วานนี้ (27 เม.ย) เวลา 13.30 น.ที่โรงพยาบาลศิริราช ศ.คลินิก นพ.ธีรวัฒน์ กุลทนันท์ คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ร่วมด้วยรศ.นพ.วิสูตร ฟองศิริไพบูลย์ หัวหน้าภาควิชานิติเวชศาสตร์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญการชันสูตรพลิกศพ และชันสูตรบาดแผล ในฐานะประธานคณะกรรมการตรวจสอบศพฯ แถลงผลการตรวจชันสูตรศพพลทหารอภินพ เครือสุข อายุ 22 ปี ทหารรับใช้ พล.ท.คณิต สาพิทักษ์ แม่ทัพภาคที่ 1 ซึ่งเสียชีวิตภายในบ้านพักแม่ทัพภาคที่ 1 ตั้งอยู่ในกรมทหารราบที่ 1 รักษาพระองค์ (ร.1 รอ.) เมื่อวันที่ 15 เม.ย.ที่ผ่านมา
นพ.วิสูตร กล่าวว่า ทางรพ.ศิริราช ได้เริ่มทำการตรวจศพที่ห้องตรวจศพเมื่อเวลา10.30น.ทีตึกอดุลยเดชวิกรม ชั้น 1 คณะแพทย์ได้ทำการตรวจอวัยวะภายนอก และภายใน ทำการเอกซเรย์อวัยวะทุกส่วน ไม่ว่าจะเป็นกะโหลกศีรษะ คอ หน้าอก เชิงกราน แขน และขา ซึ่งมีการถ่ายภาพเก็บเป็นหลักฐานไว้ทุกขั้นตอน
สำหรับผลการตรวจศพในเบื้องต้น พบว่ามีอาการช้ำบริเวณต้นคอด้านหลังค่อนมาทางซ้าย ฐานกะโหลกศีรษะด้านซ้ายส่วนหลังมีรอยแตกร้าว ตำแหน่งที่ใกล้กับช่องไขสันหลังมีรอยแตกยุบเล็กน้อย เป็นแผลยาวต่อเนื่องเป็นแผลที่ 2 และ 3 มีเลือดออกเหนือเยื่อหุ้มไขสันหลังบริเวณคอ ส่งผลให้เนื้อสมองกลีบซ้ายส่วนหลังมีรอยกดยุบจากเลือดที่ออกเหนือเยื่อหุ้มสมองชั้นหนาที่คงค้างอยู่
"สรุปสาเหตุการเสียชีวิตไม่ได้เกิดจากคอหัก แต่เกิดจากกะโหลกศีรษะส่วนหลังแตก มีเลือดออกเหนือเยื่อหุ้มสมองชั้นหนาที่กดเนื้อสมอง ซึ่งไม่ได้ทำให้เสียชีวิตในทันที อย่างไรก็ตาม การตายเร็วหรือช้าขึ้นอยู่กับการไหลซึมของเลือด แต่จากรอยแผลที่ต่อเนื่องนั้น เชื่อว่าเป็นการกระแทกอย่างรุนแรงหนึ่งครั้ง แต่แพทย์เจาะจงไม่ได้ว่า เกิดจากการซ้อม หรือลื่นหกล้มเอง บอกได้เพียงว่าเกิดจากการกระแทกกับของแข็ง หรือถูกของแข็งมากระแทก"
นพ.วิสูตร กล่าวต่อว่า คณะแพทย์ได้ตรวจสอบอวัยวะภายในแล้ว พบว่าไม่มีส่วนใดผิดปกติหรือฉีกขาด แต่บาดแผลภายนอกที่พบเห็น ก็คือมีรอยช้ำบริเวณแขนขา เป็นจุดเล็กๆ ซึ่งแพทย์ได้ตัดเนื้อเยื่อบริเวณดังกล่าวไปสุ่มตรวจโดยการย้อมพิเศษ ซึ่งต้องรอผลอย่างน้อย 7 วัน และจะรวบรวมข้อมูลพร้อมแนบสาเหตุการเสียชีวิตให้กับเจ้าพนักงานเจ้าของคดี ทั้งนี้เนื่องจากแพทย์ไม่สามารถระบุพฤติการณ์แห่งเหตุได้ แต่เชื่อว่าเมื่อพนักงานสอบสวนได้รับข้อมูลแล้ว จะสามารถสรุปสำนวนได้
ด้านนพ.สุรวิทย์ คนสมบูรณ์ ส.ส.พรรคเพื่อไทย ซึ่งเข้าร่วมสังเกตการณ์ในการแถลงข่าวในครั้งนี้ให้สัมภาษณ์ว่า แม่ของพลทหารอภินพ เชื่อใจ รพ.ศิริราช จึงขอย้ายให้มาชันสูตรศพที่นี่ และจากที่ตนได้ฟังผลการชันสูตรศพ ตนเชื่อว่าบาดแผลที่เกิดนั้น ใหญ่ มีความเป็นไปได้สูงที่พลทหารอภินพ จะถูกของแข็งกระแทกที่ศีรษะ หรือถูกซ้อมสูงกว่าการลื่นล้มเอง อย่างไรก็ตาม ตนในฐานะส.ส.ได้หมดหน้าที่แล้ว ต่อจากนี้ ต้องเป็นหน้าที่ของเจ้าพนักงานสอบสวน
ทั้งนี้ การชันสูตรศพพลทหารอภินพ นั้นไม่อนุญาตให้ส.ส.พรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นยคนนอกเข้าร่วมสังเกตการณ์ นอกจากญาติเท่านั้น เนื่องจากที่ผ่านมาก็ไม่เคยอนุญาตให้บุคคลที่ไม่เกี่ยวข้อง หรือไม่ใช่ญาติ เข้าร่วมสังเกตการณ์มาก่อน แต่สามารถดูภาพการชันสูตรศพได้จากวิดีโอเทป
**จวก"เพื่อไทย"หากินกับศพทหาร
นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณี ส.ส.พรรคเพื่อไทย มีความพยายามในการพิสูจน์การเสียชีวิตของพลทหารอภินพ ว่า พลทหารคนดังกล่าว เสียชีวิตเมื่อวันที่ 15 เม.ย. จึงไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับกรณีที่นายกรัฐมนตรี เดินทางไปพักที่บ้านของแม่ทัพภาค 1 เพราะเป็นเพียงพลทหารที่ดูแลบ้าน จึงเชื่อว่าเป็นความพยายามสร้างหลักฐานของฝ่ายตรงข้าม เพื่อดิสเครดิตการบริหารงานของรัฐบาล จึงตั้งข้อสังเกตว่าไม่มีเหตุจำเป็นอะไรต้องฆ่าพลทหารคนดังกล่าวหากไม่ได้เป็นอุบัติเหตุ เพราะไม่ได้มีพิษภัย และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องทางการเมือง แต่หากจะมีฆ่าจริง เชื่อว่าน่าจะเป็นฝ่ายตรงข้าม ที่ต้องการจัดการบุคคลรอบข้างก่อนเข้ามาถึงตัวนายกรัฐมนตรี
นายเทพไท กล่าวด้วยว่า จากการเสียชีวิตของพลทหารคนดังกล่าว ญาติของผู้เสียชีวิตไม่ได้ติดใจอะไร แต่เหมือนมีคนไปยุแหย่ จนท้ายที่สุดต้องนำศพมาพิสูจน์ที่สถาบันนิติวิยาศาสตร์ แต่เป็นที่น่าสังเกตว่า เพราะเหตุใดสมาชิกพรรคเพื่อไทย จึงได้ให้ความสนใจมากกว่าญาติพี่น้องของผู้ตาย รวมถึงการจุ้นจ้าน พยายามจะเข้าไปร่วมพิสูจน์ด้วย ทั้งที่ผิดหลักเกณฑ์ของสถาบันฯ ที่ได้รับความน่าเชื่อถือของประเทศ จนเกิดการโต้เถียงกับเจ้าหน้าที่ ซึ่งคนเหล่านี้คงเคยชินกันการเข้าแทรกแซงองค์กรต่างๆ จึงคิดว่าสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ จะแทรกแซงได้
"เชื่อว่าเหตุการณ์นี้ จะไม่ใช่ครั้งสุดท้ายที่พรรคเพื่อไทย พยายามทำทุกวิถีทางเพื่อหาเหตุให้เกิดผลเสียต่อรัฐบาล จึงเชื่อว่าจะมีการสร้างเรื่อง และสร้างเหตุการณ์ขึ้นมาอีก เพื่อทำลายความน่าเชื่อถือของรัฐบาล" นายเทพไทกล่าว
**แฉจ้างคนเจ็บให้เป็นแก๊งเสื้อแดง
นายเทพไทย กล่าวด้วยว่า หลังจากเกิดเหตุกลุ่มเสื้อแดงก่อการจลาจล และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ โดยมีผู้ได้รับบาดเจ็บรายหนึ่ง ที่ย่านนางเลิ้ง ได้เข้าไปพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลรามาธิบดี ก็ปรากฏว่า มีแกนนำกลุ่มเสื้อแดง ได้เข้าไปเกลี้ยกล่อมคนเจ็บให้บอกว่าเป็นการ์ดของกลุ่มคนเสื้อแดง และถูกทหารยิงจนได้รับบาดเจ็บ แต่ชายคนดังกล่าวไม่เล่นด้วย กลุ่มแกนนำดังกล่าวก็ยังมอบนามบัตรไว้ให้ ซึ่งเป็นนามบัตรในฐานะตัวแทนขององค์กร ประกอบด้วย สมาพันธ์ประชาธิปไตย มูลนิธิวีรชนประชาธิปไตย และมูลนิธิ 111 พรรคไทยรักไทย ซึ่งเชื่อว่ากระบวนการดังกล่าว เป็นความพยายามในการสร้างหลักฐานเพื่อทำลายความเชื่อมั่นของรัฐบาล ซึ่งหลังจากนี้ จะได้มีการพาผู้ได้รับบาดเจ็บมาเปิดเผยต่อไป
นพ.วิสูตร กล่าวว่า ทางรพ.ศิริราช ได้เริ่มทำการตรวจศพที่ห้องตรวจศพเมื่อเวลา10.30น.ทีตึกอดุลยเดชวิกรม ชั้น 1 คณะแพทย์ได้ทำการตรวจอวัยวะภายนอก และภายใน ทำการเอกซเรย์อวัยวะทุกส่วน ไม่ว่าจะเป็นกะโหลกศีรษะ คอ หน้าอก เชิงกราน แขน และขา ซึ่งมีการถ่ายภาพเก็บเป็นหลักฐานไว้ทุกขั้นตอน
สำหรับผลการตรวจศพในเบื้องต้น พบว่ามีอาการช้ำบริเวณต้นคอด้านหลังค่อนมาทางซ้าย ฐานกะโหลกศีรษะด้านซ้ายส่วนหลังมีรอยแตกร้าว ตำแหน่งที่ใกล้กับช่องไขสันหลังมีรอยแตกยุบเล็กน้อย เป็นแผลยาวต่อเนื่องเป็นแผลที่ 2 และ 3 มีเลือดออกเหนือเยื่อหุ้มไขสันหลังบริเวณคอ ส่งผลให้เนื้อสมองกลีบซ้ายส่วนหลังมีรอยกดยุบจากเลือดที่ออกเหนือเยื่อหุ้มสมองชั้นหนาที่คงค้างอยู่
"สรุปสาเหตุการเสียชีวิตไม่ได้เกิดจากคอหัก แต่เกิดจากกะโหลกศีรษะส่วนหลังแตก มีเลือดออกเหนือเยื่อหุ้มสมองชั้นหนาที่กดเนื้อสมอง ซึ่งไม่ได้ทำให้เสียชีวิตในทันที อย่างไรก็ตาม การตายเร็วหรือช้าขึ้นอยู่กับการไหลซึมของเลือด แต่จากรอยแผลที่ต่อเนื่องนั้น เชื่อว่าเป็นการกระแทกอย่างรุนแรงหนึ่งครั้ง แต่แพทย์เจาะจงไม่ได้ว่า เกิดจากการซ้อม หรือลื่นหกล้มเอง บอกได้เพียงว่าเกิดจากการกระแทกกับของแข็ง หรือถูกของแข็งมากระแทก"
นพ.วิสูตร กล่าวต่อว่า คณะแพทย์ได้ตรวจสอบอวัยวะภายในแล้ว พบว่าไม่มีส่วนใดผิดปกติหรือฉีกขาด แต่บาดแผลภายนอกที่พบเห็น ก็คือมีรอยช้ำบริเวณแขนขา เป็นจุดเล็กๆ ซึ่งแพทย์ได้ตัดเนื้อเยื่อบริเวณดังกล่าวไปสุ่มตรวจโดยการย้อมพิเศษ ซึ่งต้องรอผลอย่างน้อย 7 วัน และจะรวบรวมข้อมูลพร้อมแนบสาเหตุการเสียชีวิตให้กับเจ้าพนักงานเจ้าของคดี ทั้งนี้เนื่องจากแพทย์ไม่สามารถระบุพฤติการณ์แห่งเหตุได้ แต่เชื่อว่าเมื่อพนักงานสอบสวนได้รับข้อมูลแล้ว จะสามารถสรุปสำนวนได้
ด้านนพ.สุรวิทย์ คนสมบูรณ์ ส.ส.พรรคเพื่อไทย ซึ่งเข้าร่วมสังเกตการณ์ในการแถลงข่าวในครั้งนี้ให้สัมภาษณ์ว่า แม่ของพลทหารอภินพ เชื่อใจ รพ.ศิริราช จึงขอย้ายให้มาชันสูตรศพที่นี่ และจากที่ตนได้ฟังผลการชันสูตรศพ ตนเชื่อว่าบาดแผลที่เกิดนั้น ใหญ่ มีความเป็นไปได้สูงที่พลทหารอภินพ จะถูกของแข็งกระแทกที่ศีรษะ หรือถูกซ้อมสูงกว่าการลื่นล้มเอง อย่างไรก็ตาม ตนในฐานะส.ส.ได้หมดหน้าที่แล้ว ต่อจากนี้ ต้องเป็นหน้าที่ของเจ้าพนักงานสอบสวน
ทั้งนี้ การชันสูตรศพพลทหารอภินพ นั้นไม่อนุญาตให้ส.ส.พรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นยคนนอกเข้าร่วมสังเกตการณ์ นอกจากญาติเท่านั้น เนื่องจากที่ผ่านมาก็ไม่เคยอนุญาตให้บุคคลที่ไม่เกี่ยวข้อง หรือไม่ใช่ญาติ เข้าร่วมสังเกตการณ์มาก่อน แต่สามารถดูภาพการชันสูตรศพได้จากวิดีโอเทป
**จวก"เพื่อไทย"หากินกับศพทหาร
นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณี ส.ส.พรรคเพื่อไทย มีความพยายามในการพิสูจน์การเสียชีวิตของพลทหารอภินพ ว่า พลทหารคนดังกล่าว เสียชีวิตเมื่อวันที่ 15 เม.ย. จึงไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับกรณีที่นายกรัฐมนตรี เดินทางไปพักที่บ้านของแม่ทัพภาค 1 เพราะเป็นเพียงพลทหารที่ดูแลบ้าน จึงเชื่อว่าเป็นความพยายามสร้างหลักฐานของฝ่ายตรงข้าม เพื่อดิสเครดิตการบริหารงานของรัฐบาล จึงตั้งข้อสังเกตว่าไม่มีเหตุจำเป็นอะไรต้องฆ่าพลทหารคนดังกล่าวหากไม่ได้เป็นอุบัติเหตุ เพราะไม่ได้มีพิษภัย และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องทางการเมือง แต่หากจะมีฆ่าจริง เชื่อว่าน่าจะเป็นฝ่ายตรงข้าม ที่ต้องการจัดการบุคคลรอบข้างก่อนเข้ามาถึงตัวนายกรัฐมนตรี
นายเทพไท กล่าวด้วยว่า จากการเสียชีวิตของพลทหารคนดังกล่าว ญาติของผู้เสียชีวิตไม่ได้ติดใจอะไร แต่เหมือนมีคนไปยุแหย่ จนท้ายที่สุดต้องนำศพมาพิสูจน์ที่สถาบันนิติวิยาศาสตร์ แต่เป็นที่น่าสังเกตว่า เพราะเหตุใดสมาชิกพรรคเพื่อไทย จึงได้ให้ความสนใจมากกว่าญาติพี่น้องของผู้ตาย รวมถึงการจุ้นจ้าน พยายามจะเข้าไปร่วมพิสูจน์ด้วย ทั้งที่ผิดหลักเกณฑ์ของสถาบันฯ ที่ได้รับความน่าเชื่อถือของประเทศ จนเกิดการโต้เถียงกับเจ้าหน้าที่ ซึ่งคนเหล่านี้คงเคยชินกันการเข้าแทรกแซงองค์กรต่างๆ จึงคิดว่าสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ จะแทรกแซงได้
"เชื่อว่าเหตุการณ์นี้ จะไม่ใช่ครั้งสุดท้ายที่พรรคเพื่อไทย พยายามทำทุกวิถีทางเพื่อหาเหตุให้เกิดผลเสียต่อรัฐบาล จึงเชื่อว่าจะมีการสร้างเรื่อง และสร้างเหตุการณ์ขึ้นมาอีก เพื่อทำลายความน่าเชื่อถือของรัฐบาล" นายเทพไทกล่าว
**แฉจ้างคนเจ็บให้เป็นแก๊งเสื้อแดง
นายเทพไทย กล่าวด้วยว่า หลังจากเกิดเหตุกลุ่มเสื้อแดงก่อการจลาจล และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ โดยมีผู้ได้รับบาดเจ็บรายหนึ่ง ที่ย่านนางเลิ้ง ได้เข้าไปพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลรามาธิบดี ก็ปรากฏว่า มีแกนนำกลุ่มเสื้อแดง ได้เข้าไปเกลี้ยกล่อมคนเจ็บให้บอกว่าเป็นการ์ดของกลุ่มคนเสื้อแดง และถูกทหารยิงจนได้รับบาดเจ็บ แต่ชายคนดังกล่าวไม่เล่นด้วย กลุ่มแกนนำดังกล่าวก็ยังมอบนามบัตรไว้ให้ ซึ่งเป็นนามบัตรในฐานะตัวแทนขององค์กร ประกอบด้วย สมาพันธ์ประชาธิปไตย มูลนิธิวีรชนประชาธิปไตย และมูลนิธิ 111 พรรคไทยรักไทย ซึ่งเชื่อว่ากระบวนการดังกล่าว เป็นความพยายามในการสร้างหลักฐานเพื่อทำลายความเชื่อมั่นของรัฐบาล ซึ่งหลังจากนี้ จะได้มีการพาผู้ได้รับบาดเจ็บมาเปิดเผยต่อไป