ปธ.คกก.ยุทธศาสตร์คุมสินค้าเกษตร ขอเป็นกาวใจแก้ไขความขัดแย้งการระบายข้าวในสต๊อกของกระทรวงพาณิชย์ และปัญหาการเช่ารถเมล์เอ็นจีวี มั่นใจเคลียร์ใจพรรคภูมิใจไทยได้ภายในสัปดาห์นี้ก่อนหาข้อสรุปรายงานต่อที่ประชุม ครม.สัปดาห์หน้า
วันนี้ (27 พ.ค.) นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ดูแลด้านความมั่นคง ให้สัมภาษณ์ถึงการที่ครม.มอบหมายให้เป็นประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์กำกับดูแลสินค้าเกษตรว่า จะมีการประชุมกันเย็นนี้ที่ทำเนียบรัฐบาล เวลา 18.00 น. เมื่อถามว่าทำไมจึงมีการตั้งรองนายกฯด้านความมั่นคงมาดูเกี่ยวกับเรื่องเศรษฐกิจ นายสุเทพ กล่าวว่า พืชเกษตรหลายชนิด ทั้งข้าว ข้าวโพด มันสำปะหลัง ยางพารา ปาล์มน้ำมัน ถือเป็นพืชเกษตรที่คนส่วนใหญ่ในประเทศทำอาชีพนี้อยู่ จึงต้องพยายามดูแลเพื่อให้รายได้ของเกษตรกรที่ทำอาชีพนี้มีรายได้ดีขึ้น และบังเอิญว่าตนมีความใกล้ชิดสนิทสนมกับรัฐมนตรีทุกคน ครม.จึงมอบหมายให้ตนช่วยดูแล พูดคุยกัน
ผู้สื่อข่าวถามว่าจะมีการวางแนวอย่างไรเพื่อให้มีการประสานกันทุกฝ่ายหลังจากมีข่าวความขัดแย้งกันระหว่างนายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกฯและนางพรทิวา นาคาศัย รมช.พาณิชย์ รองนายกฯ กล่าวว่าไม่คิดว่าเป็นเรื่องของความขัดแย้งอะไร แต่ความคิดเห็นในเรื่องต่าง ๆ สามารถเห็นต่างกันได้ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติ ตนก็จะพยายามให้ทุกฝ่ายพยายามพูดคุยกันให้มาก และเชื่อว่าการพูดคุยกันด้วยเหตุผลก็จะทำให้ได้แนวทางที่ดีของแต่ละคน และจะได้ผลสรุปที่เป็นที่ยอมรับด้วยกันได้ของทุกฝ่าย
เมื่อถามว่าเป็นการลดแรงเสียดทานระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ จึงได้วางตัวท่านมาช่วยดูแลเรื่องนี้ รองนายกฯ กล่าวว่า “ผมมันประเภทยาสามัญประจำบ้าน เป็นอะไรก็ใช้ได้ ปวดหัวตัวร้อนก็ถูได้ ทาได้ ไม่มีปัญหา” เมื่อถามว่าคิดว่าจะทำให้บรรยากาศดีขึ้น สามารถประสานรอยร้าวได้หรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ดี ตนรับรองว่าดี ทุกอย่างต้องดีและจะได้มาตรการแนวทาง ที่ตนเชื่อว่ามีเหตุ มีผลและเป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย สำหรับตนเป็นคนมองโลกในแง่ดี ไม่ค่อยมีปัญหา
ผู้สื่อข่าวถามว่าคณะกรรมการชุดนี้ จะตั้งขึ้นมาเฉพาะกิจหรือทำงานต่อเนื่องไปตลอด นายสุเทพ กล่าวว่า ตนเป็นรองนายกฯ เมื่อนายกฯใช้ให้ทำเรื่องอะไร ก็ทำไปตามที่มีคำสั่ง ตนมีหน้าที่ช่วยงานนายกฯ ส่วนเรื่องนี้จะมีแนวทางอย่างไร ก็ขอให้มีการประชุมกันในวันนี้ก่อน เพราะต้องถามจากกรรมการคนอื่นด้วยทั้งนายกอร์ปศักดิ์ นายประดิษฐ์ นางพรทิวา และทางเลขาฯสภาพัฒน์ ที่ร่วมเป็นกรรมการฯ ก็จะถามความเห็นจากทุกคน ส่วนตัวเองก็มีความเห็นอยู่เหมือนกันเพราะก็ติดตามเรื่องนี้มาตลอด ซึ่งหลังประชุมร่วมกันก็น่าจะได้แนวทางที่ดี
เมื่อถามว่าโครงการประมูลให้เอกชนครั้งก่อนจะต้องหยิบมาดูด้วยหรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า ตนคงยังไม่พูดเพราะต้องเคารพความเห็นคนอื่นด้วย ต้องให้ได้ข้อยุติที่ดีและนำเสนอครม.ก่อน สำหรับเวลานั้น คงรอให้มีการประชุมวันนี้ก่อน หากทุกอย่างลงตัวก็อาจจะจบวันนี้ แต่หากยังไม่มีความชัดเจน ยังต้องดูข้อมูลเพิ่ม ก็อาจจะวันจันทร์หรืออังคารก็น่าจะยุติได้ และวันพุธก็จะเสนอครม.เศรษฐกิจได้
ผู้สื่อข่าวถามว่าคณะกรรมการชุดนี้ เป็นข้อเสนอจากพรรคภูมิใจไทยหรือความคิดของนายกฯเอง นายสุเทพ กล่าวว่า ปกติในครม.มีการพูดกันหลายเรื่อง และตนเห็นว่าเรื่องนี้พูดกันนานแล้ว ดูแล้วน่าจะหาข้อยุติยาก ซึ่งตนก็นั่งติดนายกฯอยู่แล้ว และนายกฯก็คิดว่าอยากจะให้มีคณะกรรมการชุดเล็ก ๆ ไปนั่งพูดคุยกันก่อน ซึ่งพูดอย่างนี้ก็ต้องเป็นตนอยู่แล้ว จึงได้อาสาตามฟอร์ม
“ยืนยันว่าเรื่องนี้จะไม่ทำให้เกิดรอยร้าวในรัฐบาลใด ๆ ทั้งสิ้น ผมรับรองได้ ผมพูดคุยกับพรรคร่วมรัฐบาลแต่ละพรรคได้ ไม่มีปัญหา และกรณีนี้ไม่ใช่เรื่องการดึงอ้อยออกจากปากช้าง งานนี้ไม่มีอ้อย ไม่มีช้าง มีแต่ข้าว มีแต่มัน มีแต่ข้าวโพด ไม่มีอ้อย ไม่มีช้าง”รองนายกฯ กล่าว
เมื่อถามถึงแนวคิดที่จะเลิกระบบรับจำนำสินค้าเกษตรที่เป็นช่องโหว่ในการทุจริตมาตลอด จะมีแนวคิดนี้อย่างไร นายสุเทพ กล่าวว่า ยังไม่ได้คุยกันในเรื่องเหล่านี้ แต่เมื่อเราทำงานไปแล้วก็ต้องมาสรุป บทเรียนเป็นระยะ ๆ และต้องมาหาวิธีการที่ดีกว่าเดิม ได้ผลมากกว่าเดิมมาทำ ซึ่งเชื่อว่าอนาคตจะมีการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น เมื่อถามว่ากังวลที่เอกชนจะฟ้องร้องรัฐบาลหรือไม่หากมีการระบายข้าวไม่ทัน รองนายกฯ กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นหน้าที่ของกระทรวงพาณิชย์
นายสุเทพ ยังกล่าวถึงโครงการรถเมล์เช่า NGV 4 พันคันที่มีการติงถึงราคาค่าเช่า ค่าซ่อมที่แพงเกินไปว่า เรื่องนี้เข้าครม.มา 2-3 ครั้งแล้ว ซึ่งในหลักการคิดว่าทุกคนเห็นด้วย เพราะขสมก. ไม่มีเงินมากมายที่จะบริหารจัดการด้วยวิธีการปกติ จึงต้องเช่าและเหมาค่าซ่อมบำรุงไปทั้งหมด แต่ที่ครม.ติงกันคือค่าเช่าน่าจะแพงไปหรือไม่ ซึ่งมีข้ออธิบายมาก และเมื่อมีข้ออธิบายมาก็ทำให้มีข้อสงสัยมากขึ้นไปอีก แต่สิ่งหนึ่งที่ครม.ให้ตนช่วยประสานงานพูดจาก็คือ ขอให้เป็นรถยนต์ที่ประกอบในเมืองไทยให้มากที่สุด อย่างน้อยต้องเกินครึ่งหนึ่ง เพราะจะได้ช่วยให้คนไทยมีงานทำมากขึ้น อาจสักประมาณ 70 % ซึ่งก็ต้องพยายามแก้ไขปรับปรุงกันไป เอาอะไรที่เป็นประโยชน์กับประชาชนมากที่สุดก็แล้วกัน
นายสุเทพ ยังกล่าวถึงข้อสงสัยที่ว่าเช่ารถใหม่ ทำไมจึงมีการตั้งค่าซ่อมไว้ก่อนล่วงหน้า รองนายกฯ กล่าวว่า ตนจำไม่ได้ว่าที่เช่านี้ต้องใช้เวลาเท่าไหร่ อาจจะ 10-15 ปี แต่ความจริงรถพอใช้ไป 2-3 ปีก็ต้องซ่อมแล้วก็ต้องมีการบำรุงรักษา เขาจึงคิดค่าบำรุงรักษาไว้ตั้งแต่ต้นว่าค่าบำรุงรักษาทั้งหมดเท่าไหร่
ผู้สื่อข่าวถามว่าสิ่งที่พรรคประชาธิปัตย์ท้วงติงไว้ตอนเป็นฝ่ายค้านจะนำมาดูหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่าเอามาดูทั้งหมดโดยเฉพาะการให้ผลิตในเมืองไทย และให้ทางขสมก.เขาระบุไว้เป็นเงื่อนไขเลย ส่วนราคาที่กำหนดไว้นั้นจะลดลงมาอีกได้หรือไม่ตนไม่ทราบ ต้องถามรมต.เจ้ากระทรวง
เมื่อถามว่ารัฐบาลตีกลับโครงการใหญ่ 2 โครงการของภูมิใจไทยทั้งโครงการระเมล์และระบายข้าว คิดว่าจะมีปัญหาในพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่มี เรื่องอย่างนี้ไม่ใช่เรื่องที่ต้องโกรธกัน เพราะครม.มีหน้าที่ต้องรับผิดชอบร่วมกัน และในฐานะผู้จัดการรัฐบาลยืนยันว่าไม่มีปัญหาในรัฐบาล ตนมีความสัมพันธ์ที่ดีในพรรคร่วมรัฐบาลและทราบดีว่าพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคก็เข้าใจ ไม่มีปัญหา
