นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการผ่าชันสูตรศพ พลทหารอภินพ เครือสุข ทหารรับใช้ พล.ท.คณิต สาพิทักษ์ แม่ทัพภาคที่ 1 ที่เสียชีวิตในบ้านพัก พล.ท.คณิต โดยถูกระบุว่าลื่นล้มในห้องน้ำว่า ตนไม่อยากพูดอะไรที่ทำให้ดูเหมือนเป็นการตอบโต้กัน แต่ทราบว่า มีความพยายามจากแกนนำ ผู้ชุมนุมบางคนที่จะทำให้คนไขว่เขวว่าการเสียชีวิตของพลทหารอภินพเกี่ยวเนื่องกับการที่นายกรัฐมนตรีไปพักที่บ้านแม่ทัพภาคที่ 1
ผมอยากชี้แจงว่า นายกรัฐมนตรี ผมและรัฐมนตรีอีก 2 ท่านไปพักที่บ้านหลังดังกล่าววันที่ 12-13 เม.ย.จริง แต่ไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะกว่าจะไปถึงบ้านพัก ก็ประมาณ 02.00-03.00 น. พอตอนเช้าก็มีทหารนำกาแฟ และอาหารมาให้ ซึ่งก็ไม่ได้สังเกตว่า รูปร่างหน้าตาของพลทหารเป็นอย่างไร รู้แต่ว่า มีทหารอยู่ 3-4 คน จนวันที่ 14 เม.ย.หลังจากเหตุการณ์สงบแล้ว ทั้งผมและนายกรัฐมนตรี ก็ไม่ได้พักที่นั่นอีก จนทราบข่าวว่ามีพลทหารเสียชีวิต และได้สอบถามทราบว่า เกิดจากการลื่นล้ม ในห้องน้ำ จนเสียชีวิต
นายสุเทพ กล่าวว่า แต่เมื่อมีความสงสัยจึงได้มอบให้พล.ต.อ. พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร.แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษขึ้นมาเพื่อสอบสวนเรื่องนี้ ให้ได้ความจริง
ผมอยากจะบอกว่าไม่ควรจะใช้วิธีการที่จะมาสร้างเรื่อง หรือสร้างสถานการณ์ หรือทำให้เกิดความเคลือบแคลงโดยไม่เป็นจริง ที่สำคัญยังมองไม่เห็นสาเหตุ ที่มีความพยายามจะโยงมาถึงรัฐบาล ถ้าจะบอกว่าเป็นการฆาตกรรมอำพราง อย่างที่พรรคเพื่อไทยพยายามจะสร้างเรื่องให้คนเข้าใจไปอย่างนั้น ผมก็ยังไม่รู้ว่าจะทำไปทำไม เพราะเขาก็เป็นพลทหารคนหนึ่ง เขาไม่ได้มีบทบาทอะไรที่จะทำให้เกิด การเปลี่ยนแปลงขึ้นในบ้านเมือง หรือมีผลต่อเรื่องที่กำลังมีการต่อสู้กัน ผมยังไม่เห็นเหตุผลนั้น แต่ผมก็เสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น ในแง่ที่ว่าไม่มีโอกาสได้รู้ หรือได้ทำบุญตามประเพณี
พ.อ.พีระพล ปกป้อง โฆษกโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า กล่าวว่า โรงพยาบาลพระมงกุฎฯ ได้รับแจ้งเหตุว่ามีผู้ป่วยในบ้านพักแม่ทัพภาคที่ 1 เมื่อเวลา 08.15 น. ของวันที่ 15 เม.ย.เมื่อไปถึงพบพลทหารอภินพ นอนหมดสติกับพื้นแพทย์ตรวจเบื้องต้น พบว่าไม่หายมย จึงนวดหัวใจก่อนนำส่งโรงพยาบาล แล้วนำเข้าห้องฉุกเฉินทันที โดยปั๊มหัวใจเพื่อช่วยชีวิตจนกระทั่งเวลา 09.10 น.ผู้ป่วยไม่มีปฏิกริยาสนองจึงหยุดปั๊มหัวใจ โดยเบื้องต้นแพทย์ได้สันนิษฐานสาเหตุการเสียชีวิตว่า คอหัก เพราะเห็นว่า มีบาดแผลบริเวณคอ ซึ่งที่โรงพยาบาลพระมงกุฎฯ ไม่มีหน่วยนิติเวชในการชันสูตรศพ จากนั้นจึงส่งศพไปชันสูตรหาสาเหตุการตายที่หน่วยนิติเวช โรงพยาบาลรามาธิบดี ซึ่งต่อมาทางโรงพยาบาลรามาฯ ได้แจ้งผลการชันสูตรศพ ว่า พบกระโหลกศีรษะด้านหลังแตกเป็นทาง มีเลือดออกด้านนอกของเยื้อหุ้มสมอง จากการคล้ำจากกระโหลกศีรษะพบว่ากระดูกคอดูเหมือนเคลื่อนได้ แต่ผลเอ็กซเรย์ ไม่พบความผิดปกติ ซึ่งข้อมูลทั้งหมดได้รายงานให้ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพระมงกุฎฯ และแม่ทัพภาคที่ 1 รับทราบอย่างละเอียดแล้ว
วานนี้ (28 เม.ย.) ส.ส.และสมาชิกพรรคเพื่อไทย อาทิ นพ.สุรวิทย์ คนสมบูรณ์ ส.ส.ชัยภูมิ นายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข ส.ส.เลย และนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย ได้พานางศิริมนต์ มาเพ็ชร มารดา พลทหารอภินพ มาร่วมแถลงข่าว
นพ.สุรวิทย์ กล่าวว่า ในใบมรณะบัตรจากรพ.พระมงกุฎฯ แจ้งสาเหตุการตาย ของพลทหารอภินพว่ากระดูกส่วนคอหัก เลือดออกใต้เยื่อหุ้มสมอง แต่ผลการชันสูตร ที่รพ.ศิริราชระบุว่าสาเหตุการตายมาจากกะโหลกมีรอยแตกร้าวด้านหลัง ค่อนไปทางซ้ายยาว 6 ซม. มีเลือดออกในเยื่อหุ้มสมองส่วนหนา หากสาเหตุการตาย เป็นไปตามใบมรณะบัตร จะต้องเป็นการตายในทันที ในทางการแพทย์แล้วเมื่อถูกกระแทกอย่างแรงที่ศรีษาะอาจจะหมดสติในช่วงแรก จากนั้นจะฟื้นขึ้นมา แต่เมื่อเลือดออก ในเยื่อหุ้มสมองมากขึ้นก็จะทำให้เสียชีวิตได้
อย่างไรก็ตามจากการแถลงของคณะแพทย์ศิริราชเมื่อวันที่ 27 เม.ย. ไม่พบกระดูกคอหัก ตนได้ถามแพทย์ศิริราชว่าการตายเกิดจากกระแทกด้วยของแข็งที่รุนแรง โอกานที่ล้มกระแทกจนเกิดแผลรุนแรงลักษณะนี้มีน้อยมากใช่หรือไม่ ก็ได้รับคำตอบว่าใช้ นอกจากนี้บริเวณเหนือใบหูข้างขวาของผู้ตายยังมีแผลและรอยช้ำ บริเวณคอด้านซ้ายก็มีรอยช้ำ ถ้าหากเป็นการล้มกระแทกเพียงครั้งเดียวทางด้านซ้าย ด้านขวาก็ไม่ควรมีแผล จึงสันนิษฐานว่าไม่น่าจะเป็นการล้ม แต่มีการตีหรือกระแทกด้วยของแข็ง ขณะเดียวกันที่ข้อมือด้านซ้ายยังมีรอยช้ำ ตรงนี้น่าจะเป็นรอยแผล ที่เกิดจากการถูกทำร้ายแล้วยกมือขึ้นมาปิดป้อง พรรคจึงสงสัยว่าพลทหารอภินพจะถูกทำร้ายจากบุคคลอื่น
ด้านนายพร้อมพงศ์ นำเอกสารเป็นรูปภาพและข้อความจากโทรศัพท์มือถือ ที่มีข้อความว่า เมื่อคืนนี้นายกฯมานอนบ้านแม่ทัพด้วย วันนี้ความคิดถึงกำลังก่อตัวเป็นก้อนเมฆ เพื่อจะลอยไปหาที่รัก LOVE เหมียวที่สุดในโลก ความรักที่ให้ทุกวัน มั่นคงเหมือนดวงจันทร์ส่องแสงตลอดทั้งคืน พร้อมทั้งหมายเลขโทรศัพท์ของผู้ส่ง ซึ่งอ้างว่าเป็นเบอร์ของน.ส.มณีรัตน์ มูลจันทะ แฟนสาวของพลทหารอภินพมา แจกจ่ายต่อสื่อมวลชน
นายพร้อมพงศ์กล่าวว่า เมื่อวันที่ 13 เม.ย. พลทหารอภินพได้ส่งข้อความสั้นหรือเอสเอ็มเอสไปยังโทรศัพท์มือถือของน.ส.มณีรัตน์ แต่ไม่แน่ใจว่า ข้อความเหล่านี้ จะมีประโยชน์หรือโทษอย่างไรหรือไม่ โดยทางญาติผู้ตายได้มอบให้ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ใช้ประกอบการสอบสวนด้วย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อผู้สื่อข่าวโทรศัพท์ไปยังหมายเลขที่อ้างว่าเป็นของ น.ส.มณีรัตน์ ปรากฎว่ามีเสียงผู้ชายรับสาย โดยปฏิเสธว่าไม่ใช่เบอร์ของน.ส.มณีรัตน์ เมื่อผู้สื่อข่าวซักว่า เป็นใครและชื่ออะไร ชายคนดังกล่าวไม่ยอมตอบ เพียงแต่ยืนยันว่า ไม่ใช่เบอร์ของแฟนสาวพลทหารอภินพ ก่อนที่จะยอมรับว่าเป็นเพื่อนของนายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข ส.ส.เลย ที่มาขอยืมโทรศัพท์ใช้รับข้อความดังกล่าว เมื่อผู้สื่อข่าว สอบถามไปยังนายพร้อมพงศ์ก็ได้รับการชี้แจงว่า เบอร์โทรศัพท์ดังกล่าวเป็นเบอร์ของ ทีมงานพรรคเพื่อไทยที่รับข้อความดังกล่าวต่อมาอีกทอดหนึ่งจากเครื่องของ น.ส.มณีรัตน์ และยังระบุด้วยว่า ขณะนี้ซิมโทรศัพท์ของน.ส.มณีรัตน์ทาง ดีเอสไอ ได้ขอไปตรวจสอบการใช้โทรศัพท์ย้อนหลังแล้ว ขณะเดียวกันน.ส.มณีรัตน์ก็ได้ไปให้ ปากคำต่อเจ้าหน้าที่ดีเอสไอในวันเดียวกันนี้ด้วย
เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามนางศิริมนต์ มารดาพลทหารอภินพว่า ขณะนี้ได้ตัดสินใจ เรื่องศพอย่างไร นายศิริมนต์กล่าวว่า ขณะนี้จะเก็บศพไว้ก่อน ยังไม่เผา เพราะอยากรู้ข้อเท็จจริง ซึ่งเมื่อรู้ผลการชันสูตรของคณะแทพย์ศิริราชแล้วก็สบายใจขึ้น เมื่อถามว่า มีความเชื่อว่ากรณีนี้ไม่ใช่อุบัติเหตุ นางศิริมนต์กล่าวว่า คงอย่างนั้น แต่ก็สงสัยนิดหน่อย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังการแถลงข่าวได้มีทีมงานที่มาด้วยพาตัว นางศิริมนต์ออกไปทันที ไม่เปิดโอกาสให้สื่อมวลชนสอบถามเพิ่มเติมเป็นการส่วนตัว ซึ่งได้รับการเปิดเผยภายหลังจากนายพร้อมพงศ์ว่า คนที่พาตัวนางศิริมนต์ออกไปคือเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ
ผมอยากชี้แจงว่า นายกรัฐมนตรี ผมและรัฐมนตรีอีก 2 ท่านไปพักที่บ้านหลังดังกล่าววันที่ 12-13 เม.ย.จริง แต่ไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะกว่าจะไปถึงบ้านพัก ก็ประมาณ 02.00-03.00 น. พอตอนเช้าก็มีทหารนำกาแฟ และอาหารมาให้ ซึ่งก็ไม่ได้สังเกตว่า รูปร่างหน้าตาของพลทหารเป็นอย่างไร รู้แต่ว่า มีทหารอยู่ 3-4 คน จนวันที่ 14 เม.ย.หลังจากเหตุการณ์สงบแล้ว ทั้งผมและนายกรัฐมนตรี ก็ไม่ได้พักที่นั่นอีก จนทราบข่าวว่ามีพลทหารเสียชีวิต และได้สอบถามทราบว่า เกิดจากการลื่นล้ม ในห้องน้ำ จนเสียชีวิต
นายสุเทพ กล่าวว่า แต่เมื่อมีความสงสัยจึงได้มอบให้พล.ต.อ. พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร.แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษขึ้นมาเพื่อสอบสวนเรื่องนี้ ให้ได้ความจริง
ผมอยากจะบอกว่าไม่ควรจะใช้วิธีการที่จะมาสร้างเรื่อง หรือสร้างสถานการณ์ หรือทำให้เกิดความเคลือบแคลงโดยไม่เป็นจริง ที่สำคัญยังมองไม่เห็นสาเหตุ ที่มีความพยายามจะโยงมาถึงรัฐบาล ถ้าจะบอกว่าเป็นการฆาตกรรมอำพราง อย่างที่พรรคเพื่อไทยพยายามจะสร้างเรื่องให้คนเข้าใจไปอย่างนั้น ผมก็ยังไม่รู้ว่าจะทำไปทำไม เพราะเขาก็เป็นพลทหารคนหนึ่ง เขาไม่ได้มีบทบาทอะไรที่จะทำให้เกิด การเปลี่ยนแปลงขึ้นในบ้านเมือง หรือมีผลต่อเรื่องที่กำลังมีการต่อสู้กัน ผมยังไม่เห็นเหตุผลนั้น แต่ผมก็เสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น ในแง่ที่ว่าไม่มีโอกาสได้รู้ หรือได้ทำบุญตามประเพณี
พ.อ.พีระพล ปกป้อง โฆษกโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า กล่าวว่า โรงพยาบาลพระมงกุฎฯ ได้รับแจ้งเหตุว่ามีผู้ป่วยในบ้านพักแม่ทัพภาคที่ 1 เมื่อเวลา 08.15 น. ของวันที่ 15 เม.ย.เมื่อไปถึงพบพลทหารอภินพ นอนหมดสติกับพื้นแพทย์ตรวจเบื้องต้น พบว่าไม่หายมย จึงนวดหัวใจก่อนนำส่งโรงพยาบาล แล้วนำเข้าห้องฉุกเฉินทันที โดยปั๊มหัวใจเพื่อช่วยชีวิตจนกระทั่งเวลา 09.10 น.ผู้ป่วยไม่มีปฏิกริยาสนองจึงหยุดปั๊มหัวใจ โดยเบื้องต้นแพทย์ได้สันนิษฐานสาเหตุการเสียชีวิตว่า คอหัก เพราะเห็นว่า มีบาดแผลบริเวณคอ ซึ่งที่โรงพยาบาลพระมงกุฎฯ ไม่มีหน่วยนิติเวชในการชันสูตรศพ จากนั้นจึงส่งศพไปชันสูตรหาสาเหตุการตายที่หน่วยนิติเวช โรงพยาบาลรามาธิบดี ซึ่งต่อมาทางโรงพยาบาลรามาฯ ได้แจ้งผลการชันสูตรศพ ว่า พบกระโหลกศีรษะด้านหลังแตกเป็นทาง มีเลือดออกด้านนอกของเยื้อหุ้มสมอง จากการคล้ำจากกระโหลกศีรษะพบว่ากระดูกคอดูเหมือนเคลื่อนได้ แต่ผลเอ็กซเรย์ ไม่พบความผิดปกติ ซึ่งข้อมูลทั้งหมดได้รายงานให้ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพระมงกุฎฯ และแม่ทัพภาคที่ 1 รับทราบอย่างละเอียดแล้ว
วานนี้ (28 เม.ย.) ส.ส.และสมาชิกพรรคเพื่อไทย อาทิ นพ.สุรวิทย์ คนสมบูรณ์ ส.ส.ชัยภูมิ นายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข ส.ส.เลย และนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย ได้พานางศิริมนต์ มาเพ็ชร มารดา พลทหารอภินพ มาร่วมแถลงข่าว
นพ.สุรวิทย์ กล่าวว่า ในใบมรณะบัตรจากรพ.พระมงกุฎฯ แจ้งสาเหตุการตาย ของพลทหารอภินพว่ากระดูกส่วนคอหัก เลือดออกใต้เยื่อหุ้มสมอง แต่ผลการชันสูตร ที่รพ.ศิริราชระบุว่าสาเหตุการตายมาจากกะโหลกมีรอยแตกร้าวด้านหลัง ค่อนไปทางซ้ายยาว 6 ซม. มีเลือดออกในเยื่อหุ้มสมองส่วนหนา หากสาเหตุการตาย เป็นไปตามใบมรณะบัตร จะต้องเป็นการตายในทันที ในทางการแพทย์แล้วเมื่อถูกกระแทกอย่างแรงที่ศรีษาะอาจจะหมดสติในช่วงแรก จากนั้นจะฟื้นขึ้นมา แต่เมื่อเลือดออก ในเยื่อหุ้มสมองมากขึ้นก็จะทำให้เสียชีวิตได้
อย่างไรก็ตามจากการแถลงของคณะแพทย์ศิริราชเมื่อวันที่ 27 เม.ย. ไม่พบกระดูกคอหัก ตนได้ถามแพทย์ศิริราชว่าการตายเกิดจากกระแทกด้วยของแข็งที่รุนแรง โอกานที่ล้มกระแทกจนเกิดแผลรุนแรงลักษณะนี้มีน้อยมากใช่หรือไม่ ก็ได้รับคำตอบว่าใช้ นอกจากนี้บริเวณเหนือใบหูข้างขวาของผู้ตายยังมีแผลและรอยช้ำ บริเวณคอด้านซ้ายก็มีรอยช้ำ ถ้าหากเป็นการล้มกระแทกเพียงครั้งเดียวทางด้านซ้าย ด้านขวาก็ไม่ควรมีแผล จึงสันนิษฐานว่าไม่น่าจะเป็นการล้ม แต่มีการตีหรือกระแทกด้วยของแข็ง ขณะเดียวกันที่ข้อมือด้านซ้ายยังมีรอยช้ำ ตรงนี้น่าจะเป็นรอยแผล ที่เกิดจากการถูกทำร้ายแล้วยกมือขึ้นมาปิดป้อง พรรคจึงสงสัยว่าพลทหารอภินพจะถูกทำร้ายจากบุคคลอื่น
ด้านนายพร้อมพงศ์ นำเอกสารเป็นรูปภาพและข้อความจากโทรศัพท์มือถือ ที่มีข้อความว่า เมื่อคืนนี้นายกฯมานอนบ้านแม่ทัพด้วย วันนี้ความคิดถึงกำลังก่อตัวเป็นก้อนเมฆ เพื่อจะลอยไปหาที่รัก LOVE เหมียวที่สุดในโลก ความรักที่ให้ทุกวัน มั่นคงเหมือนดวงจันทร์ส่องแสงตลอดทั้งคืน พร้อมทั้งหมายเลขโทรศัพท์ของผู้ส่ง ซึ่งอ้างว่าเป็นเบอร์ของน.ส.มณีรัตน์ มูลจันทะ แฟนสาวของพลทหารอภินพมา แจกจ่ายต่อสื่อมวลชน
นายพร้อมพงศ์กล่าวว่า เมื่อวันที่ 13 เม.ย. พลทหารอภินพได้ส่งข้อความสั้นหรือเอสเอ็มเอสไปยังโทรศัพท์มือถือของน.ส.มณีรัตน์ แต่ไม่แน่ใจว่า ข้อความเหล่านี้ จะมีประโยชน์หรือโทษอย่างไรหรือไม่ โดยทางญาติผู้ตายได้มอบให้ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ใช้ประกอบการสอบสวนด้วย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อผู้สื่อข่าวโทรศัพท์ไปยังหมายเลขที่อ้างว่าเป็นของ น.ส.มณีรัตน์ ปรากฎว่ามีเสียงผู้ชายรับสาย โดยปฏิเสธว่าไม่ใช่เบอร์ของน.ส.มณีรัตน์ เมื่อผู้สื่อข่าวซักว่า เป็นใครและชื่ออะไร ชายคนดังกล่าวไม่ยอมตอบ เพียงแต่ยืนยันว่า ไม่ใช่เบอร์ของแฟนสาวพลทหารอภินพ ก่อนที่จะยอมรับว่าเป็นเพื่อนของนายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข ส.ส.เลย ที่มาขอยืมโทรศัพท์ใช้รับข้อความดังกล่าว เมื่อผู้สื่อข่าว สอบถามไปยังนายพร้อมพงศ์ก็ได้รับการชี้แจงว่า เบอร์โทรศัพท์ดังกล่าวเป็นเบอร์ของ ทีมงานพรรคเพื่อไทยที่รับข้อความดังกล่าวต่อมาอีกทอดหนึ่งจากเครื่องของ น.ส.มณีรัตน์ และยังระบุด้วยว่า ขณะนี้ซิมโทรศัพท์ของน.ส.มณีรัตน์ทาง ดีเอสไอ ได้ขอไปตรวจสอบการใช้โทรศัพท์ย้อนหลังแล้ว ขณะเดียวกันน.ส.มณีรัตน์ก็ได้ไปให้ ปากคำต่อเจ้าหน้าที่ดีเอสไอในวันเดียวกันนี้ด้วย
เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามนางศิริมนต์ มารดาพลทหารอภินพว่า ขณะนี้ได้ตัดสินใจ เรื่องศพอย่างไร นายศิริมนต์กล่าวว่า ขณะนี้จะเก็บศพไว้ก่อน ยังไม่เผา เพราะอยากรู้ข้อเท็จจริง ซึ่งเมื่อรู้ผลการชันสูตรของคณะแทพย์ศิริราชแล้วก็สบายใจขึ้น เมื่อถามว่า มีความเชื่อว่ากรณีนี้ไม่ใช่อุบัติเหตุ นางศิริมนต์กล่าวว่า คงอย่างนั้น แต่ก็สงสัยนิดหน่อย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังการแถลงข่าวได้มีทีมงานที่มาด้วยพาตัว นางศิริมนต์ออกไปทันที ไม่เปิดโอกาสให้สื่อมวลชนสอบถามเพิ่มเติมเป็นการส่วนตัว ซึ่งได้รับการเปิดเผยภายหลังจากนายพร้อมพงศ์ว่า คนที่พาตัวนางศิริมนต์ออกไปคือเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ
