“เทพไท” ยัน “กอร์ปศักดิ์” ยังอยู่ ปชป. ซัดแกนนำ พท.หวังโหนกระแสปรับครม.พรรคร่วม ยุแยงให้เกิดรอยร้าว เพื่อกลบข่าวหาหัวหน้าพรรคไม่ได้ ขณะเดียวกัน ชี้นัดชุมนุมใหญ่ นปช.แค่กวนน้ำให้ขุ่น วอน ยุติการเคลื่อนไหว สร้างแรงกระเพื่อมให้รบ. พร้อมแนะ นักการเมืองไทย เอาเหตุการณ์อดีตประธานาธิบดีเกาหลีใต้ฆ่าตัวตายมาเป็นอุทาหรณ์สอนใจ เหน็บพวกถูกศาลพิพากษาแล้วให้กระโดดเครื่องบินตาย
วันนี้ (24 พ.ค.) นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่านายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรี ด้านเศรษฐกิจ จะย้ายพรรคไปอยู่พรรคเพื่อไทยว่า น่าจะเป็นเรื่องของการปล่อยข่าว เพื่อสร้างความแตกแยกให้เกิดขึ้นในพรรคประชาธิปัตย์ และเป็นการชิงพื้นที่สื่อ ทั้งที่ไม่มูลความจริงแต่อย่างใด เพราะนายกอร์ปศักดิ์ถือเป็นมือเศรษฐกิจของพรรรคที่ทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่กับนายกฯ อย่างต่อเนื่องตอลดมา โดยได้รับความไว้วางใจจากนายกฯ ให้ดูแลงานเศรษฐกิจและมีผลงานที่ประสบความสำเร็จหลายเรื่อง ซึ่งตลอดการสัมมนา ส.ส.พรรครั้งนี้ นายกอร์ปศักดิ์ก็ได้เข้าร่วมตลอดงาน
นายเทพไทกล่าวว่า ตัวนายกอร์ปศักดิ์เองก็ยังงงกับข่าวที่ออกมาเช่นกัน เชื่อว่าพรรคเพื่อไทยคงฉวยโอกาสจากกระแสข่าวที่ระบุว่ามีพรรคร่วมรัฐบาลบางพรรคกำลังกดดันให้ปรับนายกอร์ปศักดิ์ออกจากตำแหน่ง ดังนั้น จึงถือโอกาสนี้ปล่อยข่าวเพื่อยุยงตะแคงรั่วให้เกิดรอยปริร้าวมากกว่า และเป็นไปไม่ได้ที่นายกอร์ปศักดิ์จะย้ายพรรค โดยเฉพาะไปอยู่พรรคเพื่อไทยที่รู้ว่าอยู่ภายอาณัติของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เพราะนายกอร์ปศักดิ์ถือเป็นศัตรูสำคัญกับ พ.ต.ท.ทักษิณ เนื่องจากเป็นผู้เปิดประเด็นการทุจริตการจัดซื้อเครื่องตรวจสอบวัตถุระเบิด CTX 9000 ในสนามบินสุวรรณภูมิต่อสาธารณะชนครั้งแรกผ่านเว็บไซต์กอร์ปศักดิ์ดอดคอม จึงเป็นที่มาของการล้มล้างระบอบทักษิณ สำหรับกระแสข่าวการปรับครม.ใหญ่นั้น ขึ้นอยู่กับนายกฯ เพียงคนเดียว
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีข่าวว่านายกอร์ปศักดิ์ออกมายอมรับว่า ส.ส.ภายในพรรคส่วนใหญ่เพิกเฉย และไม่พอใจตัวนายกอร์ปศักดิ์ในการทำหน้าที่ จึงอาจเป็นแรงกดดันให้มีการย้ายพรรคได้หรือไม่ นายเทพไท กล่าวว่า ยืนยันว่าเป็นไปไม่ได้ในเรื่องการย้ายพรรค ส่วนกรณีความมไม่พอใจหรือการละเลยเพิกเฉยของ ส.ส.ในพรรคนั้น กรณีนี้ถือเป็นเรื่องความสัมพันธ์ส่วนตัว เพราะต้องยอมรับว่าจะทำให้คนทุกคนชอบใครทั้งหมดเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ เพราะความเป็นจริงจะมีทั้งคนชอบและไม่ชอบ แต่เรื่องของการทำหน้าที่ทุกอย่างอยู่ทีผลงานที่ออกมาว่าประชาชนจะไดรับประโยชน์มากน้อยเพียงใด ซึ่งขึ้นอยู่กับนายกอร์ปศักดิ์เอง
นายเทพไทกล่าวต่อว่า ส่วนประเด็นที่พรรคเพื่อไทยปล่อยข่าวนี้ออกมา คิดว่าเพื่อกลบเกลื่อนความแตกแยกภายในพรรคเพื่อไทยเองที่จนถึงขณะนี้ยังไม่สามารถหาหัวหน้าพรรรคของตัวเองได้ โดยแคนดิเดตของผู้ที่ถูกเสนอชื่อเป็นว่าที่หัวหน้าพรรค คือ 1.พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย 2.ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง และ 3.พ.ต.ท.สมชาย เพศประเสริฐ ก็ยังไม่มีใครเหมาะสมในสายตาของส.ส.พรรคเพื่อไทยเอง เพราะพ.ต.ท.ทักษิณอาจเห็นว่า พ.อ.อภิวันท์มียศสูงเกินไปนิด ขณะที่ร.ต.อ.เฉลิมก็มียศต่ำไปหน่อย หวยจึงมาออกที่ พ.ต.ท.สมชาย ซึ่งมียศเท่ากับ พ.ต.ท.ทักษิณ แต่ก็ยังติดปัญหาที่ส.ส.เพื่อไทยไม่ยอมรับ เพราะเห็นว่า พ.ต.ท.สมชายความสามรถน่าจะแค่เป็นประธานคระกรรมาธิการ สภาฯ เท่านั้น จึงทำให้มีขื่อส.ส.พรรคเพื่อไทยออกมาต่อต่านและมีหลายคนประกาศตัวออกมาแข่งขัน พรรคเพื่อไทยจึงจำเป็นต้องยุติการเปลี่ยนแปลงตัวหัวหน้าพรรค นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ จึงจำเป็นต้องกลืนน้ำลายตัวเองกลับมาเป็นหัวหน้าพรรคเช่นเดิมต่อไป จึงน่าเสียดายที่สภาฯ จะต้องขาดผู้นำฝ่ายค้านต่อไป ซึ่งเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์การเมืองงที่สภาฯ ต้องเว้นว่างตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านจนอายุสภาฯ ครบสมัยการประชุมก็เป็นได้
โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ยังกล่าวถึงความเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดงที่จัดงานประมูลของที่ระลึกของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ขึ้นเมื่อวันที่ 24 พ.ค.ที่ผ่านมาว่า รายได้ที่ได้มาจากการประมูลของคงไม่พอที่จะใช้เป็นทุนในการเคลื่อนไหว แต่คงเป็นเรื่องของการสร้างภาพให้ออกมาให้สังคมเห็นว่า ทางกลุ่ม นปช.ยังคงมีความเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่องมากกกว่า เพื่อให้สอดรับกับที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธานส.ส.พรรคเพื่อไทย ที่เดินทางไปรับแผนดำเนินงานจาก พ.ต.ท.ทักษิณถึงดูไบที่เคยประกาศออกมาชัดเจนแล้วว่า จะเคลื่อนไหวกดดดันรัฐบาลนี้ต่อไปทั้งในสภาฯ และนอกสภาฯ ซึ่งการประกาศนัดชุมนุมใหญ่ของกลุ่ม นปช.ในวันที่ 24 มิ.ย.ที่จะถึงที่สนามหลวง โดยระบุว่าจะมีคนเข้าร่วมชุมนุมทะลักไปถึงทำเนียบรัฐบาล แม้จะเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ แต่ก็เป็นพฤติกรรมที่กวนน้ำให้ขุ่นของแกนนำนปช.และกลุ่มเสื้อแดง ตนจึงขอวิงวอนให้ยุติความเคลื่อนไหว เพราะไม่อยากให้การเมืองกระเพื่อมและส่งผลกระทบถึงการฟื้นฟูเศรษฐกิจของรัฐบาล เพื่อที่จะเร่งสร้างความเชื่อมั่น ซึ่งสุดท้ายแล้วอาจทำให้เกิดปัญหาคนว่างงานเพิ่มมากยิ่งขึ้น
นายเทพไทกล่าวต่อว่า ขณะนี้การเมืองกำลังเข้าสู่ระบบก็ขอให้ดำเนินการผ่านกลไกของระบบรัฐสภา โดยให้ร้องเรียนต่อคณะกรรมการ 2 ชุดที่ตั้งขึ้นในสภาฯ ซึ่งหากทำได้จริงการเมืองนิ่งกลับมาสู่ภาวะปกติผลประโยชน์โดยรวมจะตกอยู่กับคนในชาติทั้งสิ้น
นอกจากนี้ นายเทพไทได้กล่าวถึงกรณีการฆ่าตัวตายของอดีตประธานาธิบดีประเทศเกาหลีใต้ นายโรวูฮุน ที่ตัดสินใจฆ่าตัวตายด้วยการกระโดหน้าผาจนเป็นเหตุการณ์ช็อกโลกว่า เหตุการณ์นี้น่าจะเป็นอุทาหรณ์สอนใจนักการเมืองทุกคน โดยเฉพาะนักการเมืองไทย เพราะอดีตประธานาธิบดีผู้นี้เพียงแค่ถูกกล่าวหาว่าบุคคลใกล้ชิดพัวพันกับการทุจริต โดยที่ศาลหรือกระบวนการยุติธรรมยังไม่ชี้ขาดว่ามีความผิดชัดเจนหรือไม่ เขาก็ยังแสดงความรับผิดชอบด้วยการตัดสินใจเหนือความคาดหมาย กระทำการดังกล่าว แต่นักการเมืองไทยบางคนถูกศาลยุติธรรมตัดสินชี้ขาดแล้วว่าทุจริตคอร์รัปชัน แต่กลับไม่แสดงความรับผิดชอบใดๆ หนำซ้ำยังออกมาโจมตีการพิพากษาของศาลยุติธรรมเสียอีก ต่างกับอดีตประธานาธิบดีเกาหลีใต้ที่คดียังไม่สรุปแค่ถูกพาดพิง ก็แสดงความรับผิดชอบด้วยการกระโดดหน้าผาฆ่าตัวตายแล้ว ตนจึงอยากเสนอแนะให้นักการเมืองไทยที่ทุจริตและถูกศาลพิพากษาแล้วให้กระโดดจากเครื่องบินส่วนตัว แสดงความรับผิดชอบที่ถูกศาลชี้มูลความผิดว่าทุจริตคอร์รัปชันชาติจนเสียหาย