ประธานวิปรัฐบาล โยน “ชัย” พิจารณาเองชะลอพิจารณาร่างพ.ร.ก.ก่อนหรือไม่ ระบุมีวาระเร่งด่วน 3 เรื่องต้องเร่งพิจารณา เชื่อหากชะลอพ.รก.กู้เงิน ไม่กระทบกฎหมายอื่น จี้ฝ่ายค้านรับผิดชอบหากศาลตีความไม่ผิดรัฐธรรมนูญ เหตุก่อปัญหากระทบความเชื่อมั่นการลงทุน พร้อมมั่นใจเสียงพรรคร่วมไม่แตกแถวเล็งประชุมเชกเสียงก่อนวันลงมติ
วันนี้ (16 พ.ค.) เมื่อเวลา 13.00 น.ที่รัฐสภา นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ประธานวิปรัฐบาล กล่าวถึงกรณีพรรคเพื่อไทยยื่นเรื่องคัดค้านการออกพ.ร.ก. ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงิน เพื่อฟื้นฟูและเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจพ.ศ.2552 ซึ่งคณะรัฐมนตรีเสนอในวงเงินไม่เกิน 4 แสนล้านบาทต่อประธานสภาผู้แทนราษฎรว่า เป็นอำนาจของประธานสภาผู้แทนราษฎรที่จะวินิจฉัยว่าจะให้รอการพิจารณาพ.ร.ก.ดังกล่าวออกไปก่อนหรือไม่ หากต้องรอก็ยังมีเรื่องด่วนอีก 3 เรื่อง คือพ.ร.ก.ภาษีสรรพสามิต พ.ร.ก.ภาษียาสูบ และพ.ร.บ.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อฟื้นฟูและเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจอีก 3 แสนล้านบาทที่จะต้องพิจารณา ทั้งนี้หากประธานสภาฯ ยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามที่ฝ่ายค้านนำเสนอก็จะไม่มีผลต่อการออกพระราชกำหนดไปแล้ว เพียงแต่จะทำให้รัฐบาลเสียโอกาสในการนำงบประมาณมากระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน หากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าการออกพ.ร.ก.ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ ฝ่ายค้านจะต้องรับผิดชอบเพราะทำให้เกิดปัญหากระทบต่อความเชื่อมั่นในการลงทุนโครงการต่างๆ
นายชินวรณ์ กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตามมั่นใจว่าการออกพระราชกำหนดกู้เงินเป็นอำนาจของฝ่ายบริหารที่จะทำได้อยู่แล้วตามรัฐธรรมนูญมาตรา 184 ที่สำคัญเคยมีกรณีตัวอย่างสมัยรัฐบาลพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่เคยทำในลักษณะนี้มาแล้วและศาลรัฐธรรมนูญก็วินิจฉัยว่าสามารถทำได้
เมื่อถามว่าหากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าเป็นการออกพ.ร.ก.โดยมิชอบด้วยรัฐธรรมนูญจะทำอย่างไร นายชินวรณ์ กล่าวว่า รัฐบาลก็ต้องนำคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญลงประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป แต่ถ้าศาลรัฐธรรมนูญเห็นว่าเป็นการออกโดยชอบด้วยรัฐธรรมนูญก็คงจะต้องเรียกประชุมสภาสมัยวิสามัญเพื่อพิจารณาพ.ร.ก.นี้ อย่างไรก็ตามพรรคร่วมรัฐบาลเห็นว่าพ.ร.ก.ดังกล่าวเป็นแผนเร่งด่วนที่จะต้องนำเงินงบประมาณมาใช้ในการฟื้นฟูเศรษฐกิจ และการแยกออกเป็นพ.ร.ก.และพ.ร.บ.คนละฉบับก็เพราะการออกพ.ร.ก.เป็นการนำเม็ดเงิน 4 แสนล้านบาทมาฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศในระยะสั้น ซึ่งรัฐบาลจะต้องดำเนินการให้เสร็จสิ้นทันเดือนกรกฎาคมนี้ ส่วนอีก 4 แสนล้านบาทที่ออกเป็นพ.ร.บ.นั้นเป็นเงินที่จะฟื้นฟูเศรษฐกิจในระยะยาว
ประธานวิปรัฐบาล กล่าวถึงเสียงสนับสนุนของพรรคร่วมรัฐบาลในการพิจารณาพ.ร.ก.และพ.ร.บ.ในวันจันทร์นี้ว่า มั่นใจว่าองค์ประชุมครบแน่ เพราะวิปของพรรคร่วมรัฐบาลได้นัดประชุมมาก่อนหน้านี้และมอบหมายให้แต่ละพรรคมีแกนนำในการติดตามส.ส.อย่างใกล้ชิด รวมทั้งในวันจันทร์ที่ 18 พ.ค.นี้จะนัดประชุมวิปพรรคร่วมรัฐบาลอีกครั้งในเวลา 8.30 น.เพื่อตรวจสอบความพร้อมของทุกพรรค
นายชินวรณ์ ยังกล่าวถึงความขัดแย้งระหว่างประธานส.ส.ของพรรคประชาธิปัตย์ และ 8 ตัวแทนกรรมการสมานฉันท์ในส่วนของพรรค ว่า ขณะนี้ได้มีการเคลียร์ใจกันเป็นที่เรียบร้อย ไม่มีความขัดแย้ง เหตุที่เกิดขึ้นเกิดจากความเข้าใจผิด โดยตัวแทนของพรรคได้อธิบายให้นายชุมพลรับทราบแล้วว่าตัวแทนของพรรคจะไม่ดำเนินการใดๆในการเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้เสนอความเห็นในเรื่องนี้ เพราะสุดท้ายจะต้องนำผลการหารือของคณะอนุกรรมการฯเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการสมานฉันท์ชุดใหญ่ก่อน โดยตัวแทนทั้ง 8 คนของพรรคก็พร้อมจะรับฟังมติของพรรค
