“เพื่อแม้ว” เลิกประชุมเลือก หน.-กก.บห.แทงกั๊กขอแก้ รธน.ก่อน

เป็นไปตามคาด “เพื่อไทย” ตกลงเลิกประชุมใหม่พรรคเลือกหัวหน้า-กรรมการบริหารพรรค อ้างรอดูการแก้รัฐธรรมนูญก่อน หวั่นพิษยุบพรรค รับต้องรับฟังความคิดเห็น ส.ส.ด้วย ฟุ้งวางตัว "โอฬาร" นั่งหัวหน้าพรรคคนใหม่เป็นนายกฯ ฝันดีกว่า “อภิสิทธิ์” แน่ พร้อมหาตัวช่วยดึงคนบ้าน 111 ช่วยหาแหล่งทุนนักธุรกิจ วางเกมรอผลเลือกตั้ง

วันนี้ (27 พ.ค.) ที่พรรคเพื่อไทย เมื่อเวลา 13.00 น.มีการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย โดยมี นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย เป็นประธานในการประชุม จากนั้น เวลา 14.00 น.นายยงยุทธ พร้อมด้วยคณะกรรมการบริหารพรรค อาทิ นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายคณวัฒน์ วสินสังวร รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และ น.ส.สุนีย์ เหลืองวิจิตร เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ร่วมกันแถลงข่าว โดย นายยงยุทธ กล่าวว่า พรรคเพื่อไทย มีมติส่ง นางอนุรักษ์ บุญศล เป็นผู้สมัคร ส.ส.สกลนคร เขต 3 ในนามพรรคเพื่อไทย และส่ง นายสุรชาติ ชาญประดิษฐ์ ลงสมัคร ส.ส.เขต 1 จ.ศรีสะเกษ ในนามพรรคเพื่อไทย นอกจากนี้ คณะกรรมการบริหารพรรคยังมีมติให้ยุติการประชุมใหญ่วิสามัญในวันที่ 31 พ.ค.เพื่อเลือกหัวหน้าพรรคและคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ด้วย

ผู้สื่อข่าวถามว่า สาเหตุอะไรที่ทำให้ต้องเลื่อนการเลือกหัวหน้าพรรคคนใหม่ออกไป นายปลอดประสพ กล่าวว่า เดิมคณะกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย ไม่มีใครเป็น ส.ส.ดังนั้น เมื่อ ส.ส.พรรคพลังประชาชนย้ายมาอยู่กับพรรคเพื่อไทย นายยงยุทธ จึงอยากให้มี ส.ส.มาดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคเพื่อจะได้ทำหน้าที่ผู้นำฝ่ายค้านในสภาได้อย่างสมบูรณ์ แต่เมื่อเราทบทวนกติกาหลายอย่าง โดยเฉพาะที่สำคัญ คือ รัฐธรรมนูญและกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญนั้น ทุกฝ่ายต้องการให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญและทุกคนก็พูดตรงกันว่าจะทำให้เร็วที่สุด ดังนั้น เมื่อกติกาจะเปลี่ยนแปลงเราจึงต้องการรอให้มีการเปลี่ยนแปลงทางกฎหมายให้เรียบร้อยก่อน นอกจากนี้ ในช่วงนี้เป็นช่วงปิดสมัยประชุมสภา ผู้นำฝ่ายค้านจึงไม่จำเป็นมากนัก และเมื่อเปิดสมัยประชุมสภาที่จะมาถึงนั้นก็เป็นสมัยนิติบัญญัติ ซึ่งตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านก็ไม่มีบทบาทนักจึงเห็นว่าควรรอไปก่อน

นายปลอดประสพ กล่าวอีกว่า เราเป็นพรรคใหญ่ หากจะเปลี่ยนแปลงอะไรก็ควรจะมีการฟังความคิดเห็นจากสมาชิกพรรค และ ส.ส.ของพรรคด้วย โดย 3-4 เดือนหลังจากนี้ เราจะคิดกระบวนการสรรหาหัวหน้าพรรคคนใหม่ โดยให้ ส.ส.สมาชิกพรรค และประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมให้มากที่สุด และผู้ที่จะมาเป็นหัวหน้าพรรคในอนาคตนั้น จะต้องเป็นนายกรัฐมนตรีด้วยและจะเป็นได้ดีกว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ด้วย

สำหรับกรณีที่ ส.ส.กลุ่มอีสานพัฒนา ยืนยันที่จะให้มีการเปลี่ยนตัวหัวหน้าพรรคใหม่นั้น ต้องมีการทำความเข้าใจด้วยหรือไม่ นายปลอดประสพ กล่าวว่า ในเบื้องต้นเราได้ทำความเข้าใจไปบ้างแล้ว แต่ที่ผ่านมาพรรคก็ได้สร้างกระบวนการการมีส่วนร่วมในการบริหารพรรคของ ส.ส.ขึ้นมา โดยตั้งคณะกรรมการอำนวยการบริหารพรรคขึ้น เพื่อเปิดโอกาสให้ตัวแทน ส.ส.จากภาคต่างๆเข้ามามีบทบาทในการบริหารพรรค ซึ่งเราก็สามารถบริหารพรรคต่อไปได้โดยไม่มีปัญหา อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า การงดประชุมใหญ่วิสามัญเพื่อเลือกหัวหน้าพรรคคนใหม่นั้น ไม่ใช่เป็นเพราะพรรคเพื่อไทยไม่สามารถหาคนที่เหมาะสมจะมาเป็นหัวหน้าพรรคคนใหม่ได้

ขณะที่นายสรุพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ส.ส. เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีความจำเป็นต้องรีบสรรหาหัวหน้าพรรคคนใหม่ แต่ควรจะมีการคัดเลือกในช่วงใกล้การเลือกตั้งใหญ่จะดีกว่า ส่วนคุณสมบัติของหัวหน้าพรรคคนต่อไปนั้นจะต้องเป็นคนที่มีความสามารถด้านเศรษฐกิจ เพราะการเลือกตั้งครั้งหน้าจะต้องแข่งขันกับพรรคประชาธิปัตย์โดยตรง จะเน้นนโยบายเศรษฐกิจนำการเมือง ซึ่งขณะนี้พรรคกำลังมองนายโอฬาร ไชยประวัติ อดีตรองนายกรัฐมนตรี เพื่อวางให้เป็นตัวหัวหน้าพรรคคนใหม่แล้ว แต่ยังไม่มีการทาบทาม เพราะหากดูจากคุณสมบัติของนายโอฬารนั้น สามารถสู้กับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในการเลือกตั้งครั้งหน้าได้อย่างแน่นอน เพราะนายโอฬารเป็นผู้มีประสบการณ์ในการทำงานอย่างมาก โดยเฉพาะทางด้านเศรษฐกิจ อีกทั้งสังคมก็ให้การยอมรับ

นายสุรพงษ์ กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ ในสัปดาห์หน้าพรรคจะมีการเปิดตัวทีมเศรษฐกิจของพรรคด้วย โดยจะมีนักวิชาการรวมทั้งบุคคลที่อยู่ในบ้านเลขที่ 111 มาร่วมด้วย จะเดินสายพบปะกับนักธุรกิจ สภาอุตสาหกรรม และสภาหอการค้าไทย เพื่อรับฟังความคิดเห็นในการนำมาเสนอต่อที่ประชุมพรรคเพื่อปรับใช้สำหรับจัดทำนโยบายในการเลือกตั้งครั้งหน้า ทั้งนี้ พรรคจะชูเศรษฐกิจนำการเมืองซึ่งจะนำนโยบายเก่าของพรรคมาผสมกับนโยบายใหม่ที่จะร่างขึ้นมาเพิ่มเพื่อให้สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบัน