xs
xsm
sm
md
lg

“เนวิน-ภท.”เสือลำบาก ลับเขี้ยวรอตลบ ปชป.

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวการเมือง

เนวิน ชิดชอบ
อาการยิ้มรับสิ่งที่เกิดขึ้นเหมือนกับพึงพอใจ ที่แท้เป็นเพียงมายาภาพ แต่ภายในใจคนอย่างเนวิน ชิดชอบและบรรดาแกนนำพรรคภูมิใจไทยอัดแน่นด้วยความเจ็บปวด และคุโชนไปด้วยไฟแค้น

รอวันเอาคืนให้สาสมในเร็ววันนี้

ที่โดนเพื่อนรักพรรคร่วมรัฐบาล ประชาธิปัตย์และนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีหักเหลี่ยมโหด แทงซึ่งหน้า ล้วงคอกระชากชิ้นเนื้อก้อนโตออกจากปาก

ทีมข่าวการเมืองเชื่อว่า เรื่องระหว่างพรรคภูมิใจไทยกับนายกฯอภิสิทธิ์ เป็นเวรกรรมที่มาแบบติดจรวดโดยแท้

หากยอมรับว่าเนวิน ชิดชอบและภูมิใจไทยเป็นเสือ พวกเขาก็คือเสือร้ายที่เพิ่งฉีกเนื้อเจ้าของคนเก่าอย่างทักษิณ ชินวัตร จนบาดแผลเหวอะหวะสะบักสะบอม แทบจะไม่มีแผ่นดินซุกหัวนอน เนวินกับพวกจึงถูกตราหน้าว่า

เนรคุณ

เมื่อได้ร่วมรัฐบาลอีกครั้ง คงหลงในเงาอำนาจของตนเอง ทำให้คิดว่าอภิสิทธิ์และประชาธิปัตย์ คือลูกแกะ ที่จะบีบบังคับอย่างไรก็ได้ ด้วยเหตุคิดเพียงแค่ว่า

หากไม่มีเนวิน ไร้ภูมิใจไทย อภิสิทธิ์และประชาธิปัตย์ ก็ล้มครืนจากอำนาจ

แท้จริงแล้ว เนวิน-ภูมิใจไทย หลงลืมไปว่า ไม่ใช่อภิสิทธิ์หรือเนวินหรอกที่ทำให้มีรัฐบาลประชาธิปัตย์วันนี้ แต่เป็นเพราะกระแสสังคม สำนึกรักความถูกต้องของประชาชนต่างหากที่ร่วมกันกับพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ผนึกกับไล่รัฐบาลนอมินีพรรคพลังประชาชน สมุนทรราชทักษิณ ชินวัตร

จนเกิดการสับเปลี่ยนขั้วอำนาจ จากรัฐบาลพลังประชาชนมาเป็นรัฐบาลประชาธิปัตย์

เนวิน-ภูมิใจไทย เกิดอาการย่ามใจหนัก คิดว่าจะทำอะไรก็ได้ เพราะอภิสิทธิ์-ปชป.ไม่กล้าหือหรือทำฮึดฮัด ไม่เช่นนั้นจะเจอดี เขย่าเก้าอี้ให้สั่นคลอน ภูมิใจไทยจึงคิดทำอะไรแบบสุ่มสี่สุ่มห้าในการเสนอโครงการและนโยบายต่างๆ ที่ขับเคลื่อนผ่านรัฐมนตรีของพรรคภูมิใจไทย แบบ

“โฉ่งฉ่าง”

จึงถูกอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และพรรคประชาธิปัตย์ สวมบท “นายพราน”ไล่ล่าในตอนนี้ จนต้องถอยร่นไม่เป็นขบวน มันก็เลยทำให้ เนวิน และภูมิใจไทย กลายเป็นเสือที่ถูกไล่ล่า เป็นกรรมเวรที่ตามมาเร็วทันตาเห็น


ภาพติดลบอย่างหนัก กับภาพลักษณ์พรรคการเมืองจ้องฟาดผลประโยชน์ ที่ภูมิใจไทยถูกยิงแฮททริค จากพรรค ประชาธิปัตย์ ขัดขวางโครงการในมือพรรคภูมิใจไทยเกือบทุกเรื่องทุกโครงการ

ไล่ตั้งแต่สัปดาห์แรก โครงการประมูลขายข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ 4.5 แสนตันมูลค่า 2 พันกว่าล้านบาทของพรทิวา นาคาสัย รมว.พาณิชย์และเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย ที่ถูกตีตกจนหลุดออกจากวาระเห็นชอบกลางที่ประชุมคณะรัฐมนตรี

ตามด้วยสัปดาห์ที่ 2 กับโครงการขายข้าวเปลือก 2 ล้านตัน ของพรทิวา ที่เจอไปสองดอกติดกันทำเอาเดินเข้ากระทรวงพาณิชย์แทบไม่เป็น

หลังสังคม-วงการธุรกิจเริ่มเห็นแล้วว่า รมว.พาณิชย์คนนี้มีปัญหาในการบริหารงานแน่นอน เพราะขนาดเพื่อนร่วมครม.ยังไม่หนุน ไม่ส่งเสริม
แล้วจะหาหลักประกันความมั่นใจให้กับวงการค้าขายได้อย่างไร

เรียกได้ว่าทำเอาภูมิใจไทยความเชื่อมั่นหดหาย เสียหายอย่างหนักทางการเมืองในสายตาวงการธุรกิจ

และสัปดาห์ที่ 3 กับผลการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อ 3 มิถุนายนที่ผ่านมา ที่รถเมล์ฉาวค่ายภูมิใจไทยถูกสกัดหยุดอยู่กับที่ ทั้งที่แกนนำพรรคทั้งเนวิน ชิดชอบ-ชวรัตน์ ชาญวีรกูล-โสภณ ซารัมย์-ประจักษ์ แก้วกล้าหาญ-บุญจง วงศ์ไตรรัตน์ ผลักดันสุดฤทธิ์

ก็ยังแห้วรับประทาน

เพราะเจอพลพรรคประชาธิปัตย์ อาศัยความชำนาญเกมเรื่อง “กระแสสังคม”มาเป็นเครื่องสกัด แถมด้วยกองหนุนที่เอาด้วยกับการขวางไม่ให้มีการเขมือบโครงการนี้ ทั้งสื่อมวลชน สมาชิกวุฒิสภา องค์กรเคลื่อนไหวการเมืองอิสระ เสียงของประชาชนผู้ขึ้นรถเมล์ ขสมก.-กลุ่มผู้ประกอบการรถร่วม ขสมก.ที่นำเสนอข้อมูลความแตกต่างอย่างเห็นได้ชัดของการตั้งโครงการจากกระทรวงคมนาคมที่ทำให้รัฐเสียประโยชน์มหาศาล

ทั้งหมดจึงเป็นพลังต่อต้านความพยายามกินรวบโครงการนี้อย่างทรงพลัง และได้ผล

เมื่อรถเมล์ฉาวภูมิใจไทย บึ่งเข้าครม.ได้ แต่เข็นออกมาจากทำเนียบรัฐบาลไม่ได้ แม้จะเป็นการซื้อเวลาชั่วคราว 30 วัน ทว่าระดับหนึ่งก็ต้องยอมรับว่ามันทำให้

อภิสิทธิ์-ประชาธิปัตย์ได้แต้มเต็มๆ

แม้จะไม่ชนะใจผู้ชมที่ต้องการเห็น มาร์คแตกหักเนวิน ให้รู้กันไปข้าง ทว่าการที่เนวิน-ภูมิใจไทยถูกหักหน้าอย่างแรงเช่นนี้ นอกจากไม่สมประโยชน์อย่างที่ต้องการแล้ว ยัง

“ติดลบการเมือง” ยับเยิน

เพราะเวลานี้กระแสสังคมไปไกลแล้ว รู้ว่ามีการวางแผนกันเป็นขบวนการจ้องแสวงหาผลประโยชน์กันในโครงการนี้ อันเป็นกระแสที่ทำให้เนวิน-ภูมิใจไทย ที่เดิมติดลบมาแล้ว 2 โครงการใหญ่กับการเข็นข้าว-ข้าวโพดไม่สำเร็จ ก็ยิ่งกู่ไม่กลับกับความเป็น

พรรคการเมือง “ตุนเสบียง”

แต่เราขอเตือนให้สังคมจับตาดูต่อไป เมื่อ “เสือลำบาก”ก็ต้องรอวันตะครุบคืน


ตอนนี้เกิดความเคลื่อนไหวในทางลับ ที่วอร์รูมภูมิใจไทยทั้งที่ถนนพหลโยธิน อาคารที่ทำการพรรคและโรงแรมแห่งหนึ่งแถวถนนศรีอยุธยา ภายใต้การสดับฟังออกมาผ่านแกนนำพรรคว่าให้ส.ส.-ทีมงานการเมืองแต่ละคนเตรียมพร้อมในการ

“เล่นบทฝ่ายค้านในรัฐบาล”

อันเป็นลีลาการเคลื่อนไหวที่เนวินก็ถนัดไม่น้อย กับเรื่องประเภทเก็บข้อมูลต่างๆ เพื่อนำไปใช้งานในอนาคต โดยเฉพาะการฟาดฟันกับคนในรัฐบาลด้วยกันเองที่ทำให้ภูมิใจไทยต้องมีแผลออกมาจากทำเนียบรัฐบาล

ทว่า เมื่อวิเคราะห์โอกาสเอาคืนของเนวินก็พบว่า ไม่ได้ง่ายนักเพราะ ประชาธิปัตย์ เพิ่งบริหารประเทศเข้าสู่เดือนที่6 อีกทั้งร้างราการเป็นรัฐบาลมาเกือบ 8 ปี จึงยังไม่มีเรื่องอะไรใหญ่ๆ พอให้ฝ่ายตรงข้ามเก็บข้อมูลไป

ลับมีดเชือด

มันเลยทำให้ความคิดในการเอาคืนจากค่ายภูมิใจไทยไม่ได้ทำให้แกนนำพรรคประชาธิปัตย์หนักใจมากนัก เพราะเวลานี้ที่มีข่าว ก็มีแต่เรื่องเดิมๆ แถมไม่เกี่ยวกับตัวแกนนำรัฐบาลโดยตรง

ทั้งเรื่องโครงการรถบีอาร์ทีหรือโครงการสร้างทางเดินติดเกาะกลางถนน งบประมาณ 1,500 ล้าน รวมถึงโครงการทุจริตรถดับเพลิง ที่แม้จะโยงไปถึงอภิรักษ์ โกษะโยธิน รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี สมัยเป็นผู้ว่าฯกทม.แต่ก็เป็นเรื่องเดิมๆ ที่มีการตรวจสอบ และเรื่องไปถึงขั้นเตรียมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมแล้ว

ส่วนเรื่องการออกมาขวางการสานต่อและเดินหน้าโครงการเช่าที่ดินไร่ละ 10 บาทของกรมที่ดิน ที่ชวรัตน์ จับมือกับศักดิ์สยาม ชิดชอบ ก็พบว่าหากภูมิใจไทยจะขวางต่อไป ก็ถือว่าเสียเชิงอย่างมาก เพราะชวรัตน์พลิกองศาการเมืองด้วยการเลิกต้านโครงการนี้แล้ว หลังจากก่อนหน้านี้เคยออกมาเตือนว่าจะเป็น สปก.4-01 ภาคสอง

อันเป็นการหนุนในช่วง 48 ชั่วโมงก่อนโครงการรถเมล์ฉาวเข้าที่ประชุมครม.เหมือนกับภูมิใจไทยต้องการวัดใจประชาธิปัตย์เพื่อแลกกับเรื่องรถเมล์ แต่เมื่อรถเมล์ฉาวผลักดันไม่สำเร็จ หากภูมิใจไทยจะหันกลับมาค้านโครงการเช่าที่ดินอีก ก็จะทำให้ถูกมองว่า เป็นพรรคการเมืองที่เล่นการเมืองแบบอันธพาลเชิงต่ำ

จะยิ่งทำให้ภาพลักษณ์พรรคที่ย่ำแย่อยู่แล้ว ยิ่งเสียหายหนักขึ้นไปอีก
จึงน่าสงสัยว่า การลับมีดรอแทงหลังประชาธิปัตย์ของภูมิใจไทย อาจต้องรอนานหน่อย จนอาจขึ้นสนิมได้

ยกเว้นแต่คนของประชาธิปัตย์ ซุ่มซ่ามทำอะไรเรี่ยราดและพลาดให้ภูมิใจไทยหยิบมาเล่นงานได้เอง ถ้าแบบนี้ก็ช่วยไม่ได้ เพราะสมควรโดน หากคิดจะทุจริตกันจริง ๆ ไม่ว่าฝ่ายไหน ก็สมควรต้องลากคอมาสำเร็จโทษต่อหน้าประชาชนอย่างสาสม

การวางแผนการเมืองของเนวิน-ภูมิใจไทย นับจากนี้จึงน่าติดตามไม่น้อย ว่าอดีตลูกน้องคนสนิทของทักษิณ ชินวัตร ผู้ยอมแตกหักกับอดีตนายใหญ่มาอยู่เป็นพันธมิตรกับประชาธิปัตย์ จะพลิกสถานการณ์จากตั้งรับมาเป็นผู้กุมไพ่เหนือกว่าอภิสิทธิ์-ปชป.อย่างไร ?

ถึงตอนนี้ ประเมินสถานการณ์รอบด้านแล้ว เนวินยังไม่สามารถเขย่าอภิสิทธิ์ได้แบบมันมือ เพราะติดเงื่อนไขหลายอย่าง ในความเป็นรัฐบาลผสมหลายพรรคการเมือง

สิ่งที่ทำได้ คือต้องสร้างความแข็งแกร่ง และติดอาวุธให้พรรคเสื้อน้ำเงินให้ได้มากที่สุด

เช่นต้องล้มทักษิณ ชินวัตรและพรรคเพื่อไทยในการเลือกตั้งซ่อมที่สกลนคร-ศรีษะเกษ ให้ได้ หากทำได้ ใช่แค่จะมีที่นั่งส.ส.เพิ่มอีก 2 เสียง อันหมายถึงทำให้เสียงของภูมิใจไทยยิ่งดังขึ้นอีกไป ทั้งยังหมายถึงการทำให้คนทั่วประเทศเห็นแล้วว่า กระแสทักษิณเริ่มหมดมนต์ขลังในอีสาน และที่ขึ้นมาแทนคือพลพรรคเสื้อน้ำเงินที่ส่งคนลงเลือกตั้งครั้งแรกก็ปักธงในอีสานได้สำเร็จ

แบบนี้ แน่นอนว่ามีผลดีต่อรัฐบาล เพราะ 2 เสียงที่เพิ่มขึ้นย่อมทำให้รัฐบาลมีเสถียรภาพมากขึ้น เนื่องจากเป็นการเลือกตั้งซ่อมในพื้นที่เดิมของฝ่ายค้านเพื่อไทยและประชาราชตามลำดับ

แต่ขณะเดียวกัน เป็นการเพิ่ม 2 เสียงของภูมิใจไทย ที่จะทำให้อำนาจการต่อรองของเนวินในรัฐบาลมีมากขึ้น โดยเฉพาะการทำให้อภิสิทธิ์เห็นแล้วว่า พรรคการเมืองที่จะขึ้นมาเป็นคู่ต่อกรทักษิณในภาคอีสานได้ ก็คือภูมิใจไทย ซึ่งหากเนวินทำได้ในจังหวัดอื่นในภาคอีสานอีก นั่นหมายถึง เพื่อไทยเตรียมรูดม่านในอีสาน

และเมื่อผลการเลือกตั้งออกมาในวันที่ 21 มิถุนายนที่สกลนครและ 28 มิถุนายนที่ศรีสะเกษ อันเป็นการรู้ผลก่อนที่สภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติจะส่งบทสรุปผลการศึกษาเรื่องรถเมล์เอ็นจีวีที่รัฐบาลให้เวลา 30 วันไปสรุปผล

ถามว่า หากผลการเลือกตั้งออกมาโดยเนวิน ภูมิใจไทยเป็นฝ่ายชนะ แล้วโค่นทักษิณลงได้ โดยที่สังคมก็ยังกังขาต่อโครงการเช่ารถเมล์ฉาว

หากอภิสิทธิ์ ยึดมั่นในหลักการที่ฟังเสียงประชาชนเป็นหลัก และไม่ทำอะไรที่ฝืนความรู้สึกรับผิดชอบชั่วดีในฐานะผู้นำประเทศ จนกล้าแตกหักกับเนวิน-ภูมิใจไทย ถ้าสถานการณ์ไปถึงจุดนั้น

เนวินอาจชนะในสมรภูมิเลือกตั้งซ่อมที่อีสาน

แต่อภิสิทธิ์ อาจชนะใจคนไทยทั้งประเทศก็เป็นได้
อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
กำลังโหลดความคิดเห็น