คณะแพทย์ฯ เปรี้ยง! ไม่มีใครตายจากเหตุสลายเสื้อแดง

เลขาฯ ศูนย์นเรนทร ยืนยันไม่มีผู้ที่เสียชีวิตจากเหตุสลายการชุมนุม ด้านหมอศิริราชปฏิเสธรับผู้บาดเจ็บจากการชุมนุม ส่วนแพทย์ทหารผ่านศึกระบุทหารได้รับบาดเจ็บมากกว่าผู้ชุมนุม เพราะถูกยิงด้วยกระสุนปืนธรรมดา ไม่ใช่อาวุธสงคราม ด้านว่าที่ หน.พรรคไข่แม้วโชว์ลีลาโยงสาเหตุการตาย “พลทหารอภิณพ” เชื่อมการเมือง

วันนี้ (30 พ.ค.) ที่รัฐสภา มีการประชุมคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีเหตุการณ์การชุมนุมทางการเมือง ที่มีนายสมศักดิ์ บุญทอง เป็นประธาน ได้มีการเชิญผู้อำนวยการ 4 โรงพยาบาลรับรักษาผู้บาดเจ็บ เช่น โรงพยาบาลทหารผ่านศึก โรงพยาบาลรามาธิบดี โรงพยาบาลราชวิถี โรงพยาบาลศิริราช และสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (ศูนย์นเรนทร) มาชี้แจง

โดยช่วงแรก นพ.นำชัย คุณธารากรณ์ ผอ.โรงพยาบาลทหารผ่านศึก ได้ชี้แจงว่า ถึงการรับรักษาทั้งกลุ่มผู้ชุมนุมและทหารว่า ส่วนใหญ่บาดเจ็บจากอาวุธที่มีอำนาจทำลายล้างต่ำ เช่น อาวุธปืน 9 มม. แต่ทั้งนี้ไม่ได้สอบถามผู้บาดเจ็บว่าใครเป็นผู้ทำร้ายและใส่เสื้อสีอะไร ทั้งนี้ ทหารส่วนใหญ่ที่ได้รับบาดเจ็บ 18 ราย มาจากกองทัพภาคที่ 2 จ.ปราจีนบุรี ส่วนผู้ชุมนุมที่เข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลทหารผ่านศึกมีจำนวน 3 ราย ซึ่งขณะนี้ยังเหลือพรรครักษาตัวอยู่ 1 ราย

จากนั้นกรรมการฯ จากพรรคเพื่อไทย อาทิ นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย น.พ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน ถามว่ากระสุนที่พบในระหว่างการรักษาได้มาจากร่างกายผู้บาดเจ็บหรือสถานที่เกิดเหตุ อีกทั้งกระสุนดังกล่าวเป็นกระสุนปลอมหรือกระสุนจริง นพ.นำชัย กล่าวว่า พบเป็นเศษโลหะพร้อมเขม่าบนร่างกาย ซึ่งไม่คิดว่าเป็นอาวุธสงคราม เพราะถ้าเป็นอาวุธสงครามจริงบางแผลเข้าจะต้องมีรูเล็ก ด้านทะลุออกรูใหญ่ และกระดูกจะต้องแตกละเอียด

ต่อมา พ.ต.ท.สมชาย เพศประเสริฐ ส.ส.นครราชสีมาพรรคเพื่อไทย ได้ถามถึงการเสียชีวิตของพลทหารอภินพ เครือสุข ในบ้านพักแม่ทัพภาคที่ 1 ว่ามีสาเหตุมาจากอะไรกันแน่ และมีบาดแผลที่มือหรือส่วนอื่นๆ บนร่างกายหรือไม่ เพราะจากวัยที่ยังอายุน้อยน่าจะประคองตัวระหว่างล้มลงได้ ขณะที่นายบรรจบ รุ่งโรจน์ กรรมการฯ ถามว่าเหตุใดการเสียชีวิตของพลทหารอภินพในใบมรณบัตรจากโรงพยาบาลรามาธิบดีจึงระบุว่าเสียชีวิตจากการคอหัก ซึ่งต่างจากข้อสรุปของโรงพยาบาลศิริราช ซึ่ง นพ.วิชาญ เปี้ยวนิ่ม แพทย์นิติเวช จากโรงพยาบาลรามาฯ กล่าวชี้แจงว่า สาเหตุที่ชันสูตรศพเนื่องจากผู้เสียชีวิตนั้นเสียชีวิตในลักษณะผิดธรรมชาติ จึงจำเป็นต้องมีการชันสูตร โดยได้เสียชีวิตขณะนำส่งโรงพยาบาลพระมงกุฎฯ และมาถึงโรงพยาบาลรามาฯ ในเวลา 19.00 น.ของวันที่เสียชีวิต โดยสาเหตุการเสียชีวิตนั้นพบว่า กะโหลกศีรษะด้านซ้ายบริเวณท้ายทอยแตกร้าวไปจนถึงกระดูกสันหลัง มีเลือดออกเยื่อหุ้มสมองด้านนอก 2 มม. ก้อนเลือดกดสมอง ซึ่งเป็นอันตรายต่อศีรษะ

ขณะที่ นพ.นิติกร โปริสวาณิชย์ แพทย์นิติเวชโรงพยาบาลศิริราช กล่าวว่า เบื้องต้นเราไม่ได้รับรักษาผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากการชุมนุม แต่ไม่แน่ใจว่าผู้ที่เสียชีวิต 2 ศพ บริเวณแม่น้ำเจ้าพระยา 2 ศพเกี่ยวข้องกับการชุมนุมหรือไม่ ส่วนพลทหารอภินพที่ได้ขอความเห็นเพิ่มเติมจากโรงพยาบาลรามาฯ เป็นการร้องขอจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ ทางโรงพยาบาลศิริราชไม่ได้ชันสูตรพลิกศพเพิ่มเติมซี่งเป็นขั้นตอนทางกฎหมาย ซึ่งการตรวจสอบส่วนใหญ่ตรงกับ นพ.วิชาญ ส่วนกรณีที่ระบุว่าคอหัก ตนเห็นว่า นพ.วิชาญได้ชี้แจงจนกระจ่างแล้ว ส่วนข้อซักถามถึงสาเหตุการตายที่ผิดปกติ เราไม่ได้มีอำนาจหน้าที่ตรงนั้น แต่ทราบว่าได้รับอันตรายอย่างรุนแรงบริเวณต้นคอ แต่ไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่าเกิดจากอะไร ซึ่งอาจเกิดจากของแข็งไปกระทบต้นคอ หรือต้นคอมากระทบของแข็งก็ได้ และเรื่องนี้ต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเจ้าพนักงาน อย่างไรก็ตาม ตามการตรวจทางนิติเวชเราบอกได้ว่าเกิดจากอะไร ซึ่งขณะนี้จำกัดสาเหตุการตายว่าเกิดจาก 2 กรณี ซึ่งไม่สามารถเปิดเผยได้ในขณะนี้ เนื่องจากคดียังไม่จบ ถ้าต้องการเอกสารเพิ่มเติมคณะกรรมการฯ ต้องทำหนังสือขอ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะกรรมการฯ มีข้อสงสัยในสาเหตุการตายของพลทหารอภินพโดยได้จี้ถามสาเหตุการตายจากแพทย์ที่เกี่ยวข้องเป็นรายบุคคล

นอกจากนั้น นายเจิมมาศ จึงเลิศศิริ ส.ส.กทม. ประชาธิปัตย์ ได้สอบถามถึงกรณีที่มีผู้ชุมนุมไปปิดล้อมโรงพยาบาลราชวิถีเพื่อทวงศพผู้เสียชีวิต จึงอยากทราบว่าข้อเท็จจริงเป็นเช่นไร และมีผู้เสียชีวิตจริงหรือไม่ ซึ่ง นพ.ชาตรี เจริญชีวกุล เลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (ศูนย์นเรนทร) กล่าวว่า ในฐานะที่ตนอยู่ในเหตุการณ์ขอชี้แจงว่า เกิดจากความเข้าใจผิดกรณีนายไสว ทองอ้ม ซึ่งถูกยิงที่หน้าอกซ้ายมีเลือดออกมา และมีคนที่นำส่งโรงพยาบาลเป็นเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูคิดว่านายไสวเสียชีวิตเนื่องจากหมดสติไป จึงได้ไปขึ้นเวที นปช. และประกาศว่ามีคนตาย แต่แพทย์ได้ปั๊มหัวใจและช่วยชีวิตไว้ได้ทัน และตนได้พาตัวแทนกลุ่มผู้ชุมนุมที่มาปิดล้อมเข้าไปพิสูจน์ว่ายังไม่เสียชีวิต ซึ่งเมื่อพบว่านายไสวยังพูดได้ ตัวแทนก็ได้กลับมาบอกกับผู้ชุมนุมและสลายตัวไป ทั้งนี้ ในส่วนของเหตุการณ์ที่กระทรวงมหาดไทย ตนยืนยันว่าไม่มีผู้เสียชีวิต เนื่องจากตนอยู่ในเหตุการณ์ด้วย และยืนยันว่าไม่ได้มีการซ่อนศพไว้แต่อย่างใด

ด้าน นายอาคม เอ่งฉ้วน ส.ส.กระบี่ พรรคประชาธิปัตย์ ได้ถามถึงการที่ทหารได้รับบาดเจ็บ 3 นาย แสดงว่า นปช.มีอาวุธหรือไม่ และภาพทหารนำเชือกมัดมือผู้ชุมนุมไพล่หลังเกี่ยวข้องศพที่พบในแม่น้ำเจ้าพระยาหรือไม่ นอกจากนี้ สามารถพิสูจน์ได้หรือไม่ว่าศพที่พบเสียชีวิตมาแล้วกี่ชั่วโมง ซึ่ง นพ.นิติกร กล่าวว่า ทั้ง 2 ศพที่พบในแม่น้ำเจ้าพระยาไม่สามารถบอกได้ว่าตายมากี่ชั่วโมง แต่บอกได้เป็นวันว่าเสียชีวิตมาแล้วกี่วัน เพราะศพที่พบเน่าแล้ว ซึ่งทั้ง 2 ศพตายในเวลาใกล้เคียงกัน ส่วนกระสุนปืนที่เปิดเผยตามสื่อมวลชนตนเห็นว่าเป็นเพียงการเปิดเผยความจริงส่วนเดียวเท่านั้น เพราะการที่บาดแผลจะสามารถระบุถึงอาวุธที่ชัดเจนได้ต้องเป็นบาดแผลที่สด