“อภิสิทธิ์”พร้อมชะลอพ.ร.ก.กู้เงิน 4 แสนล้านบาททันที หากประธานสภาฯ พิจารณาหลักเกณฑ์แล้วส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความว่าขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ ระบุจำเป็นต้องออก หวังช่วยฟื้นเศรษฐกิจ สร้างงานให้ประชาชน เชื่อดูความถูกต้องแล้ว มั่นใจไม่ขัดกฎหมายแน่
วันนี้(16 พ.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีฝ่ายค้านจะยื่นให้ประธานรัฐสภายื่นศาลรัฐธรรมนูญตีความกรณีที่รัฐบาลขอออก พ.ร.ก.กู้เงิน 4 แสนล้านบาท ว่า ถ้าการยื่นตีความของฝ่ายค้านได้รับการตรวจสอบจากประธานรัฐสภาอย่างถูกต้องแล้ว สภาก็ต้องชะลอการพิจารณาไว้ก่อน ทั้งนี้ รัฐบาลยังยืนยันความจำเป็นและขอการสนับสนุนจากทุกฝ่าย เพราะที่ทำทั้งหมดมีเป้าหมายที่ชัดเจนคือ การสนับสนุนให้เศรษฐกิจของเราเดินได้ มีการสร้างงาน และปรับปรุงบริการพื้นฐานของรัฐบาลที่จะมีให้กับประชาชนทั้งเรื่องแหล่งน้ำ เส้นทางคมนาคม โรงเรียน สถานีอนามัย และการสนับสนุนการท่องเที่ยว รวมถึงการทำเศรษฐกิจที่อิงกับความคิดสร้างสรรค์
ผู้สื่อข่าวถามว่า ฝ่ายค้านอ้างว่ารัฐบาลบรรจุโครงการที่ไม่เร่งด่วนไปในพ.ร.ก.กู้เงิน นายกฯ กล่าวว่า ไม่มี เพราะอะไรที่ไม่จำเป็นเร่งด่วน เราแยกไว้ในพ.ร.บ.อยู่แล้ว ไม่อย่างนั้นเราก็ใส่ไปในพ.ร.ก.ทั้งหมด
ต่อข้อถามว่า รัฐบาลจะมีทางออกอย่างไรเพื่อให้การพิจารณาเป็นไปโดยเร็วที่สุด นายกฯ กล่าวว่า ศาลรัฐธรรมนูญก็พิจารณาโดยเร็วอยู่แล้ว เพราะในรัฐธรรมนูญก็กำหนดเอาไว้ ทั้งนี้ตนมีโอกาสได้พูดคุยกับนายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง เมื่อคืนนี้หลังกลับจากการเยือนฮ่องกง ก็ขอให้ใช้วิธีการในการเตรียมการในขั้นตอนต่างๆ เท่าที่จะทำได้ไป และถ้าศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยออกมาแล้วไม่มีปัญหาก็จะสามารถเดินหน้าได้เต็มที่
"ถ้าประธานรัฐสภาตรวจสอบว่าการยื่นของฝ่ายค้านเข้าเงื่อนไขและถูกต้องและส่งไป ก็ต้องชะลอการพิจารณาพ.ร.ก. แต่เท่าที่ผมฟังจากวิป คือการประชุมสภายังมีอยู่ เพราะมีตัวพ.ร.บ.อยู่" นายกฯ กล่าว
เมื่อถามว่าถ้าศาลรัฐธรรมนูญตีความแล้วมีปัญหา นายกฯจะทำอย่างไร นายกฯ กล่าวว่า ตนไปพูดล่วงหน้าไม่ได้ แต่รัฐบาลพร้อมชี้แจงและมั่นใจ ทั้งนี้ถ้าพ.ร.ก.ถูกตีความว่าขัดรัฐธรรมนูญ มันก็ใช้ไม่ได้ตั้งแต่ต้นอยู่แล้วตามรัฐธรรมนูญ
เมื่อถามว่าหมายความว่าจะออกเป็นพ.ร.บ.ใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ยังไม่คิดถึงตรงนั้น เพราะเราได้ดูกันมาตลอด และตนเป็นคนที่ย้ำให้ฝ่ายกฎหมายให้กระทรวงการคลังดูให้ชัดเจนว่าเข้าใจเงื่อนไขหรือไม่ เพราะตนไม่อยากออกพ.ร.ก.โดยไม่จำเป็น เมื่อเห็นชัดเจนว่าจำเป็นต้องตัดสินใจเสนอเป็นพ.ร.ก. และความจริงได้บอกเขาไปด้วยว่าจะต้องแยกเลยว่าอะไรไม่เร่งด่วน ต้องไปอยู่เป็นพ.ร.บ. ต่อถามว่าแสดงว่ามั่นใจใช่หรือไม่ว่าไม่มีปัญหา นายกฯ กล่าวว่า ตนมั่นใจ เพราะเราดูเรื่องนี้กันครั้งแล้วครั้งเล่า ไม่อย่างนั้นเราไม่เสนอมาในรูปแบบของพ.ร.ก.และพ.ร.บ.
เมื่อถามว่ามีความเป็นห่วงเรื่ององค์ประชุมหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า เป็นหน้าที่ความรับผิดชอบของรัฐบาลที่จะต้องดูแลองค์ประชุมให้ครบ เพราะเรามีเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร มันมีปัญหาคือเวลาที่เป็นการประชุมร่วม ถึงรัฐบาลมาครบก็ยังไม่ครบองค์ประชุม แต่ที่ผ่านมาก็ได้รับความร่วมมือจากวุฒิสภาเป็นอย่างดี
