ปธ.วิปรัฐบาลระบุวิปมีมติตั้งคณะ กก.ประสานงานและติดตามงานเชิงนโยบายของรัฐบาลรายงานนายกฯ ในช่วงปิดสมัยประชุม พร้อมประเมินผลงานในรอบ 4 เดือน
วันนี้ (20 พ.ค.) นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) กล่าวว่า วิปประเมินผลงานในรอบ 4 เดือนของวิปรัฐบาลเพื่อประเมินผลงานในการทำงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ในนามวิปรัฐบาลขอขอบคุณพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคที่ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ขอขอบคุณประธานวุฒิสภาและสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ที่อำนวยความสะดวกในการประสานงานเพื่อการประชุมร่วมรัฐสภา โดยที่ประชุมวิปมีความเห็นตรงกันว่า การทำงานของวิปเป็นไปตามเป้าหมายของฝ่ายนิติบัญญัติโดยภาพรวมการทำงาน อยู่ในระดับที่ทุกฝ่ายพอใจการทำงานตลอด 4 เดือน ทั้งนี้ ภารกิจสำคัญที่วิปได้ดำเนินการ คือ การเปิดพื้นที่สภาให้ทุกภาคส่วนได้มีส่วนร่วมมากขึ้น โดยเฉพาะการให้ถ่ายทอดสด ในการตั้งกระทู้ถามและการให้สมาชิกไปชี้แจงต่อประชาชนทำให้สภาใกล้ชิดประชาชนมากขึ้น
นายชินวรณ์กล่าวว่า สำหรับผลงานของวิปรัฐบาลได้มีการพิจารณาร่างพรบ.และร่างพรก.ทั้งหมด 25 ฉบับ โดยแบ่งเป็นร่าง พ.ร.บ.ที่รับหลักการ และอยู่ระหว่างการพิจารณาของกรรมาธิการ 10 ฉบับ เห็นชอบในวาระ 2 และ 3 ส่งให้วุฒิสภาพิจารณา 5 ฉบับ เป็นร่างกฏหมายที่ตั้งคณะกรรมาธิการร่วมกัน 3 ฉบับ ประกาศใช้กฏหมายไปแล้ว 5 ฉบับ อนุมัติ พ.ร.ก.2 ฉบับ ให้ความเห็นชอบหนังสือสัญญาสำคัญรวมถึงข้อสัญญาที่ ครม.ขอความเห็นชอบจากรัฐสภา จำนวน 38 เรื่อง มีการตั้งกระทูถามทั่วไปตอบในสภาผู้แทนราษฎร 33 เรื่อง กระทู้ถามสด 35 กระทู้ มีกระทู้ถามนายกรัฐมนตรีตอบในราชกิจจานุเบกษาไปแล้ว 3 เรื่องนายกรัฐมนตรีเห็นชอบในคำตอบ อยู่ระหว่างรอประกาศในราชกิจจานุเบกษา 17 เรื่องอยู่ระหว่งดำเนินการ 89 เรื่อง วิปเห็นว่าในช่วงสมัยปิดประชุม ขอให้นายกรัฐมนตรีมีบัญชาให้รัฐมนตรี เห็นความสำคัญของตั้งกระทู้ถาม โดยเร่งรัดตอบคำถามทั้ง 89 เรื่อง เพื่อให้สมาชิกไปชี้แจงทำความเข้าใจต่อประชาชน
ประธานวิปรัฐบาลกล่าวอีกว่า วิปรัฐบาลยังเห็นว่าวิปมีส่วนสำคัญในการนำเอาดำริของนายกรัฐมนตรีที่ได้แสดงความคิดเห็นในการเปิดอภิปรายทั่วไปตามรัฐธรรมนูญมาตรา 179 เพื่อให้เปิดพื้นที่ของสภาในการตั้งคณะกรรมการสมานฉันท์เพื่อการฏิรูปการเมือง และศึกษาการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และคณะกรรมการตรวจสอบ ข้อเท็จจริงเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมือง โดยคณะกรรมการทั้งสองคณะได้รับการยอมรับว่ามีการดำเนินการที่มีความคืบหน้า โดยคาดว่าจะได้ข้อสรุปที่เป็นกลาง มีอิสระ และได้รับความไว้วางใจจากทุกภาคส่วนโดยเร็วที่สุด
ในส่วนของกรรมการสมานฉันท์ คาดว่าจะเป็นเรื่องที่ทำให้สังคมตระหนักรู้ว่าการแก้ไขปัญหาในสถานการณ์ที่ขัดแย้งอย่างสูงยิ่ง และภายใต้ความยุ่งยากในการตัดสินใจ การเปิดพื้นที่สภาอย่างกว้างขวางและรับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วนเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญของการเมืองไทยที่จะแปรวิกฤตให้เป็นโอกาส นำมาสู่การเจรจาและนำไปสู่กระบวนการที่ทุกคนยอมรับการที่ประชาชนได้เห็นว่ากลไกของสภาสามารถเป็นเครื่องมือแก้ไขปัญหาได้ ทำให้มี่ความหวังว่าระบบรัฐสภาเป็นระบบที่ประชาชนทุกคนได้ให้ความสำคัญและมีส่วนร่วม
นายชินวรณ์กล่าวอีกว่า วิปยังมีมติให้ตั้งคณะกรรมการประสานงานและติดตามงานเชิงนโยบายของรัฐบาลเพื่อรายงานตรงต่อนายกรัฐมนตรีในช่วงปิดสมัยประชุม 4 เดือน ทั้งนี้ เพื่อให้สมาชิกได้ไปพบปะและชี้แจงต่อประชาชน อย่างน้อยเพื่อจะได้มีข้อมูลสะท้อนกลับมายังรัฐบาล โดยคณะกรรมการฯ จะนำข้อมูลที่ได้ไปรายงานตรงต่อนายกรัฐมนตรีเพื่อแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจและปัญหาปากท้อง ตลอดถึงการสร้างความเข้าใจร่วมกันเพื่อให้รัฐบาลสามารถทำงานในเชิงรุกในการแก้ไขปัญหา วิปยังเสนอรัฐบาลกำหนดยุทธศาสตร์เชิงรุกให้รัฐมนตรีทุกคนลงพื้นที่ทุกจังหวัดเป็นรอบที่สอง โดยให้มีการแถลงผลงานของรัฐบาล และรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ทั้งนี้ วิปขอเสนอให้รัฐบาลกำหนดยุทธศาสตร์การประชาสัมพันธ์ด้วยการทำสกู๊ปเสนอทางโทรทัศน์ วิทยุ และหนังสือพิมพ์ โดยหากรัฐบาลเห็นด้วยวิปพร้อมจะร่วมรายการ ตามดูผลงานของรัฐบาลอภิสิทธิ์ ทั้งนี้ วิปเชื่อว่าผลงานของรัฐบาลเป็นที่ยอมรับของประชาชนในระดับหนึ่ง โดยเห็นว่าแนวทางแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจได้ดำเนินการมาถูกทาง เห็นได้จากการเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มได้มากขึ้น และมีตัวเลขบ่งชี้ดัชนีการลงทุนในตาดหลักทรัพย์ที่ดีขึ้น
“รัฐบาลต้องมียุทธศาสตร์การประชาสัมพันธ์ผลงานที่ชัดเจน เชื่อว่าในช่วงปิดสมัยประชุมหากรัฐมนตรีทุกคนได้ลงพื้นที่ตามที่เสนอจะเกิดผลอย่างชัดเจนว่าตลอด 4 เดือนที่ผ่านมารัฐบาลได้ดำเนินการอย่างจริงจังและจริงใจ” นายชินวรณ์ กล่าว