“แม้ว” ส่ง “ไทยเรดนิวส์” กล่อมสาวก “เจ๊เพ็ญ” เผยเหตุต้องเปิดตูดเผ่น “อีแอบ” เสื้อแดงเลิกเหนียมร่วม กอง บก.เพียบ

ASTVผู้จัดการออนไลน์ – เผยโฉม “ไทยเรดนิวส์” ฉบับแรก สัมภาษณ์เปิดใจ “เจ๊เพ็ญ” ผู้ต้องหาหนีหมายจับหลายคดี เจ้าตัวโอดตอนหนีเศร้าใจจนน้ำตาไหล บอกใบ้อยู่ใกล้ๆ ประเทศไทย ด้าน คนดัง-นักวิชาการ-พระสงฆ์ อีแอบเลิกเหนียม เผยรายชื่อร่วมเป็น กอง บก.-คอลัมนิสต์-ที่ปรึกษาเพียบ ทั้ง “คณิน-เจ๊ดา-สุธาชัย-วรพล-พิชิต-บุญทัน-พระมหาโชว์”

เช้าวันนี้ (5 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตามแผงหนังสือทั่วไปได้มีการวางแผงหนังสือพิมพ์ไทยเรดนิวส์ (Thai Red News) เป็นวันแรก โดยไทยเรดนิวส์ เป็นหนังสือพิมพ์ที่แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ประกาศออกมาก่อนหน้านี้ ว่า จะออกสื่อหนังสือพิมพ์เพื่อเป็นสื่อกลางในการเผยแพร่แนวคิดของกลุ่ม นปช.รวมไปถึงบทความของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และนักโทษหนีคำพิพากษาของศาลฎีกา

โดยรูปลักษณ์ นสพ.ไทยเรดนิวส์ เป็นหนังสือพิมพ์ขนาดแทบลอยด์ ตีพิมพ์ด้วยกระดาษปอนด์อย่างดีรวม 32 หน้า วางจำหน่ายในราคาเล่มละ 20 บาท โดยกองบรรณาธิการตั้งอยู่ ณ เลขที่ 2539 อาคารอิมพีเรียลเวิลด์ ชั้น 5 ลาดพร้าว 81 เขตวังทองหลาง กรุงเทพฯ

สำหรับฉบับแรกของไทยเรดนิวส์ นั้น มีการนำเสนอเนื้อหาเด่นเป็นบทสัมภาษณ์พิเศษของ นายจักรภพ เพ็ญแข แกนนำ นปช.และผู้ต้องหาหลบหนีหมายจับหลายคดี คอลัมน์แคนการเมือง ของ นายอดิศร เพียงเกษ คอลัมน์ประกายทรรศน์ ของ นายสุนัย จุลพงศธร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย รวมไปถึงคอลัมน์การเมืองข้างธรรมาสน์ ของ พระมหาโชว์ ทัสสนีโย รอง ผอ.สำนักส่งเสริมพระพุทธศาสนาและบริการสังคม มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

ผู้บริหารและกองบรรณาธิการ นสพ.ไทยเรดนิวส์ ประกอบไปด้วย นายวิบูลย์ แช่มชื่น เป็นประธานผู้บริหาร นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข เป็นบรรณาธิการผู้พิมพ์/โฆษณา ขณะที่กองบรรณาธิการประกอบไปด้วยแนวร่วมของกลุ่มเสื้อแดงที่คุ้นหน้าคุ้นตากันดี เช่น นายนิสิต สินธุไพร อดีต ส.ส.พรรคพลังประชาชน และกรรมการบริหารพรรคที่ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง นายจรัล ดิษฐาอภิชัย แกนนำ นปช. ร.ท.(หญิง) สุณิสา เลิศภควัต หรือ หมวดเจี๊ยบ นายทหารประจำสำนักงานเลขานุการกองทัพบก รวมไปถึงนางดารุณี กฤตบุญญาลัย ไฮโซชื่อดัง ที่เป็นคอลัมนิสต์และใช้นามปากกาว่า “ดา ... แดงเดือด”

ในส่วนของคณะที่ปรึกษาประกอบไปด้วย บุคคลผู้มีชื่อเสียงและนักวิชาการเสื้อแดงจำนวนมาก เช่น นายมานิตย์ จิตต์จันทร์กลับ นายบุญทัน ดอกไธสง อดีต ส.ว.นครราชสีมา นายวิชิต ปลั่งศรีสกุล ทนายความส่วนตัวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายสุธาชัย ยิ้มประเสริฐ อาจารย์ประจำคณะอักษรศาสตร์ จุฬาฯ นายคณิน บุญสุวรรณ อดีตสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ นายวรพล พรหมิกบุตร อาจารย์ประจำคณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา ธรรมศาสตร์ นายพิชิต ลิขิตกิจสมบูรณ์ อาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ ธรรมศาสตร์ เป็นต้น

หน้าที่ 10 และ 11 ของ ไทยเรดนิวส์ ฉบับแรกนี้ได้ตีพิมพ์บทสัมภาษณ์พิเศษของ นายจักรภพ เพ็ญแข อดีตแกนนำ นปช.ที่หลบหนีจากที่ชุมนุมไปตั้งแต่วันที่ 13 เม.ย.โดย นายจักรภพ ได้กล่าวแก้ตัวว่า จริงๆ ตนพยายามจะเดินทางกลับเข้าไปในที่ชุมนุมของกลุ่ม นปช. บริเวณทำเนียบรัฐบาลตั้งแต่ช่วงเย็นของวันที่ 12 เม.ย.แต่ถูกสกัด และเมื่อทหารดำเนินการสลายการชุมนุมจึงตัดสินใจหลบหนี

“... ผมจึงออกเดินทางในทันทีไปตามเส้นทางที่พรรคพวกเราได้วางแผนไว้ล่วงหน้า เมื่อเกิดสภาพฉุกเฉิน โดยมุ่งมั่นว่าหากเขาสลายการชุมนุมได้พวกเราก็ยังจะยืนระยะต่อได้โดยผมจะเป็นแกนกลางประสานงานจากเขตนอกอำนาจของฝ่ายอำนาจเก่า

“นั่งรถไปผมก็น้ำตาไหล และ ใจหาย รู้สึกเหมือนทอดทิ้งพี่น้องประชาชนที่ร่วมทุกข์ร่วมสุข และต่อสู้ด้วยกันมา แต่ก็ต้องตัดใจว่าวันพระไม่ได้มีหนเดียว การต่อสู้ของประชาชนจะต้องยิ่งใหญ่และยาวนาน จะเสียค่าโง่เดี๋ยวนี้และวันนี้ไม่ได้ จะเป็นการทรยศต่อประชาชนเป็นอย่างยิ่ง ผมจึงเดินทางออกไปโดยใช้เวลาราว 35 ชั่วโมง ผ่านด่านทหารรวม 6 ด่าน ใช้ทั้งรถและเรือเป็นพาหนะ จึงถือว่าเขาเขตพื้นที่ที่ปลอดภัย” นายจักรภพ กล่าว แต่ปฏิเสธที่จะกล่าวถึงสถานที่ซึ่งตนใช้หลบซ่อนตัวอยู่

“เอาเป็นว่าอยู่ในที่ปลอดภัย รับรู้ข่าวสารบ้านเมืองได้ตลอด และได้ตั้งศูนย์ทำงานขึ้นมาแล้วเรียบร้อย ติดต่อทั้งรัฐบาลต่างชาติ และองค์การสหประชาชาติ และทำงานในเชิงสาระความรู้ที่จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการต่อสู้ของเรา เพราะวันนี้ยังมีผู้ที่ไม่สนับสนุนเราหรืออยู่ตรงข้ามเรา เพราะเขายังไม่รู้ความจริงทั้งหมด ...”

อย่างไรก็ตาม แม้เจ้าตัวจะไม่ได้บอกว่าตอนนี้หลบหนีคดีไปอาศัยอยู่ ณ แห่งหนใด แต่ในส่วนข่าวล้อมกรอบที่กอง บก.ไทยเรดนิวส์ ได้อธิบายถึงประวัติของ นายจักรภพ ก็มีการบอกใบ้ที่อยู่ในปัจจุบันของผู้ต้องหาผู้นี้เช่นกัน โดยระบุว่า “จักรภพ เพ็ญแข เขาไม่ได้หลบไปอยู่ที่อื่นใดจนไกลเกินไปนัก เขายังย่ำเท้า นั่งจิบน้ำชา ร้องเพลงเดือนเพ็ญ เล่นแบดมินตัน อ่านข่าวหนังสือพิมพ์ ดูทีวี “สถานีประชาชน” สนทนาเป็นกันเองกับพวกเราคนเสื้อแดง แจกลายเซ็นบนหลังเสื้อ เขียนบทกวี เล่นเว็บบอร์ดในแวดวงคนไซเบอร์ ให้สัมภาษณ์ไทยเรดนิวส์ แท้ที่จริงแล้วเขาอยู่ใกล้แค่ปลายจมูกนี่เอง”

เมื่อเจ้าหน้าที่บ้านเมืองได้รับทราบคำให้สัมภาษณ์และคำบอกใบ้ของ กอง บก.นสพ.ฉบับนี้ก็คงมิอาจนั่งหายใจทิ้งหรือทำเป็นทองไม่รู้ร้อนได้เพราะในประมวลกฎหมายอาญาหลายมาตราได้ระบุถึง โทษและบทลงโทษในการร่วม สนับสนุนหรือให้ความช่วยเหลือผู้กระทำความผิดในหลายมาตรา

มากกว่านั้น เจ้าพนักงานในการยุติธรรมคนใดที่มีหน้าที่รับผิดชอบเมื่อรับทราบข่าวนี้แล้วยังนิ่งเฉย ก็อาจมีความผิดตามกฎหมายอาญา มาตรา ๑๘๙ ที่ระบุว่า ผู้ใดช่วยผู้อื่นซึ่งเป็นผู้กระทำความผิด หรือเป็นผู้ต้องหาว่ากระทำความผิด อันมิใช่ความผิดลหุโทษ เพื่อไม่ให้ต้องโทษ โดยให้พำนักแก่ผู้นั้น โดยซ่อนเร้นหรือโดยช่วยเหลือผู้นั้นด้วยประการใดเพื่อไม่ให้ถูกจับกุม ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่พันบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ

นอกจากนี้ใน มาตรา ๑๙๒ ยังระบุอีกด้วยว่า ผู้ใดให้พำนัก ซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใด ให้ผู้ที่หลบหนีจากการคุมขับตามอำนาจของศาล ของพนักงานสอบสวนหรือของเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญา เพื่อไม่ให้ถูกจับกุม ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ อีกด้วย