xs
xsm
sm
md
lg

“มาร์ค” ยอมหักรถเมล์โจร เชื่อหาก ปชช.กังขารัฐบาลอยู่ไม่ได้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


นายกรัฐมนตรีย้ำโครงการรถเมล์เช่าเอ็นจีวีจำเป็นต้องคำนึงถึงกระแสสังคม ไม่หวั่นกระทบเสถียรภาพรัฐบาล เชื่อหาก ปชช.กังขา รัฐบาลก็อยู่ไม่ได้ มั่นใจ พ.ร.ก.กู้เงินผ่านฉลุยเตรียมแผนกระตุ้นเศรษฐกิจระยะที่ 2 คาดเม็ดเงินผันเข้าสู่โครงการก่อนสิ้นปีงบประมาณ

คลิกที่นี่ เพื่อฟังรายการ “เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯ อภิสิทธิ์”

วันนี้ (7 มิ.ย.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีได้กล่าวผ่านรายการ “เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯ อภิสิทธิ์” ทางสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทย กรมประชาสัมพันธ์ ถึงผลสำเร็จในการเดินทางไปเยือนสาธาณรัฐเกาหลีว่า หัวข้อสนทนาได้หารือเกี่ยวกับความสำเร็จของอุตสาหกรรมบันเทิง ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศที่เข้ามาอิทธิพลเพิ่มขึ้นประเทศไทย หรือความร่วมมือพลังงานทดแทน การลดภาวะโลกร้อน พืชผลทางการเกษตรมั่นใจว่าในช่วง 3-4 ปีข้างหน้าจะเห็นผลเป็นรูปธรรม นอกจากนี้ยังมีประเทศที่แจ้งความจำนงในความเป็นมิตรประเทศเพิ่มขึ้นคือญี่ปุ่น ส่วนสัปดาห์หน้าที่จะถึงนี้จะเดินทางไปเยือนมาเลเซีย และกัมพูชา เพื่อกระชับความสัมพันธ์ และหารือปัญหาเศรษฐกิจและการลงทุน ซึ่งหลังจากการประชุมสภาวิสามัญคาดว่าประมาณเดือนกรกฎาคมจะได้มีเวลาลงพื้นที่ในจังหวัดต่างๆบ้าง

นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า เป็นที่ทราบกันแล้วว่าเมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมาศาลรัฐธรรมนูญได้ให้ความเห็นกับการออก พ.ร.ก.กู้เงิน และก็ได้มีการอเป็นพระราชกฤษฎีกาเพื่อขอเปิดประชุมสมัยวิสามัญ เพื่อขอความเห็นชอบรัฐสภาต่อการผ่านร่างฉบับนี้ในวันที่ 15 มิ.ย.เพื่อที่จะได้เพื่อนำเงินเหล่านี้มากระตุ้นเศรษฐกิจในระยะที่สองต่อไป

สำหรับรัฐวิสาหกิจที่วิพากษ์วิจารณ์มาช้านานแล้วในเรื่องประสบภาวะขาดทุน ทั้งการรถไฟแห่งประเทศไทย และองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ เช่น โครงการรถเมล์เช่าเอ็นจีวี มีข้อทักท้วงเข้ามามากมาย ซึ่งที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเห็นตรงกันว่าถึงเวลต้องปฏิรูป เพราะหากการบริหารยังไม่เปลี่ยนแปลง การลงทุนไม่ว่ารุปแบบใดก็ตามในอนาคตข้างหน้าก็จะเสื่อมลงเหมือนเดิม ซึ่งเรื่องนี้รัฐบาลตระหนักดีถึงประโยชน์สูงสุดต้องอยู่ที่ประชาชน ครม.ทั้งคณะต้องรับผิดชอบร่วมกัน โดยจะใช้หลักการนี้เป็นหลักในการปกครองตามระบอบประชาธิปไตย

ในช่วงตอบข้อซักถาม พิธีกรรับเชิญวันนี้ นางสโรชา พรอุดมศักดิ์ จากสถานีโทรทัศน์เคเบิลทีวีเอเอสทีวี ได้รับโอกาสซักถามเกี่ยวกับการออก พ.ร.ก.กู้เงินที่จะเข้าจะบรรจุเข้าสู่การพิจารณาของสภาฯ ว่าจะสามารถนำมาซึ่งมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจได้เมื่อไหร่และจะใช้เวลานานแค่ไหนในการเห็นผลเป็นรูปธรรม โดยนายอภิสิทธิ์กล่าวมั่นใจว่า บางโครงการสามรถดำเนินได้ทันทีก่อนสิ้นปีงบประมาณ คือเดินกันยายนเป็นต้นไป สำหรับในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมา อยู่ในช่วงใช้งบประมาณ ปี 52 จึงจำเป็นต้องเสริมกำลังซื้อเสียเป็นหลัก เช่น เช็คช่วยชาติ สร้างงาน เรียนฟรี หรือเบี้ยยังชีพผุ้สูงอายุซึ่งก็ได้รับการตอบรับด้วยดี

ส่วนประเด็นรถเมล์เช่า เมื่อได้รับคำตอบจากสภาพัฒน์ภายในกรอบ 1 เดือน จะต้องนำกลับเข้ามาหารือในที่ประชุม ครม.ส่วนการจะทำประชาพิจารณ์หรือไม่นั้น ก็เป็นอีกหนึ่งข้อเสนอหนึ่ง ยอมรับว่าการชะลอโครงการต่างๆ อาจจะกระทบความสัมพันธ์พรรคร่วมบ้าง แต่อย่าใช้ประโยชน์ทางการเมืองเป็นเครื่องตัดสิน ไม่ได้คำนึงว่าข้อเสนอของพรรคไหนแต่ขอให้ยึดประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้ง อย่าให้เกิดข้อกังขา ไม่เช่นนั้นรัฐบาลจะบริหารบ้านเมืองไม่ได้

สำหรับปัญหาตัวเลขการว่างงาน ตั้งแต่กุมภาพันธ์ไม่ได้น่าวิตกตามที่ประเมินกันไว้ ขณะที่ตัวเลขการว่างลดลงอยู่ที่ประมาณ 7-8 แสนคน กระทรวงแรงงานจึงได้เข้าไปเจรจาเพื่อขอให้ผู้ประกอบการที่ประสบปัญหาชะลอการเลิกจ้าง ซึ่งมาตรการกระตุ้นการสร้างงานก็จะได้เร่งเข้าไปช่วยเหลือ ส่วนตัวเชื่อว่าผู้ประกอบการเองก็ไม่อยากเลิกจ้าง ดังนั้น รัฐบาลจึงจำเป็นที่จะต้องมีมาตรการเข้าไปช่วยเหลือ


กำลังโหลดความคิดเห็น