เครือข่ายวิทยุชุมชน เสนอตัวช่วยรัฐบาลแก้ไขปัญหาบ้านเมืองให้เกิดความสงบเรียบร้อยและสร้างความมั่นคงในชาติ ระบุ จะจับตาตรวจสอบกันเองให้ทุกคลื่นทั่วประเทศ จัดรายการอย่างสร้างสรรค์ภายใต้กรอบจริยธรรมและคุณธรรม ด้าน กมธ.สื่อสารฯ สภาผู้แทนฯ แนะ รัฐเร่งวางกรอบจัดสรรคลื่นความถี่ ใช้กฎหมายกำกับดูแลเพื่อลบภาพวิทยุเถื่อน
วานนี้ (15 พ.ค.) ที่โรงแรมรามาการ์เด้นส์ คณะกรรมาธิการสื่อสารและโทรคมนาคม สภาผู้แทนราษฎร ร่วมกับสมาคมสิทธิผู้บริโภคและคณะกรรมการกิจการจัดสรรคลื่นความถี่สำหรับกิจการวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์(กทช.) จัดงานสัมมนาเรื่อง “วิทยุชุมชน/เคเบิ้ลทีวี มาตรการในการอนุญาตและควบคุมดูการกระจายเสียงและภาพ”
ทั้งนี้ นายรณฤทธิชัย คานเขต ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการสื่อสารและโทรคมนาคม สภาผู้แทนราษฎร ได้กล่าวในงานสัมมนาว่า ปัญหาที่วิทยุชุมชนเผชิญอยู่ขณะนี้คือการดำเนินการที่เกินกว่าที่กรอบของกฎหมายกำหนดใช้ วิทยุชุมชนได้มีการทดลองเปิดใช้โดยที่ไม่ได้มีการห้ามให้ตั้งเกิน ที่กำหนดให้เสาสูง 30 เมตร แผ่กระจายไปได้ไม่เกิน 15 กิโลเมตร และการที่ไม่มีสปอร์เซอร์ทำให้วิทยุชุมนุมบางที่อยู่ไม่ได้ ซึ่งขณะนี้เป็นเรื่องของพาณิชย์ไปแล้ว หากพรบ.การจัดสรรคลื่นความถี่ไม่ได้กำหนดให้มีสปอร์เซอร์ได้เชื่อว่าจะมีปัญหาทั่วประเทศแน่นอน ซึ่ง 800 กว่าอำเภอ ซึ่งมีวิทยุชุมชนกว่า 5,600 สถานีมีปัญหาได้
อย่างไรก็ตาม นายรณฤทธิชัย ระบุว่า ตนเองเป็นคนเขียนกฎหมาย ซึ่งก็ต้องเขียนเพื่อคนในชุมชนให้ได้ประโยชน์สูงสุด เพราะถ้าคนที่เขียนกฎหมายรู้ปัญหาแล้ว แต่ไม่แก้ไขปัญหา มันก็อันตราย เพราะวิทยุชุมชนที่มีอยู่ขณะนี้เท่าที่ทราบเป็นวิทยุชุมชนที่มีสปอร์เซอร์ส่วนใหญ่ ที่สำคัญวันนี้คนที่ทำวิทยุชุมชนกำลังรอใบอนุญาตที่ถูกต้องตามกฎหมายและยอมเสียภาษีให้กับรัฐด้วย
ด้านนายเชน เทือกสุบรรณ รองประธานคณะกมธ.ฯ กล่าวว่า ต้องยอมรับความเป็นจริงว่า สภาพปัจจุบันกฎหมายและระเบียบข้อบังคับทั้งหลายยังมีอุปสรรค ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีสารสนเทศ ความรวดเร็วของข่าวสาร การเปิดรับฟังความคิดเห็นก็จะเป็นข้อเสนอแนะที่จะนำไปปรับเพื่อให้กฎหมายมีผลบังคับใช้ตามเจตนารมณ์ของผู้ที่ทำวิทยุชุมชน
นายเชน กล่าวต่อว่า เรื่องที่น่าเป็นห่วงคือ วิทยุชุมชนมีความหลากหลาย มีการร่วมกลุ่มเป็นเครือข่าย หรือเป็นเอกเทศก็มี อุปสรรคปัญหาไม่เหมือนกัน เป้าหมายการสัมมนาคือการสนองตอบเจตนารมณ์ของพวกเรา แต่ต้องยอมรับว่าไม่สามารถตอบสนองให้กับทุกคนได้ เราต้องเปิดใจรับฟัง ตัดทอนผลประโยชน์ของกลุ่มออกไปบ้าง ตนในฐานะมีหน้าที่ผลักดันให้ออกมาเป็นกฎหมาย วิธีปฏิบัติ เพื่อให้กิจกรรมวิทยุกระจายเสียง เคเบิลโทรทัศน์ขับเคลื่อนไปได้ โดยคำนึงถึงประโยชน์ของประเทศชาติเป็นสำคัญ และมีความเป็นธรรม
“ ปัญหาที่วิทยุชุมชนถูกร้องเรียนมากที่สุดคือ การที่คลื่นไปรบกวนคลื่นการบิน พูดจาไม่ดี และเพื่อให้มีชอบเขตในการปฏิบัติ และเพื่อให้มีคุณภาพทีดี ไม่มีอะไรแอบแฝง ประชาชนต้องได้ข่าวสารข้อมูลที่เป็นจริง โดยไม่ถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้กระทำความผิด แต่มีหน้าที่ทำในสิ่งที่ผิดให้เป็นเรื่องที่ถูกต้อง ทำให้เกิดความร่วมมือ รวมกันเป็นกลุ่มเป็นองค์กร ขับเคลื่อนเจตนารมณ์ให้บรรลุเป้าหมาย”
นายสมชัย เจริญชัยฤทธิ์ รองประธานคณะกมธ.ฯ กล่าวว่า วิทยุชุมชนเป็นวิทยุเถื่อนมาตลอด เราต้องการให้คำว่าเถื่อนหมดไปเสียที และหากจะต้องเสียภาษีให้กับรัฐบาลก็ยินดี วิทยุชุมชนขอเพียงแค่อยู่ในกรอบของกฎหมายของบ้านเมือง เพราะไม่อยากให้ไทยมีความแตกแยกไปมากกว่านี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในงานสัมมนาดังกล่าว ได้มีการจัดทำบันทึกร่างสภาองค์กรวิทยุ-โทรทัศน์และเคเบิ้ลท้องถิ่นแห่งชาติ ว่าด้วยเรื่อง ขออาสาในการร่วมทำงานกับรัฐบาลเพื่อแก้ไขปัญหาให้เกิดความสงบเรียบร้อยและสร้างความมั่นคงในชาติ ถึงนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี โดยเนื้อหาร่างบันทึกดังกล่าวระบุว่า
ด้วย สภาองค์กรวิทยุ-โทรทัศน์และเคเบิ้ลท้องถิ่นแห่งชาติ ซึ่งประกอบด้วยสมาชิกภาคประชาชนที่เกี่ยวข้องกับบริการสื่อสารภาคประชาชน ไม่ว่าวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ เคเบิลทีวี ที่ดำเนินการให้บริการแก่ประชาชนมาอย่างต่อเนื่องยาวนานของแต่ละชุมชนท้องถิ่นในปัจจุบัน ได้ตกลงร่วมกันภายใต้กรอบหลักการของการประสานความร่วมมือ เพื่อควบคุมและกำกับดูแลกันเองให้เกิดความเรียบร้อย และสร้างความมั่นคงในชาติ ในการนี้สมาชิกเครือข่ายสื่อสารภาคประชาชนภายใต้องค์กรวิทยุ-โทรทัศน์และเคเบิลทีวี ขออาสาในการทำงานร่วมกับรัฐบาล ดังนี้
1.จะร่วมมือกันในการประชาสัมพันธ์ และเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารผ่านเครือข่ายสื่อสารภาคประชาชนทั้งวิทยุ-โทรทัศน์ และเคเบิลทีวีท้องถิ่น ด้วยข้อมูลข่าวสารตรงกับข้อเท็จจริง ภายใต้มาตรฐาน จริยธรรม และคุณธรรม สื่อสารมวลชนที่ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งการประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสารของทางรัฐบาล และการจัดกิจกรรมแสดงความร่วมมือของประชาชนทั้งประเทศในวันที่ 9 เดือนกันยายน พ.ศ.2552
2.จะร่วมมือในการดำเนินกิจการสื่อวิทยุ-โทรทัศน์และเคเบิลทีวีท้องถิ่นด้วยความสร้างสรรค์ โดยคำนึงถึงประโยชน์สาธารณะ และความต้องการของประชาชนอย่างแท้จริง
3.จะร่วมมือกันในการทำหน้าที่ควบคุม และกำกับดูแลการดำเนินกิจการสื่อวิทยุ-โทรทัศน์ และเคเบิลทีวีท้องถิ่น ภายใต้สภาองค์กร-วิทยุโทรทัศน์และเคเบิลท้องถิ่นแห่งชาติ เพื่อเตรียมความพร้อมในการรองรับการทำงานองค์กรของรัฐที่เป็นอิสระทำหน้าที่ในการจัดสรรคลื่นความถี่ และกำกับกิจการวิทยุกระจายเสียงวิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมตามรัฐธรรมนูญ
วานนี้ (15 พ.ค.) ที่โรงแรมรามาการ์เด้นส์ คณะกรรมาธิการสื่อสารและโทรคมนาคม สภาผู้แทนราษฎร ร่วมกับสมาคมสิทธิผู้บริโภคและคณะกรรมการกิจการจัดสรรคลื่นความถี่สำหรับกิจการวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์(กทช.) จัดงานสัมมนาเรื่อง “วิทยุชุมชน/เคเบิ้ลทีวี มาตรการในการอนุญาตและควบคุมดูการกระจายเสียงและภาพ”
ทั้งนี้ นายรณฤทธิชัย คานเขต ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการสื่อสารและโทรคมนาคม สภาผู้แทนราษฎร ได้กล่าวในงานสัมมนาว่า ปัญหาที่วิทยุชุมชนเผชิญอยู่ขณะนี้คือการดำเนินการที่เกินกว่าที่กรอบของกฎหมายกำหนดใช้ วิทยุชุมชนได้มีการทดลองเปิดใช้โดยที่ไม่ได้มีการห้ามให้ตั้งเกิน ที่กำหนดให้เสาสูง 30 เมตร แผ่กระจายไปได้ไม่เกิน 15 กิโลเมตร และการที่ไม่มีสปอร์เซอร์ทำให้วิทยุชุมนุมบางที่อยู่ไม่ได้ ซึ่งขณะนี้เป็นเรื่องของพาณิชย์ไปแล้ว หากพรบ.การจัดสรรคลื่นความถี่ไม่ได้กำหนดให้มีสปอร์เซอร์ได้เชื่อว่าจะมีปัญหาทั่วประเทศแน่นอน ซึ่ง 800 กว่าอำเภอ ซึ่งมีวิทยุชุมชนกว่า 5,600 สถานีมีปัญหาได้
อย่างไรก็ตาม นายรณฤทธิชัย ระบุว่า ตนเองเป็นคนเขียนกฎหมาย ซึ่งก็ต้องเขียนเพื่อคนในชุมชนให้ได้ประโยชน์สูงสุด เพราะถ้าคนที่เขียนกฎหมายรู้ปัญหาแล้ว แต่ไม่แก้ไขปัญหา มันก็อันตราย เพราะวิทยุชุมชนที่มีอยู่ขณะนี้เท่าที่ทราบเป็นวิทยุชุมชนที่มีสปอร์เซอร์ส่วนใหญ่ ที่สำคัญวันนี้คนที่ทำวิทยุชุมชนกำลังรอใบอนุญาตที่ถูกต้องตามกฎหมายและยอมเสียภาษีให้กับรัฐด้วย
ด้านนายเชน เทือกสุบรรณ รองประธานคณะกมธ.ฯ กล่าวว่า ต้องยอมรับความเป็นจริงว่า สภาพปัจจุบันกฎหมายและระเบียบข้อบังคับทั้งหลายยังมีอุปสรรค ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีสารสนเทศ ความรวดเร็วของข่าวสาร การเปิดรับฟังความคิดเห็นก็จะเป็นข้อเสนอแนะที่จะนำไปปรับเพื่อให้กฎหมายมีผลบังคับใช้ตามเจตนารมณ์ของผู้ที่ทำวิทยุชุมชน
นายเชน กล่าวต่อว่า เรื่องที่น่าเป็นห่วงคือ วิทยุชุมชนมีความหลากหลาย มีการร่วมกลุ่มเป็นเครือข่าย หรือเป็นเอกเทศก็มี อุปสรรคปัญหาไม่เหมือนกัน เป้าหมายการสัมมนาคือการสนองตอบเจตนารมณ์ของพวกเรา แต่ต้องยอมรับว่าไม่สามารถตอบสนองให้กับทุกคนได้ เราต้องเปิดใจรับฟัง ตัดทอนผลประโยชน์ของกลุ่มออกไปบ้าง ตนในฐานะมีหน้าที่ผลักดันให้ออกมาเป็นกฎหมาย วิธีปฏิบัติ เพื่อให้กิจกรรมวิทยุกระจายเสียง เคเบิลโทรทัศน์ขับเคลื่อนไปได้ โดยคำนึงถึงประโยชน์ของประเทศชาติเป็นสำคัญ และมีความเป็นธรรม
“ ปัญหาที่วิทยุชุมชนถูกร้องเรียนมากที่สุดคือ การที่คลื่นไปรบกวนคลื่นการบิน พูดจาไม่ดี และเพื่อให้มีชอบเขตในการปฏิบัติ และเพื่อให้มีคุณภาพทีดี ไม่มีอะไรแอบแฝง ประชาชนต้องได้ข่าวสารข้อมูลที่เป็นจริง โดยไม่ถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้กระทำความผิด แต่มีหน้าที่ทำในสิ่งที่ผิดให้เป็นเรื่องที่ถูกต้อง ทำให้เกิดความร่วมมือ รวมกันเป็นกลุ่มเป็นองค์กร ขับเคลื่อนเจตนารมณ์ให้บรรลุเป้าหมาย”
นายสมชัย เจริญชัยฤทธิ์ รองประธานคณะกมธ.ฯ กล่าวว่า วิทยุชุมชนเป็นวิทยุเถื่อนมาตลอด เราต้องการให้คำว่าเถื่อนหมดไปเสียที และหากจะต้องเสียภาษีให้กับรัฐบาลก็ยินดี วิทยุชุมชนขอเพียงแค่อยู่ในกรอบของกฎหมายของบ้านเมือง เพราะไม่อยากให้ไทยมีความแตกแยกไปมากกว่านี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในงานสัมมนาดังกล่าว ได้มีการจัดทำบันทึกร่างสภาองค์กรวิทยุ-โทรทัศน์และเคเบิ้ลท้องถิ่นแห่งชาติ ว่าด้วยเรื่อง ขออาสาในการร่วมทำงานกับรัฐบาลเพื่อแก้ไขปัญหาให้เกิดความสงบเรียบร้อยและสร้างความมั่นคงในชาติ ถึงนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี โดยเนื้อหาร่างบันทึกดังกล่าวระบุว่า
ด้วย สภาองค์กรวิทยุ-โทรทัศน์และเคเบิ้ลท้องถิ่นแห่งชาติ ซึ่งประกอบด้วยสมาชิกภาคประชาชนที่เกี่ยวข้องกับบริการสื่อสารภาคประชาชน ไม่ว่าวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ เคเบิลทีวี ที่ดำเนินการให้บริการแก่ประชาชนมาอย่างต่อเนื่องยาวนานของแต่ละชุมชนท้องถิ่นในปัจจุบัน ได้ตกลงร่วมกันภายใต้กรอบหลักการของการประสานความร่วมมือ เพื่อควบคุมและกำกับดูแลกันเองให้เกิดความเรียบร้อย และสร้างความมั่นคงในชาติ ในการนี้สมาชิกเครือข่ายสื่อสารภาคประชาชนภายใต้องค์กรวิทยุ-โทรทัศน์และเคเบิลทีวี ขออาสาในการทำงานร่วมกับรัฐบาล ดังนี้
1.จะร่วมมือกันในการประชาสัมพันธ์ และเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารผ่านเครือข่ายสื่อสารภาคประชาชนทั้งวิทยุ-โทรทัศน์ และเคเบิลทีวีท้องถิ่น ด้วยข้อมูลข่าวสารตรงกับข้อเท็จจริง ภายใต้มาตรฐาน จริยธรรม และคุณธรรม สื่อสารมวลชนที่ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งการประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสารของทางรัฐบาล และการจัดกิจกรรมแสดงความร่วมมือของประชาชนทั้งประเทศในวันที่ 9 เดือนกันยายน พ.ศ.2552
2.จะร่วมมือในการดำเนินกิจการสื่อวิทยุ-โทรทัศน์และเคเบิลทีวีท้องถิ่นด้วยความสร้างสรรค์ โดยคำนึงถึงประโยชน์สาธารณะ และความต้องการของประชาชนอย่างแท้จริง
3.จะร่วมมือกันในการทำหน้าที่ควบคุม และกำกับดูแลการดำเนินกิจการสื่อวิทยุ-โทรทัศน์ และเคเบิลทีวีท้องถิ่น ภายใต้สภาองค์กร-วิทยุโทรทัศน์และเคเบิลท้องถิ่นแห่งชาติ เพื่อเตรียมความพร้อมในการรองรับการทำงานองค์กรของรัฐที่เป็นอิสระทำหน้าที่ในการจัดสรรคลื่นความถี่ และกำกับกิจการวิทยุกระจายเสียงวิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมตามรัฐธรรมนูญ
