“สุรพงษ์” ยังติดใจ พ.ร.ก.เงินกู้ 4 แสนล้าน อ้างตัวเลขลงทุนไม่เคลียร์ ซัดไม่ผ่านสำนักงบประมาณ ทั้งจัดสรรใช้ปี 53 ชี้ ไม่ทันกู้วิกฤต เล็งจัดทีมอภิปรายในสภาต่อ แถมเสี้ยมภูมิใจไทย ถอนตัวพรรคร่วมรัฐบาล หลังถูกตีกลับเช่ารถเมล์ ชี้สังคมสงสัยเข้าข่ายทุจริต
วันนี้ (3 มิ.ย.) นายสุรพงษ์ โตวิจักษ์ชัยกุล ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า การออก พ.ร.ก.กู้เงิน 4 แสนล้านบาท ไม่ขัดรัฐธรรมนูญ ว่า ตนยอมรับในผลการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ เพราะเป็นการวินิจฉัยตามข้อกฎหมาย แต่พรรคเพื่อไทยยังติดใจในเรื่องของงบประมาณการลงทุนใน พ.ร.ก.ที่รัฐบาลกำหนดว่าจะใช้งบประมาณลงทุนจำนวน 2.89 แสนล้านบาท เพราะเมื่อดูรายละเอียดตัวเลขในการลงทุนนั้นจะพบว่า รัฐบาลไม่ได้ชี้แจงรายละเอียดชัดเจน มีเพียงตัวเลขกลมๆ ไม่ได้ลงลึกในการใช้จ่ายงบประมาณแต่ละโครงการให้ชัดเจนเพียงพอ เช่น โครงการปลูกต้นไม้ ซ่อมบ้านพักอาศัยข้าราชการ ซื้อเตียงผู้ป่วยเพิ่ม ดังนั้น จึงไม่สามารถตรวจสอบได้ อีกทั้งการใช้จ่ายงบประมาณยังระบุว่าจะใช้จ่ายในปีงบประมาณ 2553 เท่ากับเป็นการล่าช้า ไม่สามารถแก้ไขวิกฤติได้ทันเวลา ที่สำคัญคือ โครงการเหล่านี้ยังไม่ผ่านการพิจารณาของสำนักงบประมาณ ดังนั้น พรรคเพื่อไทยได้จัดเตรียมทีมอภิปรายเพื่อสอบถามเมื่อ พ.ร.ก.ฉบับนี้เข้าสู่การพิจารณาในที่ประชุมรัฐสภาในวันที่ 15 มิ.ย.แล้ว
นายสุรพงษ์ กล่าวอีกว่า พรรคเพื่อไทยจะจัดแบ่งจำนวน 20 คน เพื่ออภิปรายสอบถามการใช้จ่ายงบประมาณ โดยเฉพาะงบประมาณ 2.89 แสนล้านบาทในโครงการไทยเข้มแข็งที่กระจายอยู่ในงบของกระทรวงต่างๆ เช่น กระทรวงมหาดไทย กระทรวงคมนาคม กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงศึกษาธิการ และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยตนจะเป็นคนคุมทีมอภิปรายรวมทั้งร่วมอภิปรายด้วย เพื่อให้ประชาชนเข้าใจถึงผลเสียของพ.ร.ก.ฉบับนี้ นอกจากนี้ ขอเรียกร้องให้รัฐบาลจัดให้มีการถ่ายทอดสดให้ประชาชนได้รับทราบด้วย
สำหรับกรณีที่ ครม.เลื่อนการพิจารณาโครงการเช่ารถเมล์เอ็นจีวี 4,000 คัน ออกไปก่อนนั้น นายสุรพงษ์ กล่าว่า ขอเรียกร้องให้พรรคภูมิใจไทยถอนตัวออกจากพรรคร่วมรัฐบาล เพราะเท่ากับว่าไม่มีความชอบธรรมในการบริหารประเทศต่อไป เนื่องจากสังคมไม่เห็นด้วยกับโครงการดังกล่าวที่ไม่มีความโปร่งใส หากพรรคภูมิใจไทย ถอนตัวออกจากรัฐบาลเมื่อไหร่พรรคเพื่อไทยก็พร้อมจะร่วมงานด้วยในฐานะพรรคร่วมฝ่ายค้าน