ที่ประชุมอนุสมานฉันท์ฯ เตรียมเสนอ 8 แนวทางต่อที่ประชุมใหญ่ เล็งเสนอ อปธ.สภา ตั้งคณะกรรมการเฉพาะกิจสานงานต่อ นัดสรุปอย่างเป็นทางการพรุ่งนี้ ด้าน “ตวง” ทำเก๋ เตรียมทำเสื้อสมานฉันท์ โยนพระปกเกล้าเจ้าภาพคิดสโลแกน
วันนี้ (20 พ.ค.) ที่รัฐสภา มีการประชุมคณะอนุกรรมการพิจารณาศึกษาแนวทางสร้างความสมานฉันท์ มีนายตวง อันทะไชย ส.ว.สรรหา เป็นประธานในที่ประชุม ไดยเชิญนายนพดล แก้วสุพัฒน์ นายกสมาคมองค์การบริหารส่วนตำบล พล.อ.เอกชัย ศรีวิลาศ ตัวแทนจากสถาบันพระปกเกล้า ศ.นพ.สมศักดิ์ โล่ห์เลขา นายกแพทยสภา นายวิเชียร คุตตวัส ประธานมูลนิธิเพื่อการพัฒนาวิทยุชุมชนไทย นายยงยศ แก้วเขียว นายกสมาคมกำนันผู้ใหญ่บ้าน นายเกียรติชัย พงษ์พาณิชย์ ที่ปรึกษามติชน ร่วมเสวนา เพื่อหาแนวทางสร้างความสมานฉันท์ให้แก่ประเทศ
ทั้งนี้ ที่ประชุมมีการเสนอแนวทางกันอย่างหลากหลาย ที่ประชุมได้สรุปข้อเสนอของคณะอนุกรรมการในระดับเร่งด่วนเพื่อเสนอต่อที่ประชุมใหญ่ รวมเป็น 8 ประเด็น คือ 1.ลดวิวาทะทางการเมืองด้วยการตอบโต้ ใส่ร้ายซึ่งกันและกัน 2.รัฐบาลและฝ่ายค้านต้องลดการสร้างเงื่อนไขนำไปสู่ความรุนแรง 3.ให้สื่อมวลชนทุกแขนงเข้ามาเป็นเครือข่ายในการรณรงค์และสร้างความสมานฉันท์ในชาติ เช่น สื่อควรเสนอข่าวให้น้อยลง โดยเฉพาะการชกต่อย และถ่ายทอดในสภาของ ส.ส. 4.ควรมีกระบวนการเจรจาสร้างสันติสุขกับคู่ขัดแย้งทุกระดับ 5.ตั้งสมัชชาสมานฉันท์เพื่อระดมความเห็นจากประชาชนทุกภาคส่วน 6.ร่วมกันสร้างรัฐธรรมนูญสมานฉันท์ โดยมีการศึกษาผลกระทบจากการบังคับใช้ และผลของการบังคับใช้ต้องให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกภาคส่วน 7.องค์กรต่างๆ ในสังคมต้องใช้อำนาจด้วยความถูกต้อง ลดการใช้ความรุนแรง และ 8.สร้างกระแสสังคมให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน โดยให้ทุกคนได้มีส่วนร่วม ไม่เลือกสี ไม่เลือกข้างว่าจะเป็นรัฐบาลหรือฝ่ายค้าน ละเว้นการแบ่งสี
ด้าน นายตวงให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมว่า ทั้ง 8 แนวทางการสร้างความสมานฉันท์จะมีการประชุมสรุปครั้งสุดท้ายอีกครั้งในวันที่ 21 พ.ค.นี้เวลา 09.30 น.เพื่อหาเจ้าภาพในการดำเนินการอย่างเป็นทางการ เช่น การสร้างกระแสสังคมให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน จะมีรูปแบบของการรณรงค์ด้วยการทำเสื้อ โดยมีโลโก้ และสโลแกนของการสร้างความสมานฉันท์ โดยที่ประชุมได้มอบหมายให้ สถาบันพระปกเกล้าเป็นดำเนินการคิดรูปแบบโลโก้ และสโลแกน พร้อมทั้งจะขอความร่วมมือกับสื่อมวลชนทุกแขนงในการร่วมรณรงค์ ซึ่งตัวแทนของสถาบันพระปกเกล้ารับไปดำเนินการ เบื้องต้นจะมีการทำเสื้อทุกสี แต่จะติดโลโก้ และสโลแกนแบบเดียวกันทั้งหมด เพื่อทุกสีได้เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน โดยอนุกรรมการจะประสาน ความร่วมมือไปยังสมาคมวิชาชีพสื่อมวลชน เพื่อร่วมประชาสัมพันธ์และรณรงค์โครงการนี้ด้วย หลังจากได้ข้อสรุปหน่วยงานรับผิดชอบแล้วก็จะได้นำเสนอแนวทางออกต่อประธานรัฐสภาต่อไป
ประธานอนุกรรมการสมานฉันท์กล่าวว่า ในการประชุมครั้งนี้มีอนุกรรมการบางส่วนเสนอให้มีการต่ออายุของอนุกรรมการต่อไปอีก แต่ที่ประชุมเห็นว่าสมควรที่จะปฏิบัติตามกรอบเวลา ซึ่งหากประชาชนเห็นความสำคัญกับแนวทางนี้ สุดท้ายประชาชนจะมาเป็นแนวร่วมในการสร้างความสมานฉันท์ โดยอนุกรรมการอาจจะมีการเสนอประธานสภา เพื่อขอตั้งคณะกรรมการเพื่อสร้างความสมานฉันท์ขึ้นมาทำงานเรื่องนี้อย่างจริงจังเพื่อให้เกิดผลเป็นรูปธรรมต่อไป
วันนี้ (20 พ.ค.) ที่รัฐสภา มีการประชุมคณะอนุกรรมการพิจารณาศึกษาแนวทางสร้างความสมานฉันท์ มีนายตวง อันทะไชย ส.ว.สรรหา เป็นประธานในที่ประชุม ไดยเชิญนายนพดล แก้วสุพัฒน์ นายกสมาคมองค์การบริหารส่วนตำบล พล.อ.เอกชัย ศรีวิลาศ ตัวแทนจากสถาบันพระปกเกล้า ศ.นพ.สมศักดิ์ โล่ห์เลขา นายกแพทยสภา นายวิเชียร คุตตวัส ประธานมูลนิธิเพื่อการพัฒนาวิทยุชุมชนไทย นายยงยศ แก้วเขียว นายกสมาคมกำนันผู้ใหญ่บ้าน นายเกียรติชัย พงษ์พาณิชย์ ที่ปรึกษามติชน ร่วมเสวนา เพื่อหาแนวทางสร้างความสมานฉันท์ให้แก่ประเทศ
ทั้งนี้ ที่ประชุมมีการเสนอแนวทางกันอย่างหลากหลาย ที่ประชุมได้สรุปข้อเสนอของคณะอนุกรรมการในระดับเร่งด่วนเพื่อเสนอต่อที่ประชุมใหญ่ รวมเป็น 8 ประเด็น คือ 1.ลดวิวาทะทางการเมืองด้วยการตอบโต้ ใส่ร้ายซึ่งกันและกัน 2.รัฐบาลและฝ่ายค้านต้องลดการสร้างเงื่อนไขนำไปสู่ความรุนแรง 3.ให้สื่อมวลชนทุกแขนงเข้ามาเป็นเครือข่ายในการรณรงค์และสร้างความสมานฉันท์ในชาติ เช่น สื่อควรเสนอข่าวให้น้อยลง โดยเฉพาะการชกต่อย และถ่ายทอดในสภาของ ส.ส. 4.ควรมีกระบวนการเจรจาสร้างสันติสุขกับคู่ขัดแย้งทุกระดับ 5.ตั้งสมัชชาสมานฉันท์เพื่อระดมความเห็นจากประชาชนทุกภาคส่วน 6.ร่วมกันสร้างรัฐธรรมนูญสมานฉันท์ โดยมีการศึกษาผลกระทบจากการบังคับใช้ และผลของการบังคับใช้ต้องให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกภาคส่วน 7.องค์กรต่างๆ ในสังคมต้องใช้อำนาจด้วยความถูกต้อง ลดการใช้ความรุนแรง และ 8.สร้างกระแสสังคมให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน โดยให้ทุกคนได้มีส่วนร่วม ไม่เลือกสี ไม่เลือกข้างว่าจะเป็นรัฐบาลหรือฝ่ายค้าน ละเว้นการแบ่งสี
ด้าน นายตวงให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมว่า ทั้ง 8 แนวทางการสร้างความสมานฉันท์จะมีการประชุมสรุปครั้งสุดท้ายอีกครั้งในวันที่ 21 พ.ค.นี้เวลา 09.30 น.เพื่อหาเจ้าภาพในการดำเนินการอย่างเป็นทางการ เช่น การสร้างกระแสสังคมให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน จะมีรูปแบบของการรณรงค์ด้วยการทำเสื้อ โดยมีโลโก้ และสโลแกนของการสร้างความสมานฉันท์ โดยที่ประชุมได้มอบหมายให้ สถาบันพระปกเกล้าเป็นดำเนินการคิดรูปแบบโลโก้ และสโลแกน พร้อมทั้งจะขอความร่วมมือกับสื่อมวลชนทุกแขนงในการร่วมรณรงค์ ซึ่งตัวแทนของสถาบันพระปกเกล้ารับไปดำเนินการ เบื้องต้นจะมีการทำเสื้อทุกสี แต่จะติดโลโก้ และสโลแกนแบบเดียวกันทั้งหมด เพื่อทุกสีได้เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน โดยอนุกรรมการจะประสาน ความร่วมมือไปยังสมาคมวิชาชีพสื่อมวลชน เพื่อร่วมประชาสัมพันธ์และรณรงค์โครงการนี้ด้วย หลังจากได้ข้อสรุปหน่วยงานรับผิดชอบแล้วก็จะได้นำเสนอแนวทางออกต่อประธานรัฐสภาต่อไป
ประธานอนุกรรมการสมานฉันท์กล่าวว่า ในการประชุมครั้งนี้มีอนุกรรมการบางส่วนเสนอให้มีการต่ออายุของอนุกรรมการต่อไปอีก แต่ที่ประชุมเห็นว่าสมควรที่จะปฏิบัติตามกรอบเวลา ซึ่งหากประชาชนเห็นความสำคัญกับแนวทางนี้ สุดท้ายประชาชนจะมาเป็นแนวร่วมในการสร้างความสมานฉันท์ โดยอนุกรรมการอาจจะมีการเสนอประธานสภา เพื่อขอตั้งคณะกรรมการเพื่อสร้างความสมานฉันท์ขึ้นมาทำงานเรื่องนี้อย่างจริงจังเพื่อให้เกิดผลเป็นรูปธรรมต่อไป