xs
xsm
sm
md
lg

“สมุนแม้ว” ยังไม่หยุด ลากแม่พลทหารแถลงพร้อมเอสเอ็มเอส โมเมถูกทำร้ายจนตาย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พร้อมพงษ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย
“ส.ส.เพื่อแม้ว” ยังตั้งหน้าตั้งตาเชื่อไม่เลิก “พลทหาร อภินพ” ถูกทำร้ายจนเสียชีวิตแน่นอน พร้อมดึงแม่พลทหารแถลงข่าว เปิดเอสเอ็มเอส แฉ เจอจับผิดดันกลายเป็นเบอร์เพื่อน ส.ส.เลย ขณะที่ แม่พลทหารอ้างเหตุกลับลำ เพราะตอนแรกตกใจ ด้านดีเอสไอขยันผิดปกติรับตัวไปสอบสวนต่อ

วันนี้ (28 เม.ย.) ที่พรรคเพื่อไทย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ส.ส.และสมาชิกพรรคเพื่อไทย ซึ่งติดตามกรณีการเสียชีวิตของพลทหาร อภินพ เครือสุข ทหารรับใช้ภายในบ้าน พล.ท.คณิต สาพิทักษ์ แม่ทัพภาค 1 อาทิ นพ.สุรวิทย์ คนสมบูรณ์ ส.ส.ชัยภูมิ นายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข ส.ส.เลย และ นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย ได้พา นางศิริมนต์ มาเพ็ชร มารดาพลทหาร อภินพ มาร่วมแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน

นพ.สุรวิทย์ กล่าวว่า ในใบมรณบัตรจาก รพ.พระมงกุฎ แจ้งสาเหตุการตายของพลทหาร อภินพ ว่า กระดูกส่วนคอหัก เลือดออกใต้เยื่อหุ้มสมอง แต่ผลการชันสูตรที่ รพ.ศิริราช ระบุว่าสาเหตุการตายมาจากกะโหลกมีรอยแตกร้าวด้านหลัง ค่อนไปทางซ้ายยาว 6 ซม.มีเลือดออกในเยื่อหุ้มสมองส่วนหนา หากสาเหตุการตายเป็นไปตามใบมรณบัตร จะต้องเป็นการตายในทันที ในทางการแพทย์แล้วเมื่อถูกกระแทกอย่างแรงที่ศีรษะอาจจะหมดสติในช่วงแรก จากนั้นจะฟื้นขึ้นมา แต่เมื่อเลือดออกในเยื่อหุ้มสมองมากขึ้นก็จะทำให้เสียชีวิตได้

นพ.สุรวิทย์ อ้างว่า จากการแถลงของคณะแพทย์ศิริราช เมื่อวันที่ 27 เม.ย.ไม่พบกระดูกคอหัก ส่วนตัวได้สอบถามแพทย์ศิริราช ว่า สาเหตุการตายเกิดจากการกระแทกด้วยของแข็งอย่างรุนแรงใช่หรือไม่ ซึ่งแพทย์ก็ยืนยันว่าใช่ และเมื่อสอบถามว่า โอกาสที่คนจะล้มลงกระแทกจนเกิดแผลรุนแรงลักษณะนั้นมีน้อยมากใช่หรือไม่ แพทย์ก็ตอบว่าใช่ นอกจากนี้ บริเวณเหนือใบหูข้างขวาของผู้ตายยังมีแผลและรอยช้ำ บริเวณคอด้านซ้ายก็มีรอยช้ำ ถ้าหากเป็นการล้มกระแทกเพียงครั้งเดียวทางด้านซ้าย ด้านขวาก็ไม่ควรมีแผล จึงสันนิษฐานว่าไม่น่าจะเป็นการล้ม แต่มีการตีหรือกระแทกด้วยของแข็ง ขณะเดียวกัน ที่ข้อมือด้านซ้ายยังมีรอยช้ำ ตรงนี้น่าจะเป็นรอยแผลที่เกิดจากการถูกทำร้ายแล้วยกมือขึ้นมาปิดป้อง พรรคจึงสงสัยว่าพลทหาร อภินพ จะถูกทำร้ายจากบุคคลอื่น

ไร้มารยาท เปิด"เอสเอ็มเอส”พลทหาร ส่งถึงแฟนสาว

ด้าน นายพร้อมพงศ์ นำเอกสารเป็นรูปภาพและข้อความจากโทรศัพท์มือถือที่มีข้อความว่า “เมื่อคืนนี้นายกฯมานอนบ้านแม่ทัพด้วย วันนี้ความคิดถึงกำลังก่อตัวเป็นก้อนเมฆ เพื่อจะลอยไปหาที่รัก LOVE เหมียวที่สุดในโลก ความรักที่ให้ทุกวัน มั่นคงเหมือนดวงจันทร์ส่องแสงตลอดทั้งคืน” พร้อมทั้งหมายเลขโทรศัพท์ของผู้ส่ง ซึ่งอ้างว่า เป็นเบอร์ของ น.ส.มณีรัตน์ มูลจันทะ แฟนสาวของพลทหาร อภินพ มาแจกจ่ายต่อสื่อมวลชน

นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 13 เม.ย.พลทหาร อภินพ ได้ส่งข้อความสั้นหรือเอสเอ็มเอสไปยังโทรศัพท์มือถือของ น.ส.มณีรัตน์ แต่ไม่แน่ใจว่าข้อความเหล่านี้จะมีประโยชน์หรือโทษอย่างไรหรือไม่ โดยทางญาติผู้ตายได้มอบให้กรมสอบสวนคดีพิเศษใช้ประกอบการสอบสวนด้วย ทั้งนี้ น.ส.มณีรัตน์ เล่าให้ฟังว่า ได้คุยโทรศัพท์กับพลทหาร อภินพ ในวันที่ 13 เม.ย.และครั้งสุดท้ายวันที่ 14 เม.ย.เวลา 20.30 น.ดังนั้น พลทหาร อภินพ น่าจะเสียชีวิต หลังเวลา 20.30 น.ของวันที่ 14 เม.ย.ไปแล้ว ซึ่งจะแตกต่างกับคำชี้แจงในสภาของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ที่บอกว่า เสียชีวิตเช้าวันที่ 14 เม.ย.

จับพิรุธ เบอร์โทร.ที่ใช้แถลงข่าวเป็นเพื่อนสนิท ส.ส.เลย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อผู้สื่อข่าวโทรศัพท์ไปยังหมายเลขที่อ้างว่าเป็นของ น.ส.มณีรัตน์ ดังกล่าวนั้น ปรากฏว่า มีเสียงผู้ชายรับสาย โดยปฏิเสธว่าไม่ใช่เบอร์ของ น.ส.มณีรัตน์ เมื่อผู้สื่อข่าวซักว่า เป็นใครและชื่ออะไร ชายคนดังกล่าวไม่ยอมตอบ เพียงแต่ยืนยันว่า ไม่ใช่เบอร์ของแฟนสาวพลทหาร อภินพ ก่อนที่จะยอมรับว่าเป็นเพื่อนของ นายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข ส.ส.เลย ที่มาขอยืมโทรศัพท์ใช้รับข้อความดังกล่าว เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามไปยังนายพร้อมพงศ์ ก็ได้รับการชี้แจงว่า เบอร์โทรศัพท์ดังกล่าวเป็นเบอร์ของทีมงานพรรคเพื่อไทย ที่รับข้อความดังกล่าวต่อมาอีกทอดหนึ่งจากเครื่องของ น.ส.มณีรัตน์ และยังระบุด้วยว่า ขณะนี้ซิมโทรศัพท์ของ น.ส.มณีรัตน์ ทางกรมสอบสวนคดีพิเศษได้ขอไปตรวจสอบการใช้โทรศัพท์ย้อนหลังแล้ว ขณะเดียวกัน น.ส.มณีรัตน์ ก็ได้ไปให้ปากคำต่อเจ้าหน้าที่ดีเอสไอในวันเดียวกันนี้ด้วย

แม่พลทหารอภินพ กลับข้องใจสาเหตุการตาย

เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถาม นางศิริมนต์ มาเพ็ชร มารดาพลทหาร อภินพ ว่า ขณะนี้ได้ตัดสินใจเรื่องศพอย่างไรต่อไป นางศิริมนต์ กล่าวว่า ขณะนี้จะเก็บศพไว้ก่อน ยังไม่เผา เพราะอยากรู้ข้อเท็จจริง ซึ่งเมื่อรู้ผลการชันสูตรของคณะแพทย์ศิริราชแล้วก็สบายใจขึ้น เมื่อถามว่า มีความเชื่อว่ากรณีนี้ไม่ใช่อุบัติเหตุ นางศิริมนต์ กล่าวว่า คงอย่างนั้น แต่ก็สงสัยนิดหน่อย เมื่อถามว่า ศพจะฝากไว้ที่ รพ.ก่อนหรือไม่ นางศิริมนต์ กล่าวว่า ยังไม่มีความเห็นตอนนี้ เมื่อถามว่า เหตุใดจึงกลับลำ เพราะก่อนหน้านี้บอกไม่ติดใจอะไรแต่ตอนนี้กลับติดใจ นางศิริมนต์ กล่าวว่า ตอนนั้นตกใจ ยังฟังอะไรได้ไม่ค่อยดี แต่ตอนนี้อยากรู้ว่าตายเพราะอะไร

ต่อข้อถามว่า มีทหารโทรศัพท์มาข่มขู่หรือไม่ นางศิริมนต์ กล่าวว่า “ไม่ค่ะ โทร.คุยกันดีๆ เพียงแต่ถามด้วยความสงสัยว่าแม่เผาศพแล้ว ยังมาออกข่าวที่สภาอีก” เมื่อถามถึงการเผาศพ ที่ปรากฏว่าเป็นการเผาหลอก นางศิริมนต์ กล่าวว่า การเผาหลอกนั้นครอบครัวคิดกันเอง ทหารไม่รู้ว่าเผาหลอก เพราะไม่มีทหารไปร่วมงาน เมื่อถามว่า คุยกับลูกครั้งสุดท้ายเมื่อไรอย่างไรบ้าง นางศิริมนต์ กล่าวว่า ประมาณ 09.00-10.00 น.ของวันที่ 14 เม.ย.โดยลูกชายถามว่าจะมาหาหรือไม่ ตนซึ่งขณะนั้นขายลอตเตอรี่อยู่ที่พัทยา จึงบอกไปว่า ขอดูก่อน และที่ผ่านมา ตนก็ไม่เคยไปที่บ้านของ มท.ภ.1 หลังดังกล่าวมาก่อน แต่แฟนของลูกเคยไปมาแล้ว 1 ครั้ง แต่ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อใด เมื่อถามว่า คนที่แนะนำให้มาร้องเรียนคือใคร นางศิริมนต์ กล่าวว่า เป็นผู้อาวุโสที่เขาสงสาร เมื่อเห็นสภาพการทำศพ แต่ตนไม่รู้จักชื่อ รู้เพียงว่าเขาเคยผ่านการเป็นทหารมาก่อน แต่การชันสูตรศพเป็นการตัดสินใจของคนในครอบครัว เพราะสังหรณ์ใจในสาเหตุการตายของลูก

“ดีเอสไอ” ขยันผิดปกติ นำตัวแม่พลทหารไปทันที

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังการแถลงข่าวได้มีทีมงานที่มาด้วยพาตัว นางศิริมนต์ ออกไปทันที ไม่เปิดโอกาสให้สื่อมวลชนสอบถามเพิ่มเติมเป็นการส่วนตัว ซึ่งได้รับการเปิดเผยภายหลังจาก นายพร้อมพงศ์ ในภายหลัง ว่า คนที่พาตัว นางศิริมนต์ ออกไปคือเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ
เพื่อไทยปั้นข้อมูลจนเลอะมั่วเบอร์โทรแฟนคนตาย
เทพเทือก งงเสื้อแดงหาเรื่อง พลทหารตายถูกโยงเป็นฆาตกรรมอำพราง สั่งตั้ง กก.สอบข้อเท็จจริง ด้านแพทย์ ร.พ.พระมงกุฏ แจงเหตุที่ระบุสาเหตุการเสียชีวิตว่า คอหักในเบื้องต้นเพราะไม่มีแผนกชันสูตร แต่พอส่งให้ ร.พ.รามาฯผาพิสูตรจึงรู้ว่าตายเพราะกระโหลกด้านหลักแตก เลือดออกด้านนอกเยื้อหุ้มสมอง ขณะที่ พท.ยังเดินหน้ากล่าวหาถูกฆาตกรรม ส่ง ส.ส.ที่เป็นแพทย์วิเคราะห์เป็นฉากๆ อ้างถูกทำร้ายจนตาย เรื่องมาแตกเมื่องัด SMS ที่พลทหารส่งถึงแฟนสาว ระบุนายกฯมาพักบ้านแม่ทัพ แต่พอสื่อโทร.เข้าเบอร์มือมือกลับพบเป็นเพื่อนของ ส.ส.เพื่อไทย ไม่ใช่เบอร์คนตายอย่างที่อ้าง ส่วน ดีเอสไอ ขยันเกิดเหตุรีบฉกแม่พลทหารไปสอบสวนทันที
กำลังโหลดความคิดเห็น