือไว้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลงจากที่นายสุเทพได้นำเสนอกระทรวงพาณิชย์ไว้ เมื่อถามถึงม็อบเกษตรกรที่มีการเคลื่อนไหวในภาคเหนือขณะนี้ รองนายกฯ กล่าวว่า โดยปกติอยู่ดีๆ เราจะไม่ไปประกาศหยุดรับจำนำ เพราะโควตายังมีเหลืออยู่ แต่ตนไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ไม่เป็นไรเดี๋ยวก็รีบแก้ไขกันไป คิดว่าวันนี้น่าจะมีข้อยุติ
เมื่อถามว่าเกษตรกรมีการเรียกร้องให้ขยายโควต้าการรับจำนำไปอีก นายกอร์ปศักดิ์กล่าวว่า ระบบจำนำนี้มันมีปัญหาว่าเราจำนำราคาสูงกว่าตลาด เพราะเป็นราคาที่อิงเมื่อสมัยข้าวราคาสูงและรัฐบาลเดิมได้ทำไว้ ราคาจำนำค่อนข้างจะสูงมาก เพราะฉะนั้นมันไม่ใช่การจำนำ เนื่องจากเป็นการจำนำที่ไม่มีการมาถ่ายถอนคืน เท่ากับรัฐต้องไปรับซื้อข้าวทั้งหมดของเกษตรกร และกลไกตลาดของเอกชนเดินไม่ได้เลย เพราะเขาไม่สามารถซื้อข้าวในราคาที่รัฐบาลจำนำได้ เพราะเขาไปจำหน่ายไม่ได้ ราคาข้าวจะสูงมาก ซึ่งนี่ก็เป็นความบิดเบือนของตลาด แต่รัฐบาลเมื่อรับภาระตรงนี้มาแล้วก็ต้องพยายามแก้ไขเท่าที่จะทำได้
“มันไม่ใช่ราคาจำนำ เวลานี้กลายเป็นว่ารัฐจะต้องซื้อข้าวทั้งหมด ซึ่งปริมาณข้าวนาปรังเดิมที่มีไม่มาก แต่วันนี้กลายเป็นมีจำนวนมาก ซึ่งไม่รู้ว่ามีการเวียนกันหรือไม่ กระทรวงพาณิชย์ก็ต้องรับผิดชอบเข้าไปตรวจสอบให้ชัดเจน” รองนายกฯ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า เมื่อเป็นเช่นนี้มีแนวคิดที่จะยกเลิกระบบการรับจำนำหรือไม่ นายกอร์ปศักดิ์กล่าวว่า คงทำไม่ได้ในขณะนี้ เพราะระบบของการประกันไม่ว่ารูปแบบไหนจะต้องเริ่มก่อนฤดูกาล ไม่ใช่มาเริ่มขณะที่ข้าวออกมาแล้ว เพราะฉะนั้น ระบบการประกันรายได้ของเกษตรกรเขาต้องรู้ล่วงหน้า เราจะมาทำกลางคันคงไม่ได้ ต้องทำเรื่องเก่าให้จบไปก่อน เมื่อถามว่าถ้าอย่างนั้นวิธีการแก้ปัญหาจะทำอย่างไร นายกอร์ปศักดิ์ กล่าวว่า ขณะนี้คงไม่มีทางเลือกที่จะต้องไปตรวจสอบให้เข้มข้นในเรื่องของการหมุนเวียน ซึ่งหากเป็นเรื่องที่เงินส่วนนี้ถึงมือเกษตรกรโดยตรง รัฐบาลก็รับได้ เพราะเท่ากับเป็นการช่วยเหลือเกษตรกร ขออย่างเดียวให้ตกถึงมือเกษตรกร ซึ่งเรื่องเหล่านี้ก็เป็นหน้าที่ของกระทรวงพาณิชย์
“สิ่งที่เกษตรกรเรียกร้องก็ไม่มีอะไร ก็เหมือนกันทุกภาค คืออยู่ดีๆ เราไปหยุดการรับจำนำเท่านั้นเอง ถ้าเราทำต่อก็ทำได้ สำคัญก็คือเรามีเงินหรือเปล่า ซึ่งเงินจำนวนนี้ส่วนหนึ่งก็ถึงมือเกษตรกร แต่อีกส่วนหนึ่งจะไปเป็นภาระที่รัฐบาลจะไปเก็บมาแปรสภาพ มาเก็บไว้และดูแลรักษาจนกว่าจะจำหน่ายออกไปได้ แทนที่ในระบบทั่วไปผู้ค้าจะเป็นผู้เก็บสต๊อกแล้วเอาไปขาย แต่เวลานี้กลายเป็นว่ารัฐบาลต้องมาเก็บสต๊อก และเวลาขายออกไปก็ขายในราคาต่ำ ไม่ได้สูงหรือเท่ากับราคาตลาด ตรงนี้ก็จะเป็นปัญหา ซึ่งเป็นภาระมาก แต่ว่าวันนี้มติ ครม.ที่จะออกมาที่ให้กระทรวงพาณิชย์เดินหน้าต่อนั้นผมว่าก็จะทำให้ทุกอย่างเดินหน้าต่อไปได้ ขลุกขลักนิดหน่อยแต่ก็น่าจะเดินไปได้” รองนายกฯ กล่าว เมื่อถามว่ารัฐบาลจะรับมืออย่างไร เพราะจะกลายเป็นสารพัดม็อบที่จะมากดดันรัฐบาล รองนายกฯ กล่าวว่า เรื่องนี้ตนคงไม่ให้ความเห็น
เมื่อถามว่าแสดงว่าจะไม่หยุดรับจำนำข้าวจะเดินหน้าต่อไปใช่หรือไม่ นายกอร์ปศักดิ์กล่าวว่า คิดว่าคงไม่ค่อยมีทางเลือกเท่าไหร่ เพราะหากเป็นเรื่องของเกษตรกรอย่างแท้จริง รัฐบาลก็มีหน้าที่ต้องดูแล ดังนั้น เราต้องเดินหน้าต่อเพราะเป็นโครงการต่อเนื่อง ตราบใดที่เกษตรกรยังมีข้าวอยู่มือ อยู่ดีๆ เราจะไปบอกว่าหยุดรับจำนำไม่ได้ จำนวนเราตั้งไว้ แต่กำหนดเวลายังไม่ถึง ขณะนี้เลยกลายเป็นว่ารัฐบาลเป็นผู้ค้าข้าวเอง ซึ่งชี้ให้เห็นว่าการจำนำเป็นราคาที่สูงเกินความเป็นจริง ราคาตลาดปัจจุบันข้าวไม่ได้สูงขนาดนั้น นี่คือปัญหาที่เกิดขึ้น
เมื่อถามว่าขณะนี้รัฐบาลมีเงินพอที่จะแก้ปัญหานี้หรือไม่ นายกอร์ปศักดิ์กล่าวว่า เงินไม่ค่อยมีหรอกเพราะภาษีก็เก็บได้น้อย แต่รัฐบาลไม่จนปัญหาหรอก ทำได้อยู่แล้ว ซึ่งเงินที่จะใช้ดูแลรักษาประมาณ 2 พันล้าน แต่เงินที่จะให้เกษตรกรก็เป็นอีกส่วนหนึ่ง อย่างไรก็ตาม ขณะนี้เริ่มมีข้าวเข้ามาเยอะเราก็ต้องรีบระบายออกไป ซึ่งหลักเกณฑ์ในการระบายวันนี้คงได้ข้อยุติ หลังจากนั้นกระทรวงพาณิชย์ก็สามารถเดินหน้าได้เลย