xs
xsm
sm
md
lg

“เพื่อแม้ว” ติวเข้ม ส.ส.กทม.รับเลือกตั้ง เฉ่งคนกรุงซื่อบื้อเลือก ปชป.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ปลอดประพส สุรัสวดี
แกนนำเพื่อไทย ติวเข้ม ส.ส.ภาค กทม.กระตุ้นรับมือเลือกตั้ง “ปลอดประสพ” เหน็บ “มาร์ค” เอาแต่ทำหน้าหล่อหันซ้ายทีขวาที เหมาะโฆษกรัฐมากกว่านายกฯ ฝันไกลหวังทวงอำนาจรัฐให้กลับมาอยู่ในมือให้ได้ เป็นเดือดเป็นร้อนแทนชาวบ้านอ้างเดือดร้อน พรรคร่วมมัวแต่ทะเลาะกันเอง พร้อมเฉ่งคนกรุงเทพฯ โง่-ซื่อบื้อ ไปเลือกพรรคประชาธิปัตย์ จี้เร่งทำความเข้าใจชาวบ้าน หวั่นถูกกลืนนโยบายเอสเอ็มแอล

วันนี้ (5 มิ.ย.) เมื่อเวลา 09.30 น.ที่พรรคเพื่อไทย มีการสัมมนาเชิงวิชาการเรื่อง “ยุทธศาสตร์การสร้างชุมนุมเข้มแข็งตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง” ซึ่งจัดโดยภาคกทม.ของพรรคเพื่อไทย โดยมีนายวิชาญ มีนชัยนันท์ ประธานภาค กทม.เป็นประธานในการสัมมนา ทั้งนี้ มี ส.ส.กทม. ส.ก. ส.ข.และผู้สมัคร ส.ส.กทม.ของพรรค เข้าร่วมสัมมนาอย่างคึกคัก โดย นายวิชาญ กล่าวเปิดการสัมมนา ว่า การสัมมนาครั้งนี้เป็นการจัดเพื่อให้ความรู้ในการบริหารท้องถิ่นและสามารถนำไปใช้ลงพื้นที่ ซึ่งถือเป็นการเตรียมพร้อมรับการเลือกตั้งท้องถิ่นที่จะมีขึ้นในอีก 1 ปีข้างหน้า และการเลือกตั้งทั่วไปในอนาคตด้วย


จากนั้น นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวกับผู้ร่วมสัมมนา ว่า ช่วงนี้ไม่อยากดูทีวี เบื่อจำอวด โดยเฉพาะ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เมื่อมาเป็นนายกรัฐมนตรีตอนแรกพูดขึงขัง พอถึงตอนนี้พูดทียิ้มขวาที ยิ้มซ้ายที นายอภิสิทธิ์ เหมาะที่จะเป็นโฆษกรัฐบาลมากกว่าเป็นนายกรัฐมนตรี เพราะไม่ค่อยได้ตัดสินใจ ถูกครอบงำจากเลขาธิการพรรคบ้าง รองนายกรัฐมนตรีบ้าง นายเนวิน ชิดชอบ หัวหน้ากลุ่มเพื่อนเนวินบ้าง ซึ่งปัญหาได้ส่งผลกระทบมาถึงประชาชน ถ้านิ่งดูดายปล่อยให้บริหารอย่างนี้บ้านเมืองก็ฉิบหาย เพราะประชาชนไม่ได้เลือกให้เข้ามาเป็นรัฐบาล แต่มาเป็นนายกฯได้ด้วยการอุ้มสม ทำงานไม่มีประสิทธิภาพ ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม.ก็ค่อนข้างจะพูดน้อยแถมพูดไทยไม่ชัด แต่เป็นคนซื่อ ยังพูดว่าอยู่ 6-7 เดือนไม่ได้ทำอะไร

นายปลอดประสพ กล่าวต่อว่า ในอนาคตข้างหน้าการเลือกตั้งอาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา พรรคจำเป็นต้องมีความพร้อม ดังนั้น วิธีในการต่อสู้กับรัฐบาลจะต้องไม่ดูทีวี ถ้าดูตอนกินข้าวก็คงกินไม่ลง จึงต้องเตรียมพร้อมเพื่อการกลับมาเป็นรัฐบาล โดยจะต้องได้ ส.ส. ส.ก.และ ส.ข.ให้มากที่สุด เพื่อเอาอำนาจรัฐกลับมาอยู่ในมือเราอีกครั้ง และเชื่อว่าพวกเราทุกคนจะทำได้


นายปลอดประสพ กล่าวอีกว่า การแก้ไขปัญหาเรื่องข้าวนั้น พรรคเพื่อไทยได้แนะนำไปแล้ว เสนอให้รัฐบาลเพิ่มโควตาในการจำนำข้าวแต่รัฐบาลกลับไปเลิกจำนำข้าวทำให้ชาวนาเดือดร้อน ถ้ารัฐบาลทำทุกอย่างตั้งแต่ต้นก็ไม่เกิดปัญหา แต่สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องที่พรรคประชาธิปัตย์ทะเลาะกับพรรคภูมิใจไทย เพราะพรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้คุมบริหารกระทรวงเศรษฐกิจจึงใช้วิธีการบริหารงานไปครอบงำไปคุมแทน ซึ่งถ้าจะใช้การประกันราคาข้าวจะต้องผ่านธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ ทั้งนี้ ก็เพื่อตัดทั้งกระทรวงพาณิชย์และกระทรวงเกษตรฯออกไปโดยสิ้นเชิง ซึ่งเป็นวิธีถนัดของพรรคประชาธิปัตย์

นายปลอดประสพ กล่าวด้วยว่า วันนี้ถือโอกาสให้กำลังใจทุกคนว่าอย่าหวั่นไหว หากรัฐบาลจะอยู่นาน ก็อยากบอกว่า เวลาสวดมนต์หรือผ่านวัดหรือสถานที่สำคัญที่เราเคารพก็ขอให้ภาวนาให้รัฐบาลเจ๊งเร็วๆ และไม่เข้าใจว่าทำไมคน กทม.ถึงโง่เง่า ซื่อบื้อ ไปเชื่อและเลือกพรรคประชาธิปัตย์ได้อย่างไร แต่อย่าไปน้อยใจ จะต้องพยายามทำให้คนเข้าใจ และความรู้สึกของประชาชนโดยเฉพาะเขตชั้นในที่เป็นฐานที่มั่นที่เราเคยมี ส.ส.นั้น จากนี้ไปทุกคนจะต้องเข้าถึงประชาชนและติดพื้นที่ให้แน่น ชัยชนะอยู่ไม่ไกล รอวันที่เราจะกลับมาเป็นรัฐบาล เป็นนายกรัฐมนตรี และเป็นผู้ว่าฯ กทม.

ด้าน น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย กล่าวบรรยายในหัวข้อ “ชุมชนเข้มแข็งด้วยเศรษฐกิจพอเพียง” ว่า โครงการเอสเอ็มแอลถูกรัฐบาลชุดนี้เปลี่ยนเป็นโครงการชุมชนพอเพียง ซึ่งมีงบประมาณ 2.1หมื่นล้านบาท แต่ตอนนี้มีการใช้จ่ายไปแล้ว 8 พันล้านบาท ซึ่งชุมนุมในกทม.ได้รับอนุมัติงบไปแล้ว 8 เขตกว่า 40 ชุมชน ดังนั้น ทุกคนจะต้องศึกษาและทำความเข้าใจเพื่อเข้าไปพูดกับแกนนำในชุมนุม มิฉะนั้น โครงการเอสเอ็มแอลที่เราทำไว้อาจถูกพรรคประชาธิปัตย์กลืน
กำลังโหลดความคิดเห็น